การเป็น “แชมป์โลก” ไม่อาจเปลี่ยนตัวตนของ “แบรนดอน เวรา”

Brandon Vera DC 7293

เมื่อ “The Truth” แบรนดอน เวรา กลายเป็นแชมป์โลก ONE รุ่นเฮฟวีเวต หลังคว้าชัยชนะในศึก ONE: SPIRIT OF CHAMPIONS เดือนธันวาคม 2015 ชีวิตของเขาได้เปลี่ยนไปตลอดกาล

ซูเปอร์สตาร์ชาวฟิลิปปินส์-อเมริกันใฝ่ฝันที่จะก้าวขึ้นมาสู่จุดสูงสุดของอาชีพมาโดยตลอด และความฝันนั้นก็กลายเป็นจริง เมื่อเขาน็อก “พอล เชง” ต่อหน้าแฟนๆ ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ อันเป็นบ้านเกิดของเขา

ในศึก ONE: CENTURY PART II ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เขาตั้งเป้าหมายที่จะคว้าเข็มขัดมาครองอีกเส้น ด้วยการลงมาชิงแชมป์ในรุ่นไลต์ เฮฟวีเวต กับ “The Burmese Python” ออง ลา เอ็น ซาง ที่สนามเรียวโงกุ โกกุงิกัง ในวันที่ 13 ตุลาคมนี้

“The Truth” ไม่มีวันลืมความรู้สึกในวันที่เขาคว้าเข็มขัดเส้นแรกมาครองได้สำเร็จ และนั่นเป็นหนึ่งในแรงผลักดันที่ทำให้เขาฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อโอกาสที่จะสร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นแชมป์โลกทั้งสองรุ่น

“คุณรู้หรือเปล่า ผมมีความสุขมากที่ได้ขึ้นสังเวียนต่อหน้าชาวฟิลิปปินส์ทั้งประเทศ จนเกือบลืมนึกถึงเรื่องเข็มขัดแชมป์โลกไปเลย จนกระทั่งมีคนมามอบให้ผม”

“ทันทีที่ผมรู้ตัว ผมภูมิใจ ปลาบปลื้ม และมีความสุข ผมดีใจมาก ผมรู้สึกทุกอย่างในเวลาเดียวกัน มันยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ มันเหลือเชื่อจริงๆ” 

“ผมเป็นแชมป์โลกและคว้าเข็มขัดมาครองต่อหน้าชาวฟิลิปปินส์ ความรู้สึกในตอนนั้นมันคูณไปอีกสี่เท่า!”

เวรา โลดแล่นบนสังเวียนมานานกว่า 13 ปี แต่โอกาสในการชิงตำแหน่งแชมป์โลกของเขามักจะเฉียดไปเฉียดมาเสมอ และแล้วการแข่งขันครั้งที่สองใน “บ้านแห่งศิลปะการต่อสู้” ก็มาถึงซึ่ง เวรา ก็ไม่ปล่อยให้โอกาสครั้งนี้หลุดมือไป ด้วยการสร้างไฟต์ที่น่าจดจำด้วยการชนะน็อกในเวลาเพียง 26 วินาที

อย่างไรก็ตาม การคว้าเข็มขัดของ ONE มาครองเป็นมากกว่าความสำเร็จส่วนตัว เวรา ตั้งใจที่จะยกระดับกีฬาศิลปะการต่อสู้ในบ้านเกิด ดังนั้น เข็มขัดเส้นนี้จึงเป็นความสำเร็จของชาวฟิลิปปินส์เช่นกัน



“เป้าหมายทั้งหมด คือการเป็นแบบอย่างให้กับทุกคน”

“มันง่ายนะที่จะไปบอกคนอื่นว่าต้องทำอะไร แต่เมื่อคุณลงมือทำจริงๆ คุณผ่านร้อนผ่านหนาวมา เข้าใจถึงความเจ็บปวด ความโดดเดี่ยว ผมไม่ต้องไปบอกใคร เพราะพวกเขาเห็นแล้วว่าผมผ่านอะไรมาบ้าง และนั่นคือจุดประสงค์ที่แท้จริงในการเป็นแชมป์โลกของผม”

เวรา เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกมาก่อนแล้ว แต่ทันทีที่เขาขึ้นนั่งบัลลังก์แชมป์โลก เข็มขัดขึ้นพาดบนไหล่ของเขา เวรา ก็กลายเป็นจุดสนใจ และเป็นขวัญใจของแฟนๆ ทั่วโลก

เส้นทางอาชีพของเขาสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักศิลปะการต่อสู้รุ่นใหม่ และเขาจริงจังกับการเป็นตัวอย่างที่ดีเสมอ เวรา ต้องการแสดงให้เห็นถึงวิถีการใช้ชีวิตอย่างนักศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริง เพื่อเป็นต้นแบบให้คนอื่นๆ

