ปูมหลัง “อามาร์ซานา โซกูคู” ก่อนเป็นตัวแทนประเทศบนเวทีโลก

“Spear” อามาร์ซานา โซกูคู รู้ว่าสิ่งที่เขาอดทนต่อสู้มาตลอดทั้งชีวิตกำลังจะออกผล เมื่อเขาได้มีโอกาสขึ้นสังเวียนเผชิญหน้ากับซูเปอร์สตาร์เจ้าบ้าน “Landslide” เอดูอาร์ด โฟลายัง ในศึก ONE: MASTERS OF FATE ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้ หากเขาคว้าชัยชนะเดินออกจากสนามมอลล์ ออฟ เอเชีย อารีนา ได้ เขาจะกลายเป็นนักสู้ชั้นนำของรุ่นไลต์เวตในทันที

และก่อนการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพของเขาจะเริ่มขึ้น โซกูคู ได้เปิดใจถึงภูมิหลังจากนักสู้ที่ไม่มีอะไรเลย สู่การเป็นสตาร์ในฐานะคู่รองของรายการใหญ่ วัน แชมเปียนชิพ

ต้นกำเนิดนักรบ

โซกูคู เกิดและเติบโตใน อูลานบาตอร์ เมืองหลวงของมองโกเลีย และได้รู้จักกับศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่อายุยังน้อยเพราะพี่สาวของเขาที่เป็นนักชกคิกบ็อกซิ่งระดับนานาชาติ และเป็นนักปล้ำจับล็อกในประเทศบ้านเกิด

“เช่นเดียวกับเด็กชายมองโกเลียทั่วไป ผมโตมากับมวยปล้ำและมักจะเล่นกันกับเพื่อนๆ นั่นก็คงเป็นเหตุผลที่ผมได้เข้าสู่กีฬาประเภทนี้”

“ผมคิดว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับรากฐานวัฒนธรรมของเรา นักรบมองโกเลียโบราณเคยใช้มวยปล้ำฝึกซ้อมกันในเวลาว่าง และใช้เป็นการเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ด้วยมือเปล่า”

“พี่สาวคนโตเป็นนักสู้ที่มีอิทธิพลต่อผมอย่างมาก  ผมอยากก้าวขึ้นไปบนเวที และมีชื่อของผมประกาศออกมา แบบเดียวกันกับเธอ”

โซกูคู เริ่มฝึกศิลปะการต่อสู้เมื่ออายุ 6 ขวบ แต่มันยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน จนกระทั่งเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาเรียนกฏหมายที่มหาวิทยาลัย และเข้ารับใช้ชาติกับกองทัพ ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เขาอยากประสบความสำเร็จบนเส้นทางนักสู้

“ผมเข้าร่วมกองกำลังทหารมองโกเลียในปี 2009 และ 2010 ซึ่งเป็นเวลาหนึ่งปีที่ขัดเกลาให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น ช่วงที่ผมอยู่ในกองทัพ ลูกชายผู้กล้าหาญของบรรพบุรุษชาวมองโกล ช่วยให้ผมรู้ว่าสุภาพบุรุษที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งมันทำให้ผมอยากที่จะเป็นแบบนั้น”

ลิ้มรสศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน 

โซกูคู เริ่มต้นด้วยการฝึกคาราเต้ และจากนั้นก็หันมาชกมวยสากล ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากความสำเร็จของพี่สาวคนเดิม

“ตอนเป็นเด็กผมมองพี่สาวเป็นต้นแบบ และอยากเป็นนักสู้เหมือนเธอ ผมเก็บความฝันนั้นไว้ในใจมาหลายปี”

โซกูคู ในฐานะตัวแทนจากทีมอามารา คว้ารางวัลจากการแข่งขันกีฬาทั้งสองประเภท เขาเป็นแชมป์ คาราเต้ ชิโดกัน และแชมป์มวยสากลระดับประเทศ ทว่า ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานคือสิ่งที่เขาวาดฝันไว้

