“พงษ์ศิริ” เปิดอกชก ONE ไฟต์เดียวช่างคุ้มค่า ปลดหนี้สินหมด เหมือนได้ชีวิตใหม่
“พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ส้มหล่นอย่างจัง เมื่อได้รับโอกาสให้เป็นนักมวยขัดตาทัพในศึก วัน แชมเปียนชิพ ขึ้นชกเพียงไฟต์เดียว สามารถปลดหนี้ปลดสินที่สั่งสมไว้นานหลายปี
การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐฉันใด การไม่มีหนี้สินก็เช่นกัน คำกล่าวนี้คงตรงกับความรู้สึกของ “แฝดน้องอโยธยา” พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม นักมวยจอมบู๊ดุดันที่แฟนวงการมวยเมืองไทยรู้จักดี
เขาไม่อายที่จะประกาศให้โลกรู้ว่า ครั้งหนึ่งเขาก็เคยเป็นหนี้หลายแสนบาท เพราะเดินทางผิดพลาด แม้ขึ้นชกแต่ละทีจะได้ค่าตัวเป็นแสน แต่รายรับวิ่งไม่ทันดอกเบี้ยที่แซงหน้าไปไกล ทำให้ใช้หนี้เท่าไหร่ก็ไม่หมด
รอๆก่อนนะเจ้าหนี้ที่รักทุกคน เงินกำลังมา ได้แน่นอน เป็นหนี้เขาเราต้องจ่าย
Posted by พงษ์ศิริ แฝดอโยธยา on Monday, February 10, 2020
หลังจากอดีตแชมป์มวยไทย 5 เส้นรายนี้ ส้มหล่นได้เป็นนักมวยขัดตาทัพให้กับศึก ONE: WARRIOR’S CODE ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย เนื่องจาก “จามาล ยูซูพอฟ” นักชกจากแดนหมีขาวชาวรัสเซีย คู่ชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต กับ “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” เกิดเจ็บป่วยกะทันหัน ทำให้ต้องหาคู่ชกอยู่ร่วมสัปดาห์ ก่อนจะมาลงตัวที่ พงษ์ศิริ ในช่วง 2 วันสุดท้าย เพราะเขาคือนักมวยซึ่งพร้อมที่สุด ณ เวลานั้น
แฝดอโยธาผู้น้อง วัย 28 ปี แม้ปกติจะไม่ได้ชกในพิกัดนี้ เพราะอยู่เมืองไทยต้องลดน้ำหนักแบบอดข้าว อดน้ำ แต่ถ้ามาชกใน วัน แชมเปียนชิพ ต้องวัดระดับน้ำร่วมด้วย ทำให้เขามีน้ำหนักปล่อยๆ พอฟัดพอเหวี่ยงกับ เพชรมรกต จะเสียเปรียบก็ตรงความสูงและช่วงชก รวมถึงการฟิตซ้อม ที่แม้จะซ้อมอยู่ตลอดในค่าย แต่ก็แค่ซ้อมรอรายการ ไม่ใช่ซ้อมเพื่อตั้งใจมาแข่งขัน
แต่ พงษ์ศิริ หัวใจใหญ่กว่าตับ รับคำเชื้อเชิญ และเดินหน้าสู้กับ เพชรมรกต ชนิดถึงพริกถึงขิง แม้จะแพ้คะแนนลงมา แต่ก็ชนะใจคนดู ถึงขั้นที่หัวหน้าคณะของ เพชรมรกต อย่าง “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ยังโพสต์เฟซบุ๊กชื่นชมสปิริตของ พงษ์ศิริ ในครั้งนั้น
“ผมดีใจที่ได้รับโอกาสนี้ ถึงผมจะไม่ชนะ แต่บอกตรงๆ ว่ามันคุ้มค่า นอกเหนือจากที่ได้เซ็นสัญญาเป็นนักกีฬา วัน แชมเปียนชิพ แล้ว ค่าตัวที่ได้จากการชกครั้งเดียว ก็มากกว่าครั้งไหนๆ ที่ผมเคยชกผ่านมา ทำให้ผมสามารถปลดหนี้ปลดสินหลายแสนบาทได้หมด แถมยังมีเงินเหลือเก็บอีกจำนวนหนึ่งด้วย”
“ในอดีตผมก็เคยเดินทางผิดพลาด ทำให้ผมเป็นหนี้ ประกอบกับช่วงที่ไม่มีรายการชก นานๆ จะได้ชกสักที เพราะผมเป็นมวยใหญ่ จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมและหาคู่ชกยาก ผมจึงต้องกู้หนี้ยืมสิน และเครียดกับภาวะเป็นหนี้มาหลายปี ถึงตอนนี้ต่อให้ไม่มีเงิน แต่ผมไม่มีหนี้สินแล้ว ผมก็สบายใจและอยู่ได้แบบมีความสุขครับ”
ได้เวลามาเคลียเงินแล้วเจ้าหนี้ทุกคนจะได้หมดไปวันนี้แหละต่อไปก็อย่าเป็นหนี้กันอีกเลยการพนันเลิกเล่นหมดยกเว้นหวย จบ รอเวลานี้มานานแล้ว เคลียดมาเป็นปี
Posted by พงษ์ศิริ แฝดอโยธยา on Tuesday, February 11, 2020
“ผมสู้กับมันมาปีกว่า สุดท้ายหนี้หมดสักที ผมขอขอบคุณ วัน แชมเปียนชิพ ที่มอบโอกาสนี้ ทำให้ผมเหมือนมีชีวิตใหม่ รวมทั้งลูกพี่ เสี่ยแขก (สมชาย เทศรุ่งเรือง หัวหน้าค่าย พี.เค.แสนชัยฯ) ที่คอยสนับสนุนและช่วยเหลือผมมาตลอด ต่อจากนี้ไปผมจะตั้งใจเก็บเงินเก็บทอง เอาไปซื้อที่นา มีกิจการเล็กๆ ในชุมชน เผื่อไว้ยามแก่ชราครับ”
สำหรับ พงษ์ศิริ ปัจจุบันอายุ 28 ปี มีภรรยาและลูกสาวที่เป็นพยานรักด้วยกันหนึ่งคน อยู่ที่ตำบลเสนา อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังพบบทเรียนชีวิตครั้งนี้ เจ้าตัวก็ปฏิญาณกับตัวเองว่า จะไม่สร้างหนี้สินให้ชีวิตต้องเดือดร้อนอีก เพราะการไม่มีหนี้ถือเป็นชีวิตที่เปี่ยมสุขที่สุดแล้ว
อ่านเพิ่มเติม: