ชายผู้มอบโอกาสการเป็นตำนานให้กับ “บิเบียโน เฟอร์นานเดส”
“The Flash” บิเบียโน เฟอร์นานเดส เติบโตมาด้วยความยากลำบากและอุปสรรคมากมาย แต่ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตให้เขาได้ฝ่าฟัน ทำให้เขากลายเป็นคนที่เข้มแข็งและเป็นตำนานแห่งวงการต่อสู้ ซึ่งกว่าจะมีทุกอย่างในวันนี้ เขาก็เกือบเป็นคนหนึ่งที่เคยถึงขั้นคิดล้มเลิกความฝันของตัวเองมาแล้ว
นักสู้จากเมืองมาเนาส์ ประเทศบราซิล เริ่มฝึกบราซิลเลียนยิวยิตสูตั้งแต่อายุ 14 ปี ซึ่งเดิมทีเขารับจ็อบล้างรถเพื่อนำเงินไปจ่ายค่าเล่าเรียนหนังสือ แต่เงินจำนวนนี้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะนำไปจ่ายสำหรับการเรียนศิลปะการต่อสู้ได้
บิเบียโน ชื่นชอบในกีฬานี้มากและไม่คิดที่จะล้มเลิกความคิดง่ายๆ โชคดีที่ “อูลิสเสส ปายฉง (Ulisses Paixão)” โค้ชคนแรกมองเห็นความกระตือรือร้นของเขา จึงได้มอบโอกาสให้เขาได้ฝึกซ้อมในยิมโดยแลกกับการทำงาน
“ตอนที่ผมเริ่มเรียน ผมไม่มีเงินจ่ายค่ายิมเลย แต่ผมรักยิวยิตสู เพราะข้างในลึกๆ แล้ว ผมรู้ว่ากีฬานี้ให้อะไรบางอย่างกับผม ไม่ว่าจะเป็นระเบียบวินัย และมุมมองชีวิตที่แตกต่าง”
“ผมบอกเขาว่า ‘โค้ชครับ ผมไม่มีเงินจ่ายเรียนแล้ว’ เขาตอบผมว่า ‘มาซ้อมเหมือนเดิม และคอยปัดกวาดยิม เวลาที่ทุกคนซ้อมเสร็จ ปิดไฟและล็อกประตูด้วย’”
ในช่วงวัยรุ่น “The Flash” เคยคิดที่จะล้มเลิกความตั้งใจ เมื่อเขาต้องใช้เวลาทั้งหมดไปกับการฝึกซ้อมและทำความสะอาดยิมเพื่อแลกกับการเรียน แต่เขาได้ตระหนักว่า สิ่งที่เขาทำมันจะเป็นประโยชน์ต่ออาชีพและความสำเร็จต่อชีวิตในอนาคต
“เขาเป็นโค้ชที่เข้มงวดมาก และทำให้คุณต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก แต่เขาเป็นคนดี และสิ่งที่เขามอบให้ผมคือโอกาสที่ยิ่งใหญ่”
“หลายคนให้ความช่วยเหลือและให้โอกาสผม โอกาสจะมาหาคุณ และคุณต้องเชื่อในตัวเองว่าจะประสบความสำเร็จ หากคุณไม่มีศรัทธา ความสำเร็จนั้นก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นผมจึงเชื่อมั่นอยู่เสมอ”
ขณะที่ บิเบียโน ฝึกอยู่กับโค้ชปายฉง เขาฉายแววทั้งในการซ้อมและการแข่งขัน แต่ไม่ว่าจะมีชัยชนะและได้เหรียญรางวัลมากแค่ไหน เขายังคงเป็นเด็กคนเดิมที่ทุกคนรู้จัก และยังปัดกวาดยิมหลังการฝึกซ้อมทุกวัน
ประสบการณ์ทำให้เขาเติบโตเป็นคนที่มีเหตุผลและไม่ลืมตัว ซึ่งบางทีอาจจะเป็นผลต่อเนื่องมาจากช่วงวัยรุ่นที่เขาใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับยิม
“ยิวยิตสูสอนให้ผมเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน และรู้ถึงคุณค่าของความพยายาม ผมต้องลงมือทำเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ผมต้องการ”
“มันยังทำให้ผมรู้จักโฟกัส เวลาเพื่อนคนอื่นๆ ซ้อมเสร็จ เขาจะออกไปเที่ยวและได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง ขณะที่ผมต้องอยู่เพื่อคอยปิดไฟและล็อกประตูยิมทุกคืน แต่ก็เพราะเหตุนี้ที่ทำให้ผมมีสมาธิ และผมเป็นคนเดียวที่กลายเป็นแชมป์โลกยิวยิตสู”
ทักษะและความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของ บิเบียโน ทำให้เขาได้รับบทบาทใหม่ในยิม เขาเริ่มขยับมาสอนเด็กๆ ในคลาสเรียน สุดท้ายเขาได้วางมือจากงานทำความสะอาด และโฟกัสที่การฝึกซ้อมและการเป็นโค้ช นี่คืออีกหนึ่งโอกาสที่ โค้ชปายฉง ได้มอบให้กับเขา กับศิลปะการต่อสู้ที่เขารัก
“ผมเริ่มสอนเด็กๆ และปั้นแชมป์มามากมาย โค้ชเชื่อใจผมในการทำหน้าที่นี้ เขาเป็นโค้ชที่ดีและมีความรู้ และเขาก็ช่วยผมในเรื่องการสอนด้วย”
บิเบียโน พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะประสบความสำเร็จ แต่หากไม่มีโอกาสจาก ปายฉง แล้ว เขาอาจจะไม่ได้ขึ้นมาเป็นแชมป์โลกในประวัติศาสตร์ วัน แชมเปียนชิพ
“ตอนนี้ผมมีชีวิตที่ดี ผมไม่ต้องทำความสะอาดยิมอีกต่อไปแล้ว แต่ช่วงเวลานั้นสอนให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง และทำให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น”
“ผมเรียนรู้ที่จะเข้มแข็งและไม่ตัดพ้อต่อชีวิต ผู้คนสมัยนี้พร่ำบ่นกับทุกๆ อย่าง แต่ไม่ใช่ผม! ผมแค่รู้สึกขอบคุณและยินดี ทุกวันนี้ผมเห็นโอกาสจากรอบตัว”
อ่านเพิ่มเติม: 7 เหตุผลที่ ONE: CENTURY จะเป็นอีเวนต์ศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
