ชีวิตรักที่รู้จักผ่านกีฬาการต่อสู้ของ “เอดูอาร์ด โฟลายัง”

Eduard Folayang SGDC8742e web

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาชื่อของ “Landslide” เอดูอาร์ด โฟลายัง ปรากฏอยู่ในวงการศิลปะการต่อสู้ของฟิลิปปินส์ ในฐานะนักกีฬาจากเมืองบาเกียวที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักสู้ ด้วยการคว้า 3 เหรียญทองวูซูในกีฬาซีเกมส์ และแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เวตหลายสมัย

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาได้รับจากศิลปะการต่อสู้เท่านั้น ยังมีสิ่งที่สำคัญกว่านั่นคือ “คู่ชีวิต”

“ผมเจอกับภรรยาของผมที่ยิม” คุณพ่อลูกสองเปิดอกอย่างมีความสุข “เธอก็เป็นนักกีฬาต่อสู้เหมือนผม ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่าเราจะมาลงเอยกัน แต่ผมรู้สึกว่าเธอคือคนพิเศษ”

Eduard Folayang's greatest motivation 👨‍👩‍👧‍👧

Eduard "The Landslide" Folayang's greatest motivation 👨‍👩‍👧‍👧🗓: Manila | 2 August | 7PM | ONE: DAWN OF HEROES🎟: Get your tickets at 👉 http://bit.ly/oneheroes19📺: Check local listings for global TV broadcast📱: Watch on the ONE Super App 👉 http://bit.ly/ONESuperApp 👨‍💻: Prelims LIVE on Facebook | Prelims + 2 Main-Card bouts LIVE on Twitter

Posted by ONE Championship on Thursday, July 18, 2019

โฟลายัง และ “เจเนวีฟ” เริ่มรู้จักกันในปี 2551 จากการที่ทั้งคู่มีเพื่อนร่วมคลาสเดียวกัน เมื่อเพื่อนคนนั้นชวนให้ เจเนวีฟ มาฝึกซ้อมที่เดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนก็เริ่มสานต่อกันเรื่อยมาก แต่เพราะความใจเย็นและอ่อนหวานของ เจเนวีฟ เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ โฟลายัง ต้องการทำความรู้จักเธอมากเกินกว่าเพื่อน



เหมือนฟ้ามาโปรดตรงที่ทั้งคู่มีความชอบในกีฬาการต่อสู้เหมือนกัน จึงกลายเป็นประตูให้ทั้งคู่เปิดใจและทำความสนิทสนมกันได้รวดเร็วขึ้น

“จะเรียกว่ามันคือก้าวแรกสู่ความสัมพันธ์ก็ได้นะ เพราะหากไม่มีความสนใจสิ่งใดร่วมกัน ความสัมพันธ์ก็คงไปต่อได้ยาก ผมอยากรู้จักเธอมากขึ้น อย่างเรื่องว่าโตจากที่ไหน เธอชอบอะไร เราก็เลยใช้เวลาร่วมกันนอกโรงยิมด้วย”

ยิ่งได้รู้จักกับ เจเนวีฟ ต้นรักยิ่งเติบโตในใจของ โฟลายัง ทั้งคู่ฝึกซ้อมด้วยกัน ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน และพูดคุยกันในหลากหลายเรื่อง อีกทั้ง โฟลายัง ซึ่งใช้ชีวิตภายใต้คุณค่าที่ได้รับจากศิลปะการต่อสู้ เช่น ความอ่อนน้อมถ่อมตน การเคารพผู้อื่น เช่นเดียวกับ เจเนวีฟ ซึ่งมีทัศนคติตรงกันในเรื่องนี้

“นอกจากเรื่องความรู้สึกที่เรามีให้กันแล้ว การได้รู้จักตัวตนของกันและกันเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งรู้จักเธอมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งอยากรู้จักเธอมากขึ้นไปอีก เธอมีบุคลิกและลักษณะนิสัยหลายอย่างที่ตรงใจผมในแบบของคู่ชีวิต ซึ่งผมคิดว่าตรงนี้แหละที่ทำให้ผมเริ่มรู้สึกกับเธอมากกว่าคำว่าเพื่อน”

มาถึงจุดที่ โฟลายัง ตระหนักแล้วว่า เจเนวีฟ คือ “คนที่ใช่” เขาจึงตัดสินใจคุกเข่าขอเธอแต่งงานในยิมเมื่อเดือนธันวาคม 2557 ท่ามกลางความร่วมมือจากเพื่อนๆ ในทีมลาไคย์

