จุดเปลี่ยนชีวิตวัยรุ่นของ “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี”
กว่าที่ “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” จะกลายเป็นดาวดังของ วัน แชมเปียนชิพ ในวันนี้ หากย้อนถึงอดีตในช่วงวัยรุ่น อาจแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะมีพรสวรรค์ทางด้านมวยไทย และจะได้ขึ้นชกบนเวทีระดับโลกในวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายนนี้ เพื่อเผชิญหน้าอีกหนึ่งยอดฝีมือจากอังกฤษอย่าง “ชาร์ลี ปีเตอร์ส” ในศึก ONE: EDGE OF GREATNESS ที่สิงคโปร์
เพชรมรกต เติบโตจากครอบครัวชาวนาในจังหวัดอุบลราชธานี เขาใช้ชีวิตในวัยเด็กแบบอดมื้อกินมื้อ เพราะฐานะทางบ้านยากจน เขาเริ่มฝึกฝนมวยไทยตั้งแต่อายุเพียง 11 ปี และนั่นคือจุดเปลี่ยนในชีวิตของเขาและครอบครัว
จากที่คิดว่าจะเป็นแค่รายได้เสริมก็กลายเป็นอาชีพหลัก เงินทองที่หามาได้จากน้ำพักน้ำแรงในการชกมวย ช่วยให้ครอบครัวของเขามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
“ผมมีพี่น้อง 3 คน ผมเป็นคนโต มีน้องชายหนึ่งคน น้องสาวหนึ่งคน ที่บ้านทำนา ตอนเด็กๆ ผมหาปูหาปลาตามห้วยตามหนองมาให้พ่อแม่ทำกับข้าว ผมเห็นลูกชายของลุงต่อยมวยแล้วได้เงิน ผมก็เลยอยากทำบ้าง จึงเดินสายชกมวยตามภูธร มีแพ้บ้างชนะบ้าง ถ้าไม่ต่อยมวยก็ไม่รู้จะทำอะไร”
การฝึกซ้อมอย่างหนักวันละ 2 รอบ บวกกับต้องเรียนหนังสือไปด้วย กลายเป็นภาระที่หนักหนาสำหรับชีวิตเด็กหนุ่ม ซึ่งเริ่มมองเห็นเพื่อนๆ ใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ ยิ่งก้าวมาเป็นนักมวยเต็มตัว ความกดดันก็เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
“ผมต้องลดน้ำหนักเยอะมาก เกือบทุกเดือน มันทำให้ผมเหนื่อย จนบางครั้งคิดอยากจะเลิก”
ยิ่งช่วงไหนมีโปรแกรมแข่งขันโหมเข้ามาจนแทบไม่ได้หยุด เพชรมรกต ก็เริ่มคิดถึงช่วงชีวิตวัยรุ่นที่เขาควรได้สนุกกับเพื่อนๆ จึงทำให้เขาเดินออกนอกลู่นอกทางในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ
“ตอนผมอายุ 16 ผมเริ่มออกไปเที่ยวกับเพื่อนถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายผมก็หนีออกจากค่ายกลับไปอยู่บ้าน”
“พวกเราเอาแต่ดื่มจนค่ำมืด ไม่ต้องคิดอะไร ตอนนั้นผมยังเด็กและไม่รู้จักความหมายของความรับผิดชอบ ผมเหนื่อยกับการต้องขึ้นเวทีต่อสู้ และไม่มีแรงจูงใจ ผมออกไปเที่ยวเตร่เกือบทุกคืน จนพ่อแม่เริ่มกังวล และต้องคอยโทรตามกลับบ้าน”
โชคดีที่ เพชรมกต ยังคิดได้ว่าชีวิตของเขาคงไร้ค่าและไม่มีอนาคต หากยังคงเที่ยวเตร่กับเพื่อนแบบนี้ เขาเริ่มคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่มวยไทยมอบให้เขา และตระหนักว่าจะต้องกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง เพื่อหาเลี้ยงชีพให้อยู่รอด
ด้วยความตั้งใจที่จะเปลี่ยนชีวิต เขาตัดสินใจกลับเข้าค่ายมวยอีกครั้ง และล้มเลิกวิถีชีวิตแบบเดิมๆ
“พอออกเที่ยวมากๆ ผมก็เริ่มรู้สึกเบื่อ เงินทองก็ร่อยหรอ จนผมคิดอยากจะกลับไปชกมวย พอกลับไปผมก็โดนด่ายกใหญ่ ผมรู้ตัวนะว่าผมทำไม่ดี แต่หลังจากนั้นก็เริ่มคุยกันอย่างจริงจัง เพราะการดื่มหนักทำให้ร่างกายของผมเปลี่ยนไป สุขภาพย่ำแย่ลง และต้องใช้เวลาซ้อมถึง 2 เดือนกว่าจะเข้าที่เข้าทาง”
จากนั้นไม่นานเมื่อ เพชรมรกต เดินเครื่องเต็มตัว ก็เป็นช่วงที่เขาได้มีโอกาสเปลี่ยนสีเสื้อไปใช้ เพชรยินดีอะคามี และได้ฝึกซ้อมในค่ายที่มีมาตรฐานและระบบระเบียบมากกว่าเดิม ซึ่งทำให้การเป็นนักมวยอาชีพของเขาพัฒนาขึ้นไปด้วย
เจ้าของแชมป์มวยไทยหลายสมัยวัย 25 ปี วันนี้เขายอมรับว่า เขาจะไม่กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆ อีก ที่ผ่านมามันคือบทเรียนชีวิตที่มีคุณค่าและทำให้เขาเห็นความแตกต่างระหว่างผิดชอบชั่วดีอย่างชัดเจน
“ตอนนั้นผมยังเป็นเด็ก ก็อยากสนุกไปวันๆ และความดื้อรั้นของผมก็ทำให้ชีวิตต้องเจอกับเรื่องยุ่งยาก ผมคิดว่าหลายคนก็เคยมีประสบการณ์แบบนี้ ตอนนี้ชีวิตผมดีขึ้นมาก และแทบจะนึกภาพไม่ออกเลยว่า ถ้าไม่เป็นนักมวยผมจะเป็นอะไร”
ONE: EDGE OF GREATNESS | สิงคโปร์ | 22 พฤศจิกายน 2562 | 18.30 น. | ONE Super App ยิงสด 17.30 น. | ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 21.30 น.