ความทุกข์ในอดีตไม่อาจกั้นอนาคตนักสู้ของ “หวัง เวินเฟง
“Metal Storm” หวัง เวินเฟง เคยถูกรังแกในช่วงวัยเด็ก ซึ่งมันกลายเป็นการปลุกจิตวิญญาณและสร้างแรงผลักดันให้เขาเข้าสู่วงการศิลปะการต่อสู้และประสบควมสำเร็จในเส้นทางอาชีพนี้
วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายนนี้ หวัง จะล่าเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ในศึก ONE: AGE OF DRAGONS ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน อันเป็นบ้านเกิดจากยอดนักชกคิกบ็อกซิ่งแชมป์โลก 7 สมัยอย่าง “Tweety” อิเลียส เอ็นนาฮาชิ ที่สนามคาดิลแลค อารีนา
เราไปทำความรู้จักนักชกหนุ่มวัย 26 ปีรายนี้กันสักหน่อยดีกว่า
ยืนหยัดสู้เมื่อถูกรังแก
หวัง เกิดเมื่อปี 2536 ที่เมืองเหอเฝย์ เมืองเอกของมณฑลอานฮุย ประเทศจีน เขาเป็นเด็กผอมแห้งแรงน้อย แต่ถึงอย่างนั้นสภาพจิตใจของเขากลับแข็งแกร่งมาก
“เพื่อนที่โรงเรียนมองว่ามันง่ายที่จะรังแกผม ทำให้พวกเขารังแกผมอยู่ตลอด พวกเขาใช้ให้ผมไปกวาดพื้น แต่ผมไม่อยากทำ และไม่อยากถูกข่มเหงแบบนี้ ผมไม่มีความสุขเลย คิดแต่จะหาวิธีโต้ตอบ แม้จะเอาชนะไม่ได้ แต่ผมก็พยายามสู้กับพวกเขาบ้าง”
ปัญหาในโรงเรียนส่งผลกระทบโดยตรงกับพฤติกรรมของเขา ทำให้เขาไม่อยากไปโรงเรียน ผลการเรียนก็ย่ำแย่ พ่อแม่จึงตัดสินใจครั้งใหญ่ ซึ่งนั่นทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป
เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้
พ่อแม่ของ หวัง พาเขาไปสมัครเรียนศิลปะการต่อสู้เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หวัง ไม่ชอบไอเดียนี้ แต่เขาก็ต้องทำตามอย่างขัดไม่ได้
“พ่อแม่ของผมคิดว่าผมเรียนหนังสือได้ไม่ดี และเคยให้โอกาสผมมาหลายครั้งแล้ว ในที่สุดจึงพาผมไปเรียนการต่อสู้ ซึ่งตอนนั้นผมไม่เห็นด้วย แตก็ต้องทำตามการตัดสินใจของท่าน”
“ผมไม่ได้อยากจะเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับการต่อสู้นักหรอก เท่าที่ผมดูจากในทีวี มันมีคนที่เหาะเหินเดินอากาศได้ และสามารถเอาชนะคนเป็นสิบ ซึ่งเท่าที่ผมจำได้ มันเกินความจริงไปมาก”
อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปไม่นาน หวัง ก็เริ่มเปลี่ยนความคิด เมื่อเขาห่างไกลจากสภาพแวดล้อมเดิมๆ และค้นพบแนวทางพัฒนาฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ จนในที่สุดเขาก็ยอมรับประโยชน์ของศิลปะการต่อสู้
“ผมค่อยๆ คุ้นเคยกับชีวิตในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ ทุกคนเข้ากันได้ดี ชีวิตที่นี่แตกต่างจากที่ผมคิดไว้มาก”
“ผมเลือกศิลปะการต่อสู้จีน และผมฝึกซ้อมเป็นประจำทุกวัน ผมแอบคิดว่าลีลาการเคลื่อนไหวมันดูเท่มาก ผมรู้สึกหลงใหลมันมากทีเดียว”
โค้ชวิชาสานต่า มองเห็นถึงพรสวรรค์ของเขา และผลักดันให้ หวัง เข้าร่วมทีมของโรงเรียน หลังจากนั้นสองปีหนุ่มนักสู้ผู้นี้ก็ได้ย้ายไปอยู่โรงเรียนกีฬาเหอเฝย์ เขาได้สานต่อเส้นทางเดิมและคว้าแชมป์ระดับจังหวัดมากมาย จากนั้นไม่นาน หวัง ก้ได้ทดลองฝึกมวยไทย และเขาตกหลุมรักศาสตร์แขนงนี้ในทันที
“ผมเคยเห็นมวยไทยแต่ในภาพยนตร์ ผมเคยคิดว่ามันรุนแรงไปหน่อย แต่หลังจากที่ได้รู้จักมวยไทยมากขึ้น ความคิดผมก็เปลี่ยนไป แถมยังเรียนรู้ได้ไวและเข้ากันได้ดี”
บาดเจ็บเพราะการต่อสู้
