ชายผู้คืนชีพให้ “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” จากห้วงดิ่งสุดของอาชีพ

Giorgio Petrosyan AAA_2406

เราอาจไม่คุ้นชื่อของ “แอร์เมส ดิ ฟรานเชสกา” มากนัก แต่หากบอกเขาคือคนสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของ “The Doctor” จอร์จิโอ เปโตรเซียน บนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ เชื่อว่าหลายคนอาจเริ่มจินตนาการได้ไกลมากขึ้น

คิกบ็อกเซอร์ตัวพ่อ เปโตรเซียน ทะลุเข้าสู่รอบสุดท้ายของ ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งจะจัดขึ้นในศึก ONE: CENTURY PART II ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 13 ตุลาคมนี้ โดยเผชิญหน้ากับ “AK47” เซมี ซานา ยอดฝีมือชาวฝรั่งเศสที่ฝ่าด่านหินเข้ามาถึงรอบนี้อย่างน่าทึ่ง

เปโตรเซียน ยกเครดิตความสำเร็จที่ผ่านมาให้กับโค้ชคู่บารมี “แอร์เมส ดิ ฟรานเชสกา” ที่คอยเข้มงวด และนำวิทยาศาสตร์เข้ามาผสมผสานกับการฝึกฝน จนทำให้เขารักษาท็อปฟอร์มไว้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่แพ้ใครตลอด 6 ปี หากไม่มีโค้ชคนนี้ เจ้าตัวถึงกับบอกว่า เขาอาจจะไม่สามารถมายืนบนจุดสูงสุดของอาชีพเลยก็เป็นได้

ก่อนที่ เปโตรเซียน และ ดิ ฟรานเชสกา จะเดินทางมาบรรจบพบกัน เปโตรเซียน เคยพบกับความพ่ายแพ้ครั้งเจ็บปวดที่สุดในชีวิต ถึงขั้นทำให้เขาเกือบจะไม่สามารถกลับมายืนบนผืนผ้าใบได้อีก

“ผมข้ามผ่านช่วงเวลาที่เคยคิดจะแขวนนวม เพราะช่วงนั้นผมกินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิในการซ้อม แต่แรงปรารถนาของผมมันยังวนเวียนอยู่”

“ผมเอาตัวเองออกจากสถานการณ์นั้น โดยย้ายไปอยู่ที่ใหม่ๆ และผมมาที่มิลาน ที่ซึ่งผมกับพี่ชายเริ่มทำยิมด้วยกัน ผมได้เจอกับโค้ช แอร์เมส ดิ ฟรานเชสกา คนที่กระตุ้นให้ผมเกิดแรงบันดาลใจและคิดที่จะเริ่มต้นใหม่”

ดิ ฟรานเชสกา เป็นคนที่ได้รับการนับหน้าถือตาอย่างมากในวงการศิลปะการต่อสู้ของอิตาลี เขาเริ่มตั้งยิมฝึกคิกบ็อกซิ่งและมวยสากลมานานกว่า 25 ปี ซึ่งเจ้าตัวได้ผ่านสังเวียนจริงมาทั้งสองประเภท จนกระทั่งอาการบาดเจ็บทำให้เขาต้องล้มเลิก

แต่ ดิ ฟรานเชสกา ไม่อาจทิ้งแรงปรารถนาที่มีต่อศิลปะการต่อสู้ได้ เขาจึงหวนกลับสู่วงการอีกครั้ง ด้วยการใช้ความรู้ที่มีในการรับหน้าที่โค้ชเพื่อสนับสนุนนักกีฬาคนอื่นๆ

ในฐานะผู้นำของ Fit Square Boxing Team เขาเชื่อว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการปั้นนักกีฬา คือการดึงความสามารถและศักยภาพของพวกเขาออกมาให้ได้มากที่สุด เขาจึงพัฒนาโปรแกรมการฝึกซ้อมที่ผสมผสานระหว่างเทคนิคการต่อสู้และการฝึกร่างกายเข้าด้วยกัน 



ดิ ฟรานเชสกา มีแนวทางในการปั้นแชมป์ในหลากหลายรูปแบบ เมื่อ เปโตรเซียน ย้ายมาที่มิลานซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา ดิ ฟรานเชสกาตื่นเต้นมากที่มีโอกาสได้ร่วมทีมกับนักชกขวัญใจของเขา

“จริงๆ แล้วผมพบกับ จอร์จิโอ ตอนไปอีเวนต์หนึ่ง ซึ่งก่อนที่ผมจะกลายมาเป็นโค้ช ผมเป็นแฟนคลับของเขามาก่อน โดยในปี 2014 ด้วยความช่วยเหลือจากผู้จัดการของเขา เราจึงได้ร่วมงานกันในที่สุด ผู้จัดการของเขาบอกผมว่า จอร์จิโอ กำลังจะย้ายมาที่มิลาน และต้องการโค้ช ผมรับงานนี้ทันที และพาเขามาอยู่ในความดูแลของผม”