“ผมสังเกตว่าผู้คนให้ความสนใจและจับตามองผมอยู่เป็นจำนวนมาก พวกเขาพูดถึงผมเกี่ยวกับความสำเร็จหลังจากที่ผมได้เป็นแชมป์โลก”

“ผมไม่เคยกังวลถึงการเป็นต้นแบบให้ใคร จนกระทั่งเวลานั้นมาถึง เมื่อจำเป็นต้องใส่ใจในการใช้ชีวิตของตัวเอง เพราะตอนนี้ผมกลายเป็นแบบอย่างให้ใครหลายๆ คนแล้ว”

“นั่นไม่ได้หมายความว่าผมเสแสร้งแกล้งทำ หรือเปลี่ยนความเป็นตัวของตัวเองไป บางทีผมพูดคำหยาบให้น้อยลงกว่าแต่ก่อน หรือพยายามจะทำตัวให้ดูสุภาพมากขึ้น ผมรู้ว่าการเป็นตัวอย่างที่ดีคือการทำให้เห็น ผมคิดว่าผมก็ทำได้ไม่เลวเท่าไหร่”

“The Truth” มีอิทธิพลอย่างมากในฟิลิปปินส์ และคนจำนวนมากทั่วโลก ทำให้เขาต้องอ่อนน้อมถ่อมตนและมีสมาธิอยู่เสมอ แต่ใครก็ตามที่ได้เจอ เวรา ก่อนที่เขาจะประสบความสำเร็จบนเวทีระดับโลก จะรู้ว่าเขาไม่ได้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด  

แม้ว่าจะป้องกันแชมป์โลก ONE รุ่นเฮฟวีเวตได้ถึงสองครั้งในฐานะคู่เอกของอีเวนต์ศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่เวรา ไม่เคยปล่อยให้มาตรฐานของตัวเองลดลง

เขายึดมั่นกับจรรยาบรรณในการทำงาน ซึ่งทำให้เขาปีนขึ้นมาสู่จุดสูงสุดในอาชีพได้สำเร็จ และนั่นอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เขาคว้าชัยเหนือ ออง ลา เอ็น ซาง และชิงเข็มขัดแชมป์โลกเส้นที่สองมาครองในกรุงโตเกียว

“มีสิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปหลังจากที่ผมกลายเป็นแชมป์โลก คือมีอะไรที่ต้องทำมากขึ้นกว่าเดิม!”

“ผมยุ่งมากกับการฝึกซ้อม รวมถึงอีเวนต์ต่างๆ ไหนจะต้องรับโทรศัพท์ และสัมภาษณ์กับสื่อ แต่นอกเหนือจากนี้ ชีวิตเราก็เหมือนเดิม”

“ภรรยาของผมทำให้ผมไม่ลืมตัวเอง เธอทำให้ผมใช้ชีวิตประจำวัน และทำสิ่งอื่นๆ ตามปกติเหมือนที่เราเคยทำมาก่อนที่จะมีวันนี้ ทำทุกอย่างให้ปกติที่สุดเท่าที่เราจะทำได้”

อ่านเพิ่มเติม: จากใจ มิชา เทต: การรีแมตช์ระหว่าง “ซง จิง หนาน” กับ “แองเจลา ลี” ใน ONE: CENTURY

 

โตเกียว | 13 ตุลาคม | ONE: CENTURY | ทีวี: ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ตามเวลาที่สถานีกำหนด | บัตรเข้าชม: http://bit.ly/onecentury19

ONE: CENTURY คือศึกชิงแชมป์โลกศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งมีแชมป์โลก 28 คนจากหลากหลายศิลปะการต่อสู้ขึ้นเวที ไม่มีองค์กรใดที่เคยจัดอีเวนต์ชิงแชมป์โลกแบบเต็มสเกลถึง 2 ศึกในวันเดียวกันมาก่อนในประวัติศาสตร์

วัน แชมเปียนชิพ เตรียมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการชิงแชมป์โลกมากมาย รอบชิงชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 3 คู่ และแชมป์โลกปะทะแชมป์โลกอีกมากมาย ในสังเวียน เรียวโงกุ โกกุงิกัง กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 13 ตุลาคมนี้

ดูเพิ่มเติมในหมวด บทความ

11 Anatoly Malykhin VS Oumar Kane one 169 (33)
06 Rungrawee vs George Jarvis OL85 (2)
06 Parham Gheirati vs George Mouzakitis (32) OL84
OFN13 Marcus Almeida VS Oumar Kane (1)
OL75_03 Shir Cohen VS Francisca Vera (25)
youssef assouik 16 9
Thai champs cover update
OL58 Seksan vs Yutaro Asahi (62)
Jonathan Haggerty vs Felipe Lobo OFN19 (52)
Shadow Mom
Suablack Tor Pran49 vs Craig Coakley OL46 (17)
Saemapetch VS Felipe Lobo60