“น้องโอ๋ vs เสมาเพชร” ซิวรางวัล “น็อกเอาต์แห่งปี” ONE Super Series 

ตลอดปี 2562 วัน แชมเปียนชิพ จัดการแข่งขันมาทั้งสิ้น 22 นัด ซึ่งถ้ารวมรายการ ONE Hero Series (OHS) อันเป็นเวทีค้นหาดาวรุ่ง โดยจัดที่ประเทศจีนเป็นประจำทุกเดือน และรายการ ONE Warrior Series (OWS) ซึ่งจัดที่ประเทศสิงคโปร์และญี่ปุ่นเข้าไปด้วย รวมกันแล้วจะมีมากถึง 40 นัด

เหล่านักสู้กว่าพันชีวิตที่ผ่านสังเวียนแห่งนี้ตลอดปีที่ผ่านมา ทุกคนต่างก็พยายามโชว์ฟอร์มของตัวเองอย่างเต็มที่ ตลอดจนใช้ทักษะวิชาการต่อสู้ และการชิงไหวชิงพริบบนเวทีเพื่อควบคุมเกมและจัดการคู่แข่งขัน โดยหวังจะสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม และสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมกว่า 140 ประเทศทั่วโลก

วัน แชมเปียนชิพ ได้มีการจัดอันดับต่างๆ อาทิ Best KO (น็อกเอาต์แห่งปี), Best Performance (สุดยอดฟอร์มแข่งขันแห่งปี) และ Best Bout (ไฟต์แห่งปี) ซึ่งแบ่งเป็นกติกาศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) และ กติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งรวมเรียกว่า ONE Super Series

โดยปีนี้ รางวัล Best KO ของ ONE Super Series ตกเป็นของศึกสายเลือดไทยคู่แรกในประวัติศาสตร์ของ วัน แชมเปียนชิพ และเป็นคู่เดียวในขณะนี้อย่าง “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว vs เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ชื่อศึกว่า ONE: EDGE OF GREATNESS ที่สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม เมื่อ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมา 

สำหรับอาวุธที่ น้องโอ๋ ใช้เผด็จศึกคู่ต่อสู้รุ่นน้องอย่าง เสมาเพชร เจ้าตัวเรียกว่า “หมัดลักไก่” ซึ่ง น้องโอ๋ ซุ่มซ้อมมาเพื่อใช้ในการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการคว้าชัยแบบน็อกเอาต์ครั้งแรกของ น้องโอ๋ ใน วัน แชมเปียนชิพ อีกด้วย

“สำหรับหมัดลักไก่ที่ผมใช้เผด็จศึก เสมาเพชร ผมซ้อมมาเพื่อการนี้ และในที่สุดผมก็ได้ใช้ ถือเป็นการคว้าชัยแบบน็อกเอาต์ครั้งแรกของผมใน วัน แชมเปียนชิพ หลังจากที่รอคอยมา 5 ไฟต์”

“ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์มากครับ ไม่คิดว่าจะได้รับการจัดอันดับให้เป็นน็อกเอาต์แห่งปี เพราะเท่าที่ดูก็มีหลายคู่ ปิดเกมน็อกได้ดี”

“ผมดีใจนะครับ เพราะทั้งผมและเสมาเพชรเป็นคนไทยด้วยกัน อาจจะมีคนมองว่าเราคงชกกันแค่หวังผลแพ้ชนะ แต่จริงๆ เราใส่กันเต็มที่ เต็มร้อย แลกอาวุธกันดุเดือด เพื่อให้คนดูประทับใจ ให้คนดูสนุก และสุดท้ายเราก็จบด้วยการน็อกเอาต์”

“ไฟต์ต่อไปผมต้องพัฒนาฝีมือขึ้นอีกแน่นอน เพื่อให้คนดูประทับใจ ดูแล้วไม่เบื่อ และสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองขึ้นไปอีก ซึ่งถ้ามีโอกาสผมก็อยากท้าทายความสามารถของตัวเองในการชกคิกบ็อกซิ่ง เพราะที่ผ่านมาชกแต่มวยไทย ยังไม่เคยชกคิกบ็อกซิ่งเลยสักครั้งในชีวิต”

ศึกนี้อาจไม่ได้รับการจัดอันดับ น็อกเอาต์แห่งปี หากคู่ต่อกรของ น้องโอ๋ ไม่ใช่ เสมาเพชร นักมวยหนุ่มจากค่ายแฟร์เท็กซ์พัทยา ที่ปกติเป็นมวยหมัด และน็อกคู่ต่อสู้ด้วยหมัดมาแล้วหลายต่อหลายราย แต่สุดท้ายก็ต้องมาพ่ายหมัดให้กับหมัดของนักชกระดับเจ้าตำนานที่เป็นไอดอลของตัวเอง

“ผมรู้สึกดีใจ ประทับใจ และเป็นเกียรติที่ได้ชกกับไอดอลของผมอย่างพี่โอ๋ และดีใจที่สุดคือได้ต่อยในรายการ วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งถึงแม้ไฟต์นี้ผมจะแพ้ แต่ผมไม่เสียใจ เพราะผมทำหน้าที่ของผมอย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว”

“ผมดีใจกับพี่เขาด้วยครับ พี่โอ๋ ชกในรายการ ONE มาชนะทุกไฟต์ แต่ยังไม่เคยชนะน็อกเลย และมาชนะน็อกในไฟต์นี้ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์ ที่เปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่สอง และมีกองเชียร์ให้การสนับสนุนและร่วมยินดีกับชัยชนะครั้งนี้มากมาย”

“สำหรับผมเองตอนนี้ก็รอให้นิ้วโป้งที่หลุดจากการชกครั้งนั้น หายดีก่อน ซึ่งตอนอยู่บนเวทีผมไม่รู้สึกอะไร คิดแต่ว่าจะเดินให้สุดแล้วหยุดที่เสียงระฆัง แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ผมแพ้นะครับ สาเหตุจริงๆ คือผมเดินไว และการ์ดตก ก็เป็นจังหวะที่พี่โอ๋ยิงหมัดตรงมา และโดนเข้าเต็มหน้าพอดี”

“การชกครั้งนี้จึงถือเป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญที่ผมจะใช้พัฒนาตัวเองต่อไปได้อย่างมากเลยครับ”

สำหรับรางวัล Best KOs จากการแข่งขันชุด ONE Super Series  (กติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง) นอกจากคู่ของ “น้องโอ๋ vs เสมาเพชร” จะได้รับรางวัลชนะเลิศแล้ว ยังมีอันดับที่ 2-5 ดังนี้

อันดับ 2 เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี vs มาซาฮิเดะ คูโด

อันดับ 3 ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์ vs แอนดี ซาวเวอร์

อันดับ 4 จอร์จิโอ เปโตรเซียน vs โจ ณัฐวุฒิ

อันดับ 5 โมโมทาโร vs สิงห์ทองน้อย ป.เตละกุล

นอกเหนือจากนี้การแข่งขันของ “น้องโอ๋ vs เสมาเพชร” ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ 3 ของ Best Performance (สุดยอดฟอร์มแข่งขันแห่งปี) และอันดับ 3 จาก Best Bout (ไฟต์แห่งปี) อีกด้วย และ ถือเป็นคู่เดียวใน ONE Super Series ที่คว้าทั้ง 3 รางวัลดังกล่าว

หากแฟนๆ อยากดูคลิปเต็มของทุกไฟต์ที่ได้รางวัล เข้าไปติดตามกันได้ทางเฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand จะมีการทยอยเผยแพร่ให้ชมในช่วงส่งท้ายปลายปีนี้ด้วย