เปโตรเซียน ได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถขึ้นชกเป็นเวลานาน แต่เขาก็กลับมาฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง โดยต้องขอบคุณวิธีการทางวิทยาศาสตร์ของ ดิ ฟรานเชสกา

“ตอนแรกผมทำการตรวจและทดสอบบางอย่างกับ จอร์จิโอ เพราะมือของเขาเจ็บและไม่สามารถขึ้นชกมานานเกือบหนึ่งปี”

“มันเป็นกีฬาที่ต้องมีการกระทบกระทั่งกัน นักมวยอาจได้รับบาดเจ็บหลังการแข่งขัน ซึ่งหน้าที่ของเทรนเนอร์ก็คือพยายามทำให้นักกีฬามีสภาพร่างกายสมบูรณ์ที่สุด ดังนั้น ในฐานะโค้ช ผมพยายามทำทุกอย่างให้กลับมาเป็นปกติ และทำให้เขากลับมาซ้อมได้โดยที่ไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไป”

โฟกัสในตอนนั้นคือสภาพร่างกายของ เปโตรเซียน และเมื่อเขาฟื้นจากอาการบาดเจ็บและหวนคืนสังเวียนได้อีกครั้ง เขาฟิตกว่าเมื่อก่อนมาก และนั่นทำให้กำลังใจของเขาเพิ่มขึ้นด้วย

เมื่อจิตใจกระปรี้กระเปร่า เขามีแรงจูงใจที่จะแข่งขันและไล่ล่าความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิม เขากู้ฟอร์มการชกที่เก่งกาจ และกลับมายืนอยู่ในระดับท็อปอีกครั้ง และยังคงความยิ่งใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า โค้ชของเขามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการดึงเขาขึ้นมาจากจุดต่ำสุดในเส้นทางอาชีพได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ ดิ ฟรานเชสกา ยกเครดิตให้กับความสามารถ ความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นของนักชกชาวอาร์เมเนีย-อิตาลี กับความพยายามรักษามาตรฐานและความสำเร็จในระดับสูง

“เหนือสิ่งอื่นใด ผมเชื่อว่า จอร์จิโอ เป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยม นั่นก็มาจากทักษะและความสามารถที่เขามี”

“เขาได้ปรับและพัฒนาตัวเองมาตลอดหลายปี ด้วยการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ในหลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นการมวยสากล มวยไทย และคิกบ็อกซิ่ง ผมยังคิดอีกนะว่า ที่เขาเป็นนักสู้ที่ดีก็เพราะความเสียสละ เขาเป็นนักกีฬาที่ไม่เคยยอมแพ้ แม้จะต้องเจอกับความท้าทายที่ยากลำบากมากแค่ไหน”

“จิตวิญญาณของนักสู้ ความเสียสละ ความมุ่งมั่นที่จะรักษาระดับของตัวเองให้ดีที่สุด เขามีสิ่งเหล่านี้อยู่ในตัว ผมแค่เป็นตัวช่วยให้เขาได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอาชีพต่อไป”

อ่านเพิ่มเติม : ฉายา “The Doctor” จะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจาก “จอร์จิโอ เปโตรเซียน”

 

century_tokyo_logo.png

โตเกียว | 13 ตุลาคม | ONE: CENTURY  | ศึกนัดที่ 100 ของ วัน แชมเปียนชิพ | ทีวี: ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 16.20 น. | บัตรเข้าชม: http://bit.ly/onecentury19

ONE: CENTURY คือศึกชิงแชมป์โลกศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งมีแชมป์โลก 28 คนจากหลากหลายศิลปะการต่อสู้ขึ้นเวที ไม่มีองค์กรใดที่เคยจัดอีเวนต์ชิงแชมป์โลกแบบเต็มสเกลถึง 2 ศึกในวันเดียวกันมาก่อนในประวัติศาสตร์

วัน แชมเปียนชิพ เตรียมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการชิงแชมป์โลกมากมาย รอบชิงชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 3 คู่ และแชมป์โลกปะทะแชมป์โลกอีกมากมาย ในสังเวียน เรียวโงกุ โกกุงิกัง กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 13 ตุลาคมนี้

ดูเพิ่มเติมในหมวด บทความ

1820285
11 Anatoly Malykhin VS Oumar Kane one 169 (33)
06 Rungrawee vs George Jarvis OL85 (2)
06 Parham Gheirati vs George Mouzakitis (32) OL84
OFN13 Marcus Almeida VS Oumar Kane (1)
OL75_03 Shir Cohen VS Francisca Vera (25)
youssef assouik 16 9
Thai champs cover update
OL58 Seksan vs Yutaro Asahi (62)
Jonathan Haggerty vs Felipe Lobo OFN19 (52)
Shadow Mom
Suablack Tor Pran49 vs Craig Coakley OL46 (17)