มวยไทยพลิกชีวิต “คริส ชอว์” จากมุมมืดสู่โลกที่สว่าง
หนุ่มสกอตอย่าง “คริส ชอว์” เคยใช้ชีวิตที่เกือบพาตัวเองเข้าไปอยู่หลังลูกกรง แต่เมื่อเขาได้รู้จัก “มวยไทย” ชีวิตของเขาก็เหมือนพลิกฝ่ามือ กระทั่งเขาเองก็แทบไม่เชื่อว่าจะเดินทางมาได้ไกลขนาดนี้
เมื่อได้เป็นหนึ่งในนักกีฬาระดับโลกของรายการ วัน แชมเปียนชิพ และพร้อมที่จะประเดิมสังเวียนครั้งแรกในศึก ONE: FIRE & FURY วันที่ 31 มกราคมนี้ ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ กับนักชกไทยจอมบู๊ “รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” เราไปทำความรู้จักหนุ่มสกอตคนนี้ให้มากขึ้น เพื่อรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของชีวิตที่เคยอยู่ในมุมมืด ก่อนที่จะได้พบแสงสว่าง และอาจเป็นบทเรียนตัวอย่างให้กับใครหลายๆ คน
ชีวิตผิดกฎหมาย
ชอว์ เกิดและเติบโตภายในครอบครัวที่มีพ่อแม่และน้องสาวในเมืองเรนฟริว ทางตะวันตกของกรุงกลาสโกว์ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศกอตแลนด์
พวกเขาเป็นครอบครัวชนชั้นแรงงาน พ่อทำงานเป็นช่างต่อท่อประปา ส่วนแม่เป็นพนักงานทำความสะอาด ทุกอย่างดูมีความสุขจนกระทั่งเหตุการณ์สุดบอบช้ำได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
“เมื่อผมยังเด็ก ผมชอบออกไปเตะบอลกับเพื่อน ชีวิตมีแค่ฟุตบอลและทีมเรนเจอร์ส”
“ชีวิตเริ่มแย่ตอนที่พ่อแม่แยกทางกัน ผมเที่ยวเตร่ไปเรื่อย และเริ่มมีปัญหากับตำรวจ ปัญหาใหญ่เลยทีเดียว”
“พวกเราอยู่ตามถนน ยกพวกตีกัน และอีกมากมาย ผมทำตัวแย่ และเมื่อมองกลับไปผมรู้สึกละลายใจกับสิ่งที่ผมทำ มันเป็นช่วงที่เลวร้ายในชีวิต”
ตอนที่เขาอายุ 16 ปี เขาเริ่มทำงานหารายได้จากการเป็นช่างซ่อมหลังคา และเพื่อนคนหนึ่งก็มาเสียชีวิตจากการเสพยาเกินขนาด แต่นั่นยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาเปลี่ยนความคิด และเลือกเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง
“เหตุการณ์ครั้งนั้นยังไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตผมได้ ผมไม่สนใจว่าผมทำอะไร ผมไม่สนใจใคร ผมไม่ฟังใคร และจะทำในสิ่งที่อยากทำเท่านั้น”
แรงผลักดันสู่การเปลี่ยนแปลง
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1906817839359029&set=ecnf.100000924953884&type=3&theater
เมื่ออายุประมาณ 18 ปี ชอว์ ได้พบกับ “เพจ” ผู้หญิงที่ปัจจุบันกลายเป็นภรรยาของเขา ซึ่งเธอคนนี้ทำให้เขายอมเปลี่ยนชีวิตตัวเอง แม้จะยังถวิลหาวิถี “แบดบอย” แต่เธอยอมรับไม่ได้
“เธอยื่นคำขาดกับผม เธอบอกให้ผมหยุดทำสิ่งที่ผมทำอยู่ ไม่งั้นเธอจะทิ้งผมไป”
ท้ายที่สุดเขาก็เริ่มพบเหตุผลที่จะเลิกใช้ชีวิตช่วงวันเสาร์-อาทิตย์หมดไปกับการกินเหล้าเมายา เขาตัดด้านมืดของชีวิตออกไปได้ และหันมาเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น หลังจากที่เพื่อนแนะนำให้รู้จักมวยไทย