เส้นทางที่ หวัง เลือกเดินไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การต่อสู้บนสังเวียนผืนผ้าใบนำมาซึ่งการบาดเจ็บครั้งรุนแรงที่สุดในชีวิต
“จุดตกต่ำของชีวิตผมเกิดขึ้นที่ประเทศไทย ผมได้รับบาดเจ็บระหว่างแข่งขัน แต่ก็ต้องฝืนจนครบ 3 ยก”
“ผมต้องกลับมารักษาตัวที่ประเทศจีน หมอบอกว่าผมอาจไม่ได้กลับไปชกมวยอีก ผมรู้สึกเหมือนโลกแตก ตลอดสองเดือนหลังจากนั้นผมดื่มหนัก ใครเตือนก็ไม่ฟัง เอาแต่เมาอย่างเดียว”
“ผมไม่กล้าแม้แต่จะบอกครอบครัวเรื่องที่ผมบาดเจ็บ เพราะผมไม่อยากให้พวกเขาต้องกลัวและเป็นกังวล ความกดดันทุกอย่างจึงรุมอยู่ที่ตัวผมคนเดียว”
หมอแนะนำให้ หวัง เข้ารับการผ่าตัด แต่เขาไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยง ซึ่งนั่นหมายถึงเขาอาจจะไม่สามารถเดินข้ามเชือกเวทีได้อีก
โค้ชจึงแนะนำให้เขาลองบำบัดด้วยการแพทย์แผนจีนโบราณ ซึ่งมันอาจต้องใช้เวลานาน แต่แทบไม่มีความเสี่ยงอะไร หลังรักษาตัวอยู่นาน 6 เดือนทุกอย่างเป็นไปด้วยดี หวัง สามารถกลับมาฝึกซ้อมได้ แถมยังมีความกระหายมากกว่าแต่ก่อน ซึ่งภายในระยะเวลา 1 ปีหลังจากได้รับบาดเจ็บ เขาก็กลับมาแข่งขันได้ตามปกติพร้อมกับประสบความสำเร็จอีกด้วย
ประสบการณ์อันแสนลำบาก นำมาซึ่งบทเรียนอันประเมินค่าไม่ได้
“ไม่ว่าเราจะเจอกับปัญหาอะไร ตราบใดที่คุณกล้าเผชิญหน้ากับมัน มันก็ไม่ได้แย่นักหรอก ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะรับมือกับมันอย่างไร และมีความพยายามที่จะก้าวข้ามมากแค่ไหน”
ภารกิจสู่แชมป์โลก
ด้วยดีกรีแชมป์ระดับประเทศ 4 สมัย และแชมป์ระดับโลกอีก 3 สมัย ทำให้ หวัง ถือว่าเป็นหนึ่งในนักสู้ชาวจีนที่ประสบความสำเร็จมากสุดในประวัติศาสตร์
“ผมคว้ารางวัลใหญ่ที่สุดในชีวิต (หลังจากได้รับบาดเจ็บ) ผมไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดและคว้าแชมป์โลก มันน่าเหลือเชื่อว่าผมสามรถคว้าแชมป์มาได้ ทำให้ผมคิดว่าผมยังสามารถไปได้ไกลกว่านี้”
ตอนนี้เขาได้ก้าวสู่สังเวียนระดับโลกเพื่อไล่ล่าเข็มขัดอันเป็นยอดปรารถนา นั่นก็คือแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง
การถูกรังแกและอาการบาดเจ็บไม่อาจฉุดรั้งเขาได้ และตอนนี้เขายังคงเดินหน้าต่อไป เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในชีวิตกับการเป็นตัวแทนของประเทศบ้านเกิดบนสังเวียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
“ผมจะขึ้นท้าชิงแชมป์โลกตั้งแต่นัดเปิดตัวใน วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งมันทำให้มีคำถามตามมามากมาย แต่ผมมั่นใจในตัวเอง และพร้อมจะพิสูจน์ว่าผมนี่ล่ะที่คู่ควร ผมเชื่อว่าผมสามารถคว้าชัยชนะในไฟต์นี้ได้”
“เพราะว่าผมจะได้แข่งในประเทศบ้านเกิด นี่ถือเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม ครอบครัวและเพื่อนๆ ต่างก็อยู่ที่กรุงปักกิ่ง ผมอยากให้พ่อแม่ได้เห็นลูกชายกลายเป็นแชมป์โลก”
อ่านเพิ่มเติม: “หวัง เวินเฟง” พูดจริงทำจริง ผมมาเพื่อน็อก “อิเลียส เอ็นนาฮาซิ”
AGE OF DRAGONS | กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน | 16 พฤศจิกายน 2562 | 16.00 น. | ONE Super App ยิงสด 17.30 น. | ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 21.30 น.