“ผมขอเธอแต่งงานในยิมนั่นแหละ ผมไม่ได้วางแผนหรือตระเตรียมอะไรไว้เลย แค่รู้สึกว่านี่คือเวลาที่เหมาะสมแล้ว และต้องขอบคุณทุกคนในยิมที่ช่วยผมในเรื่องนี้ ผมคิดว่าลึกๆ แล้วทุกคนมีความรู้สึกว่า เราเจอคนที่ใช่ของกันและกัน”

ทั้งคู่เข้าสู่ประตูวิวาห์ในเดือนเมษายน 2558 ที่เมืองบาเกียว ก่อนจะมีลูกสาวเป็นโซ่ทองคล้องใจ 2 คน ชื่อ เยชัวรินส์ และ ยาฮามาซายัค

นอกเหนือจากความรักที่มีต่อกัน สิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นไปอย่างราบรื่น คือความเห็นอกเห็นใจ น้อยคนที่จะเข้าใจถึงความทุ่มเทและการเสียสละที่นักกีฬาระดับโลกต้องทำเพื่อการแข่งขันในระดับสูง แต่ทั้งคู่โชคดีที่รู้จักกันผ่านกีฬาการต่อสู้

“มีคำกล่าวในหนังสือว่า ‘บ้านสร้างได้ด้วยปัญญา และมั่นคงได้ด้วยความเข้าใจ’ เพราะมันยากนะที่ชีวิตคู่จะมั่นคงได้หากต่างฝ่ายไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน” โฟลายังเล่า

“สิ่งที่ดีที่สุดในความสัมพันธ์ของเรา คือมันเริ่มต้นด้วยกีฬาการต่อสู้ เพราะเรื่องดังกล่าวทำให้เธอเข้าใจมากขึ้นถึงสิ่งที่ผมทำ อุปสรรคที่ผมเจอ และความเจ็บปวดที่ได้รับ”

ไม่เพียงแต่ เจเนวีฟ จะมีความรู้เกี่ยวกับกีฬานี้เท่านั้น แต่เธอยังคอยสนับสนุนเขาสู่ความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งดูคลิปการแข่งขันย้อนหลังของเขาด้วยกัน และส่งเสริมเขาให้ใช้เวลาในยิมมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ โฟลายัง ไม่รู้สึกกดดันที่จะต้องแบ่งเวลาเพื่อการเป็นนักสู้ กับการเป็นสามีและคุณพ่อลูกสอง

เขายอมรับว่า หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากภรรยา เขาคงไม่ประสบความสำเร็จมาถึงระดับนี้

“เธอมีส่วนสำคัญมากๆ กับอาชีพของผม เธอคอยให้คำแนะนำผมอยู่เสมอ โดยเฉพาะเวลาที่ผมต้องบินไปต่างประเทศเพื่อฝึกซ้อมเพิ่มเติม เธอยอมสละเวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน และยังทำให้ผมเห็นว่าเธอดูแลตัวเองและลูกๆ ได้ในเวลาที่ผมไม่อยู่”

“มันทำให้ผมสบายใจและไม่รู้สึกผิดที่ไม่ได้ดูแลครอบครัวเท่าที่ควร ซึ่งทำให้ผมมีสมาธิในการฝึกซ้อมมากขึ้น เมื่อรู้ว่าครอบครัวเรายังอยู่ดีแม้ผมจะอยู่ไกลบ้าน”

โฟลายัง หวังว่าผลลัพธ์ของการทำงานหนักและการเสียสละของภรรยาจะส่งให้ในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเขาต้องขึ้นสังเวียนครั้งสุดท้ายของปีที่ประเทศบ้านเกิด กับนักสู้ชาวมองโกเลีย “Spear” อามาร์ซานา โซกูคู ในฐานะรองคู่เอกของศึก ONE: MASTERS OF FATE จะเป็นไปอย่างที่เขาตั้งความหวังไว้ เพื่อจะได้มีโอกาสในการชิงแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เวตอีกครั้ง

อ่านเพิ่มเติม:

MASTERS OF FATE | กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ | 8 พฤศจิกายน 2562 | ONE Super App ยิงสด 17.30 น. | ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 22.30 น. บัตรเข้าชมhttp://bit.ly/onefate19 

ดูเพิ่มเติมในหมวด บทความ

OFN13 Marcus Almeida VS Oumar Kane (1)
OL75_03 Shir Cohen VS Francisca Vera (25)
youssef assouik 16 9
Thai champs cover update
OL58 Seksan vs Yutaro Asahi (62)
Jonathan Haggerty vs Felipe Lobo OFN19 (52)
Shadow Mom
Suablack Tor Pran49 vs Craig Coakley OL46 (17)
Saemapetch VS Felipe Lobo60
Dimitri kovtun
Jompadej Nupranburi vs Kaichon Sor Yingcharoenkarnchang OL55 (1)
Cover_OFN24_Amy01