“นรา ชมภูนิช” MC เสียงทรงพลังของ วัน แชมเปียนชิพ
“นรา ชมภูนิช” อดีตนักร้องชื่อดังวงเกิร์ลกรุ๊ป ผู้มีน้ำเสียงอันทรงพลังและมีความเป็นเอกลักษณ์ เชื่อว่าแฟนๆ วัน แชมเปียนชิพ คงคุ้นหูกับน้ำเสียงของเธอเป็นอย่างดี
เธอคือผู้ปลุกความตื่นตัวใหักับผู้ชมในทุกอีเวนต์ และกระตุ้นความฮึกเหิมในการเปิดตัวให้กับบรรดานักกีฬาเมื่อเดินลงสู่สังเวียน คละเคล้าเสียงดนตรีสุดเร้าใจ
แม้ทุกท่านจะคุ้นเสียงของเธอดี แต่จะมีสักกี่คนที่จะรู้ว่าเธอคืออดีตนักร้องจากค่ายดังที่มีเพลงฮิตติดชาร์ต และพวกคุณก็อาจจะเคยร้องเพลงของเธอกันมาแล้ว
นรา เกิดและเติบโตที่เมืองมิสซูรี รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอมีความสนใจด้านดนตรีและชอบร้องเพลงตั้งแต่เด็ก จนมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
สมัยเรียนหนังสืออยู่ชั้น ป.3 นรา เป็นนักร้องในวงขับร้องประสานเสียงของโรงเรียนจนกระทั่งจบชั้นมัธยมปลาย ก่อนจะเข้าประกวดร้องเพลงในรายการ American Idol และผ่านเข้าถึงรอบ 60 คนสุดท้าย
หญิงสาวผู้มีพรสวรรค์และความทะเยอทะยาน ได้รับแรงบันดาลใจจากวงดนตรีป๊อปสมัยใหม่ ทำให้เธอตัดสินใจหันหน้าเข้าสู่วงการเพลงที่ประเทศไทยอันเป็นบ้านเกิดของพ่อแม่ เมื่อวัย 24 ปี
หนึ่งปีให้หลังเธอได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง GMM Grammy เป็นระยะเวลา 5 ปี และเริ่มเส้นทางนักร้องในเมืองไทย โดยที่ผ่านมา นรา มีผลงานเพลง 8 อัลบั้ม และแสดงคอนเสิร์ตมากมาย
หนึ่งในผลงานเพลงที่มีชื่อเสียงของเธอคือ “ความคิดไม่มีเสียง” ซึ่งอยู่ในอัลบั้ม Triple Flavor โดยเป็นการร่วมวงกับอีกสองนักร้องสาวอย่าง เจมมา และ แคล นอกจากนี้เธอยังมีผลงานการฟีเจอริงกับนักร้องชื่อดังอาทิ แบล็คเฮด, เป๊ก ออฟ ไอซ์ และ ไททาเนียม ด้วย
ระหว่างที่ นรา แสดงคอนเสิร์ตที่ผับในสิงคโปร์เมื่อปี 2550 เธอได้รับการติดต่อจากผู้บริหารระดับสูงของ วัน แชมเปียนชิพ ให้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
“โอกาสมันมาแบบไม่ทันตั้งตัว ตอนนั้นมีคนเดินเข้ามาหาและถามว่า ‘อยากเป็น MC ของ วัน แชมเปียนชิพ ไหม’ ฉันเคยไปดูการแข่งขันของ ONE มาแล้วหลายครั้ง ฉันรู้ว่านี่เป็นโอกาสที่ดีมาก ฉันตอบกลับไปทันทีว่า ‘แน่นอน ฉันอยากทำ!”
สำหรับคนที่มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีอย่าง นรา เมื่อถึงวันออดิชัน เธอเข้าไปจัดการเตรียมสตูดิโอและอัดเสียงเอง ซึ่งความพยายามและความตั้งใจนี้ ทำให้ทีมผู้บริหารของ ONE ประทับใจเธอเป็นอย่างมาก แต่การทำงานในสตูดิโอกับอีเวนต์สด ทำให้เธอต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ และนั่นคือความท้าทายที่เกิดขึ้น
“เมื่อเราอยู่ในสถานการณ์จริง เราได้รับรู้ถึงความรู้สึกและปฏิกิริยาโต้ตอบของผู้ชม ทำให้ต้องรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา ซึ่งมันแตกต่างจากการทำงานในสตูดิโอโดยสิ้นเชิง”
อย่างไรก็ตาม นรา รับมือกับงานนี้ได้เป็นอย่างดี และทำให้เธอกลายเป็นที่รู้จักในฐานะ MC เสียงเอกลักษณ์ของ วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งแม้แฟนๆ จะไม่เคยเห็นหน้า แต่นั่นกลับไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ
“สำหรับฉันแล้ว มันคือเสียงดนตรี ฉันไม่ได้ทำเพื่อชื่อเสียง และฉันไม่ชอบเสียความเป็นส่วนตัว ฉันสนุกกับการทำงานที่นี่ และโอกาสที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าการเป็นตัวฉันเอง”
แนวดนตรีของ นรา ได้ถูกนำมาผสมผสานกับงาน MC ของเธออย่างลงตัว โดยนำดนตรีฮิปฮอปเข้ามาผสมผสาน เพื่อสร้างสไตล์ที่แปลกใหม่ทำให้เธอแตกต่างจากโฆษกคนอื่นๆ
น้ำเสียงของเธอไม่เหมือนใคร และเธอเตรียมตัวอย่างจริงจังในทุกอีเวนต์ สำหรับเธอแล้วทุกรายละเอียดเล็กๆ มีสำคัญ เวลา น้ำเสียง โทน ดนตรี ทุกอย่างต้องลงตัว และกระตุ้นให้ผู้ชมเกิดอารมณ์คล้อยตาม
“ฉันมีสมุดบันทึกเล่มหนึ่งที่คอยจดชื่อนักกีฬาทุกคนไว้ รวมถึงเพลงเปิดตัว และการออกเสียงชื่อของพวกเขา ฉันแกะเพลงออกเป็นวินาที และฉันก็กำหนดเวลาที่จะต้องประกาศ ชื่อประเทศ ชื่อนักกีฬา และสิ่งที่ต้องพูด ตรงวินาทีต่างๆ และเมื่อการเปิดตัวเริ่มขึ้น ฉันก็อ่านสคริปต์ที่ฉันจดไว้ด้วยลายมือตัวเอง”
แฟนๆ จะได้ยินเสียงของเธอในทุกครั้งที่มีการจัดการแข่งขัน เสียงที่ประกาศชื่อนักกีฬาในเวลาเปิดตัว นั่นแหละเสียงเธอคนนี้ “นรา ชมภูนิช”
อ่านเพิ่มเติม: หลากหลายบทบาทของ “มิทช์ ชิลสัน” ก่อนมาเป็นผู้บรรยายของ วัน แชมเปียนชิพ