ขี้สงสัย!…”เอเลียน” เกี่ยวอะไรในการเปิดตัว “ครูตอง”

นักสู้ที่มีไอเดียเปิดตัวโดดเด่นที่สุดคนหนึ่งใน วัน แชมเปียนชิพ ต้องยกให้ “ครูตอง” ชนนภัทร วิรัชชัย ล่าสุดเขาใช้ไอเดียเปิดตัวด้วยเอเลียน ในศึก ONE: KING OF THE JUNGLE จึงทำให้แฟนๆ สงสัยว่า ครูตอง ต้องการสื่ออะไร

ชนนภัทร นักกีฬาที่มีประวัติค่อนข้างฉีกแนวไปจากนักสู้ส่วนใหญ่ของบ้านเรา พ่อของเขาเป็นถึงอาจารย์แพทย์ แม่เป็นอาจารย์พยาบาล ส่วนตัวเขาเองก็จบการศึกษาในคณะการโรงแรมและท่องเที่ยวจีน มีความสามารถพูดได้ถึง 3 ภาษา แม้จะมีงานหลากหลายที่สามารถทำได้ แต่เขากลับเลือกที่จะไล่ตามความปรารถนาของตัวเองกับการเป็นนักสู้บนสังเวียนเดือด

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งที่ ครูตอง เปิดตัวออกจากหลังเวทีที่ สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม อย่างมีคอนเซ็ปต์ เช่นเดียวกับทุกครั้งที่ผ่านมา หากไม่อิงกระแสบ้านเมือง ก็มักจะมีการสื่อข้อความบางอย่างถึงคู่แข่งขัน หรือผู้ชม โดยในครั้งนี้เขาเปิดตัวพร้อมตัวเอเลียนสีเขียว

“คอนเซ็ปต์จริงๆ ต้องการจะสื่อว่า การที่มีเอเลียนอุ้มเราออกมา ก็เหมือนกับการที่เราลดลงมาสู้ในรุ่นน้ำหนักเดิมที่เราถนัดเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ไม่ใช่ตัวเราคนเดียว แต่ยังมีคนอื่นที่อยู่เบื้องหลัง คอยช่วยเราวางแผน และให้ความร่วมมือกันหลายคน”

“ถามว่าทำไมต้องเป็น เอเลียน คือจริงๆ ชุดนี้มันมีสองตัวให้เลือกระหว่าง เอเลียน กับ ยมทูต ซึ่งผมมองว่า เอเลียน ดูน่ารักกว่า และตีความได้หลายแบบครับ”

ตั้งแต่เป็นนักกีฬาของ วัน แชมเปียนชิพ มากว่า 8 ปี ครูตอง เปิดตัวอย่างมีคอนเซ็ปต์มาโดยตลอด จนกลายเป็นเอกลักษณ์และช่วยสร้างสีสันให้กับเวทีดุแห่งนี้ ถึงขั้นกลายเป็นความน่าติดตามว่าเขาจะทำอะไร หรือใส่อะไรในไฟต์ต่อไป รวมถึงมีกระแสที่ว่า ครูตอง เอาเวลาไปสนใจเรื่องเปิดตัวมากกว่าการฝึกซ้อมหรือเปล่า

“ไฟต์แรกๆ ผมรู้สึกว่า ความพร้อมของผมมันเหลือเฟือ จึงมีพื้นที่ในหัวที่จะสร้างสรรค์การเปิดตัว เพื่อสื่อสารกับคนดูได้ ยิ่งพอมาแข่งขันที่ประเทศไทยก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำอะไรมากขึ้น”

“อย่างครั้งหนึ่งที่ผมต้องเจอกับนักสู้เมียนมา ก็มีคอมเมนต์ว่า เผากรุงศรี ฆ่ามันเลย ซึ่งก็ทำให้ผมคิดว่ายังมีคนที่คิดอะไรแบบนี้อีกเหรอ แต่ก็ทำให้ผมได้ไอเดียใส่ชุดนักรบถือดาบขี่ไดโนเสาร์ออกมา แทนที่จะขี่ม้า ซึ่ง ไดโนเสาร์ มันเป็นการเปรียบเปรยเชิงการเมืองถึงความคิดเก่าๆ ซึ่งพอเราถอดชุดออก ก็เหมือนกับการที่เราถอดความคิดเก่าๆ และไปสู้กันด้วยฝีมือ”

“เอาจริงๆ ในส่วนของการเตรียมเปิดตัวนั้นมันไม่ได้เสียเวลาอะไรมาก รวมแล้วไม่น่าเกินครึ่งชั่วโมง เราไม่ถึงกับเอาเวลาไปนั่งคิด นอนคิด หรือทำให้เราเครียดขนาดนั้น”

“อย่างเรื่องไอเดียต่างๆ ผมมีสำรองไว้หลายอัน เพราะบางครั้งเราคิดเตรียมไว้ แล้วไม่ได้ใช้ในครั้งนั้น แต่มันก็ยังสามารถเก็บไว้ใช้ได้ในโอกาสต่อไป หากมันไม่อิงกับกระแสอะไร เราจึงมีไอเดียพวกนี้อยู่ตลอด ส่วนเรื่องการจัดหาคอสตูม มันก็ไม่ได้เสียเวลาอะไรมาก เพราะเราหาตามอินเตอร์เน็ต หรือโทรสั่งที่ร้านให้จัดหาชุดให้”

“จะมีก็แต่บางครั้งที่เราเล่นใหญ่ เอาเพื่อน เอาน้อง ไปโชว์ด้วย มันจึงต้องมีการเตรียมคิวกัน เราก็เอาสมาธิที่ควรจะต้องใช้ในการแข่งขัน ไปใช้กับการเตรียมคิวเปิดตัว และทำให้เรามีหลุดบ้างเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งในที่สุดเราก็มาปรับ น้อยไปคนก็ไม่เห็น ใหญ่ไปก็ไม่ดี เราจึงต้องหาจุดที่พอดีๆ ที่ลงตัวครับ”

การเปิดตัวนั้นถือเป็นส่วนหนึ่งของจุดขายที่ทำให้นักกีฬามีเอกลักษณ์ เป็นที่จดจำของผู้ชมได้ง่าย รวมถึงทำให้ผู้ชมเข้าถึงตัวนักกีฬามากขึ้น แต่อย่างที่ ครูตอง บอกว่ามันต้องอยู่บนพื้นฐานของความพอดี เพราะท้ายที่สุดแล้ว หน้าที่ของนักสู้ก็คือการทำผลงานบนสังเวียนให้ดี และชนะใจผู้ชมคนดู ส่วนเรื่องอื่นมันเป็นแค่ “เครื่องปรุงแต่ง” เท่านั้นเอง

อ่านเพิ่มเติม: 

• “ครูตอง” ชนนภัทร นักสู้รุ่นบุกเบิกสมัยคนไทยแทบไม่รู้จัก MMA
• “ริกะ-ครูตอง” คู่รักนักสู้หนุ่มไทย-สาวลูกครึ่ง คู่บุกเบิกของวงการ MMA ไทย
• ย้อนดู 3 คอสเพลย์สุดน่ารักของ “ริกะ อิชิเกะ” ก่อนโชว์เดือดบนสังเวียน