บทเรียนของ “ลีอันโดร อาตาอิส” ที่ได้จากพ่อผู้ล่วงลับ
เมื่อนักสู้เลือดหมาป่า “Wolf” ลีอันโดร อาตาอิส ต้องประสบความทุกข์แสนสาหัสจากการสูญเสียพ่ออันเป็นที่รักตั้งแต่อายุ 16 ปี แต่เขาได้ทิ้งบทเรียนสำคัญในชีวิตซึ่งทำให้ ลีอันโตร เรียนรู้ที่จะเติบโตเป็นนักกีฬาระดับเวิลด์คลาส และหัวหน้าครอบครัวที่ยอดเยี่ยม
เขาไม่เคยลืมว่าที่พ่อต้องทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำก็เพื่อให้ครอบครัวมีอาหารกินทุกมื้อ ภาพเหล่านั้นเป็นพลังผลักดันให้เขายืนหยัดต่อสู้ทุกครั้งเมื่ออยู่บนสังเวียน
“พ่อของผมเป็นวิศวกรก่อสร้าง รับสร้างบ้านในบราซิล มันเป็นงานที่หนักหนาสาหัสทีเดียว”
“พ่อทุ่มเทแรงกายเลี้ยงดูผมและครอบครัว และให้ความสำคัญกับผมอยู่เสมอ พ่อคือแรงบันดาลใจและเป็นพลังขับเคลื่อนทุกครั้งที่ผมคิดถึงท่าน ผมได้เรียนรู้อะไรต่างๆ จากพ่อมากมาย ท่านมักทำในสิ่งที่ถูกต้องให้ผมเห็นอยู่เสมอ ลึกๆ ในใจผมเชื่อว่าพ่อเฝ้ามองดูผมจากเบื้องบน”
เมื่อได้มาเป็นคุณพ่อลูกสาม ทำให้ “Wolf” ตระหนักดีถึงความสำคัญของพ่อผู้ล่วงลับในวัย 58 ปีที่หล่อหลอมเขาให้รู้จักมองชีวิตและจัดลำดับความสำคัญว่าอะไรที่คู่ควรจะทำเป็นอันดับแรก แต่ก็ไม่ควรละเลยที่จะทำในสิ่งที่ต้องเติมเต็มชีวิตด้วยเช่นกัน และนั่นคือปรัชญาชีวิตที่เขาจะสอนลูกๆ ต่อไป
“ผมอยากโชว์ให้ลูกๆ เห็นว่าการที่ครอบครัวมาอยู่กันพร้อมหน้ากันมันสำคัญแค่ไหน รักกันต้องทำยังไง การมีแรงปรารถนาและการทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการ เช่นเดียวกับที่ผมได้เรียนรู้จากพ่อของผม รวมถึงการทุ่มเทให้กับสิ่งที่รักและทำเพื่อครอบครัว เพื่อน้องชาย เพื่อแม่ของผม มันทำให้ลูกๆ เห็นว่า ทุกวันนี้พ่อกำลังสู้เพื่อลูกๆ และเพื่อครอบครัวนะ”
- นักมวยยอดกตัญญู “รถถัง” โชว์ผลงานสร้างบ้านให้พ่อ-แม่จากน้ำพักน้ำแรง
- ชีวิตสุดอาภัพของ 3 นักสู้ไทยที่ถูกรังแกเมื่อวัยเด็ก
- หัวใจคุณมันหล่อมาก “อเล็กซ์ ซิลวา” กับการอุทิศตนเพื่อโลกที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น
หลักในการทำงานของพ่อยังเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้เป็นลูกเสียสละอย่างใหญ่หลวงเพื่อคนที่เขารักที่สุด เมื่อพบว่าเขาสามารถหาเงินได้มากกว่าจากการสอนและลงแข่งขันในเอเชีย เขาต้องตัดใจทิ้งลูกๆ ไว้ที่บราซิลเพื่อแลกกับการมอบโอกาสในการมีชีวิตที่สุขสบายแก่พวกเขา
“การไม่ได้อยู่กับลูกๆ เป็นความรู้สึกทรมานสำหรับผมมาก แต่ในทางกลับกันมันก็ยิ่งสร้างแรงกระตุ้นให้ผมขยันทำงาน ตั้งใจทำให้ทุกอย่างออกมาดี เพื่อพวกเขา”
“สุดท้ายพวกเขาจะได้เห็นเองว่าผมทำอะไรเพื่อพวกเขาบ้าง ผมทุ่มเทเพื่อพวกเขาขนาดไหน และอีกไม่ช้าพวกเราจะได้กลับไปฉลองกันพร้อมหน้าพร้อมตา”
อาตาอิส ยอมรับว่าการสร้างความสมดุลระหว่างการเป็นนักกีฬากับการเป็นพ่อนั้นไม่ง่ายเลย แต่เขาก็พร้อมจะอุทิศตนให้กับกีฬาต่อสู้ อย่างเต็มร้อย เช่นเดียวกับที่พ่อของเขาอุทิศเวลาให้กับการทำงานในไซต์ก่อสร้าง และผลตอบแทนทึ่ได้กลับมาก็คุ้มค่าเมื่อครอบครัวได้อยู่ดีมีความสุข
ยิ่งไปกว่านั้น หากพ่อของเขายังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องตัวสั่นเทิ้มด้วยความดีใจกับเกียรติยศและความสำเร็จในระดับโลกที่ลูกชายคว้ามาฝากครอบครัวของเขา และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นชั้นดีให้เขาตั้งใจคว้าตำแหน่งแชมป์โลกของ วัน แชมเปียนชิพ มาครองให้ได้
“มันคือเส้นทางของผม นอกจากตำแหน่งแชมป์โลกแล้ว ผมก็ไม่สนอย่างอื่นอีก”
“จากนั้นตำนานของผมก็จะส่งต่อไปยังลูกๆ และลูกศิษย์ของผม ซึ่งมันจะต้องทำให้พ่อภูมิใจในตัวผมแน่นอน”
“ชีวิตแบบนี้บางทีก็ง่าย บางทีก็ยาก ส่วนใหญ่จะยากมากกว่า แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ผมรู้ดีว่าพ่อจะต้องภูมิใจในสิ่งที่ผมทำไป”
อ่านเพิ่มเติม: “ไนเรน ครอว์ลีย์” ยอมสละงานที่มั่นคง มุ่งสู่เส้นทางนักสู้