ปี 2019 จุดสูงสุดชีวิตนักสู้บนผืนผ้าใบของ “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว”
เข้าสู่ช่วงส่งท้ายปลายปี 2562 ซึ่งกำลังจะผ่านพ้นไป หลายคนมีทั้งเรื่องดีและไม่ดีผ่านเข้ามาในปีนี้ เช่นเดียวกับบรรดานักสู้ไทยหลายคนที่ประสบความสำเร็จบนสังเวียนการแข่งขัน และอีกหลายคนยังมีผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
แต่อย่างไรก็ตามการได้อยู่ภายใต้สังกัดขององค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ อันเป็นความใฝ่ฝันของนักกีฬาการต่อสู้มากมายทั่วโลก ก็ถือเป็นเรื่องดีที่สุดเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้
วันนี้เราจะพาไปเปิดใจตำนานนักชกไทย “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” เจ้าของแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ซึ่งตลอดช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา เขามีความคิดและรู้สึกอย่างไรกับการได้มีโอกาสเป็นตัวแทนประเทศไทย และแสดงฝีมือด้านการต่อสู้ให้ทั่วโลกได้ชื่นชม
ตั้งแต่ต้นปี 2562 “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” ประเดิมไฟต์แรกของปีในเดือนกุมภาพันธ์ บนสังเวียนบ้านเกิดที่อิมแพ็ค อารีน่า กับการชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต กับนักชกหนุ่มชาวจีน “หาน ซือ หาว” ที่กินอยู่และฝึกมวยไทยที่ประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี แต่ น้องโอ๋ ก็ปราบความห้าวของนักชกแดนมังกรรายนี้ได้อย่างอยู่หมัด และเอาชนะคะแนนไปแบบถึงพริกถึงขิง คว้าแชมป์โลกเส้นแรกมาประดับบารมีชีวิต
หลังจากนั้นก็ได้ขึ้นป้องกันแชมป์โลกอีก 3 ครั้ง กับ ฮิโรอากิ ซูซูกิ จากญี่ปุ่น, บริซ เดลวัล จากฝรั่งเศส และล่าสุดในศึกสายเลือดกับนักชกรุ่นน้อง เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ และยังคงครองความเป็นเจ้าบัลลังก์ได้จนถึงปัจจุบัน
อ่านเพิ่มเติม:
- “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” ป้องแชมป์สำเร็จ หลังเบียดชนะ “บริซ เดลวัล” สุดสูสี
- “น้องโอ๋ vs เสมาเพชร” ซิวรางวัล “น็อกเอาต์แห่งปี” ONE Super Series
“จากคู่แข่งทุกคนที่ผ่านมาในปีนี้ ผมประทับใจทุกคนครับ ผมผ่านนักสู้มาหลายคน ทุกคนที่ชกกับผม ทุกคนมาด้วยใจ สู้กันอย่างเต็มที่ และสมศักดิ์ศรี ที่สำคัญทุกคนมีน้ำใจนักกีฬา เมื่ออยู่ในเกมการแข่งขันพวกเราทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ ภายใต้กฎกติกา แต่เมื่อการแข่งขันเสร็จสิ้นลงแล้ว พวกเราก็เคารพกันในฐานะพี่น้อง และเพื่อนร่วมอาชีพ”
“4 ไฟต์ที่ผ่านมาในปีนี้ ผมประทับใจไฟต์ที่เวียดนามมากที่สุด กับคู่ชกคือ บริซ เดลวัล ผมรู้สึกว่าไฟต์นั้นชกยาก คู่ต่อสู้ตัวสูงใหญ่มาก เหนื่อยหนัก แต่ในที่สุดก็เอาชนะมาได้”
“การเป็นนักกีฬาของ วัน แชมเปียนชิพ ถือเป็นเกียรติสำหรับผมอย่างมาก นอกเหนือจากเรื่องรายได้ที่ทำให้ผมลืมตาอ้าปาก มีเงินเลี้ยงครอบครัว เก็บไว้เป็นทุนให้ลูกเรียนหนังสือ และเป็นเงินใช้จ่ายในบั้นปลายชีวิตแล้ว ยังทำให้ผมได้ทำในสิ่งที่ผมรัก คือการได้ชกมวย”
“ผมจะทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด ชกให้สนุก และทำให้คนดูประทับใจ นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุดของผม และเป็นสิ่งที่ผมยึดมั่นทุกครั้งที่ขึ้นเวที มากกว่าเรื่องผลแพ้-ชนะซะอีก”
“สำหรับปีหน้าผมตั้งเป้าหมายไว้ว่า อยากจะลองชกคิกบ็อกซิ่งดูสักตั้ง เผื่อจะมีโอกาสได้ครองสองเข็มขัดกับเขาบ้าง ซึ่งแชมป์โลกคนปัจจุบันคือ อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ เขาก็มีเป้าหมายเดียวกันที่อยากจะชิงเข็มขัดมวยไทยที่ผมครองอยู่ ไม่แน่ว่าอาจจะมีโอกาสเจอกันในอนาคตครับ”
เตรียมรับศักราชใหม่กับศึก ONE: A NEW TOMORROW | อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี | 10 มกราคม 2563 | 17.30 น. ตามเวลาไทย | ซื้อบัตรเข้าชม: ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ | ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ออกอากาศเวลา 22.30 น.