“เหตุผลที่ผมตัดสินใจเลือกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานและเลิกชกมวยกับคาราเต้ คือ  บาซานคู ดัมลานพูเรฟ และ คูเคนคู อมาร์ทูฟชิน (สองนักสู้ผู้บุกเบิกกีฬานี้ในมองโกเลีย) เคยฝึกซ้อมอยู่ที่ค่ายของเรา พวกเขาจะเดินทางไปทั่วโลก และแข่งขันในระดับนานาชาติ  ผมอยากที่จะเป็นเหมือนพวกเขา จึงตัดสินใจผันตัวสู่ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน”

เสียสละเพื่อความสำเร็จ

เจ้าของฉายา “Spear” หลงใหลในกีฬาใหม่ที่เขาเพิ่งรู้จัก และเขาโฟกัสอย่างเต็มที่ที่จะไปให้ถึงจุดสูงสุด ไม่ว่าต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม

“ผมไม่ได้ทำงานประจำ เพราะผมทุ่มเทเวลาทั้งหมดเพื่อการฝึกฝน ผมเป็นเพียงนักกีฬาที่ไม่มีอะไรเลย แต่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักสู้มืออาชีพในวันหนึ่ง” 

“ผมเคยได้รับข้อเสนอที่ดึงดูดใจมาก นักธุรกิจขอให้ผมทำงานเป็นบอดีการ์ดให้เขา โดยจะให้ค่าตอบแทนจำนวนมาก แต่ผมปฏิเสธ เพราะผมต้องการที่จะสานต่อความฝันของตัวเอง”

ความมุมานะพยายามทำให้เขาเริ่มต้นอาชีพได้สวย เมื่อคว้าตำแหน่งแชมป์โลก MGL-1 FC รุ่นไลต์เวต สำเร็จ แต่ค่าตัวที่ได้รับกลับไม่เพียงพอสำหรับเขาและครอบครัว ถึงอย่างนั้น พ่อแม่ก็ให้การสนับสนุน โซกูคู อย่างเต็มที่ในการไล่ล่าเป้าหมายที่ตั้งไว้

“การไม่สามารถตอบแทนพ่อกับแม่ได้ เป็นความกดดันที่สุดซึ่งผมต้องแบกรับไว้ นี่เป็นความท้าทายที่ยากที่สุดในอาชีพและชีวิตของผม ผมกลัวว่าจะไม่สามารถบรรลุความฝันของตัวเอง และทำให้พ่อแม่ที่ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อผม ต้องผิดหวัง”

สู่สังเวียนระดับโลก

โซกูคู ได้เข้าร่วมสังกัด วัน แชมเปียนชิพ และประเดิมไฟต์แรกในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในฐานะมวยแทน เพื่อขึ้นสังเวียนกับนักสู้ไทย “OneShin” ชนนภัทร วิรัชชัย 

แม้เขาจะมีเวลาเตรียมตัวไม่มาก รวมถึงประสบการณ์ที่เป็นรอง และเสียเปรียบที่ต้องบุกไปถึงถิ่นของคู่แข่ง ท่ามกลางเสียงเชียร์ของชาวไทย แต่สุดท้ายเขาสามารถเอาชนะคะแนนได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักสู้ที่น่าจับตามองของรุ่นไลต์เวต

“ผมรักประเทศของผมมาก การได้ต่อสู้กับคู่แข่งที่เก่งกาจที่สุดของโลก ทำให้ผมได้รับความสนใจจากคนในประเทศ ผมมองว่าศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน คือโอกาสที่ทำให้ผมได้แสดงความแข็งแกร่งและความกล้าหาญของชาวมองโกเลีย”

“ผมต้องการรับใช้ชาติในทุกๆ ด้านเท่าที่ผมจะทำได้ กีฬานี้มอบโอกาสให้ผมได้โปรโมตประเทศ ถ้าผมได้ครองเข็มขัดแชมป์โลก คนทั่วโลกก็จะรู้จักบ้านเกิดผมมากขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ”

 อ่านเพิ่มเติม : “โซกูคู” ส่งสารเตือน “โฟลายัง”…ผมคือนักสู้รุ่นใหม่ที่กระหายชัยชนะ