“มันเป็นเรื่องแปลกที่ทุกอย่างมันได้ผล เธอยื่นคำขาดกับผม ผมยอมหยุดทุกอย่าง และหลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ ผมก็รู้จักมวยไทย”
“แทบไม่น่าเชื่อเหมือนกันนะที่ชีวิตพลิกผันไปขนาดนี้ ผมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เพจ เป็นพลังให้กับผม ทำให้ผมใจเย็นลงและรับฟังในสิ่งที่เธอพูด ส่วนมวยไทยก็ช่วยดึงผมให้เป็นผู้เป็นคน ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และกลายเป็นคนที่ดีขึ้น”
เพียงเดือนกว่าหลังจากที่ได้เรียนมวยไทย ชอว์ เข้าใจแล้วว่า ประสบการณ์ชกต่อยบนถนนไม่มีค่าเลยเมื่อเทียบกับการต่อสู้บนเวที เขาหลงใหลชีวิตบนผืนผ้าใบและไม่เคยที่จะมองย้อนกลับไปสู่หนทางเดิมอีกเลย
การกลับขึ้นมาจากเหว
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1526263177414499&set=ecnf.100000924953884&type=3&theater
เมื่อ ชอว์ มุ่งมั่นกับมวยไทย สิ่งดีๆ ก็เข้ามาในชีวิตเขาอย่างรวดเร็ว แม้แต่ความสูญเสียในอดีต
พ่อแม่ไล่เขาออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 16 ปี เพราะการทำตัวเหลวแหลก จึงทำให้เขาตกอยู่ในสถานะเด็กไร้บ้าน ไม่มีที่ซุกหัวนอนเป็นหลักแหล่ง ต้องคอยอาศัยนอนตามบ้านเพื่อนไปเรื่อย โดยมีครอบครัวของเพื่อนช่วยเหลือเขาอยู่บ้าง
“เคนนี คือเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่งของผม แต่ตอนนั้นเรายังไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”
“พวกเขาช่วยเหลือผม ทำให้ผมใกล้ชิดกับเขาและครอบครัว ผมเป็นเพียงเด็กฝึกงาน ผมไม่มีเงินเลย แต่พวกเขาก็ดีกับผมและช่วยผมจัดการเรื่องเงินและเรื่องอื่นๆ”
ชอว์ เริ่มมีห้องพักเป็นของตัวเองจากการช่วยเหลือของรัฐบาลท้องถิ่น และได้รับคำแนะนำดีๆ ทำให้เขาเริ่มมีความสุขและรู้สึกมั่นคง เขาทำให้ครอบครัวเห็นว่า ตัวเองเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน จนความสัมพันธ์ในครอบครัวก็เริ่มกลับมา
“เวลาผ่านไป กับมวยไทยและสิ่งอื่นๆ ผมเริ่มกลับไปคุยกับครอบครัวอีกครั้งและทุก ๆ อย่างก็ดีขึ้นในตอนนี้ เหมือนว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย”
หนทางยาวไกลสู่จุดสูงสุด
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=2084405714933573&set=ecnf.100000924953884&type=3&theater
ทัศนคติของ ชอว์ ต่ออาชีพนักสู้ถูกขัดเกลาด้วยความพ่ายแพ้ครั้งแรก ทำให้เขาฝึกซ้อมอย่างหนักเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และความมุมานะดังกล่าวส่งผลให้เขาเก็บชัยชนะแบบไม่ครบยกในระดับสมัครเล่นได้ถึง 10 ครั้งติดต่อกัน
“มวยไทยทำให้ผมเป็นนักกีฬาที่ดี ผมฝึกซ้อมเจ็ดวันต่อสัปดาห์ และทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันก็สัมฤทธิ์ผล”
ชอว์ เดินหน้าอย่างหนักจนเขากลายเป็นนักมวยไทยอันดับหนึ่งของสกอตแลนด์ ตามด้วยอันดับหนึ่งของสหราชอาณาจักร และแชมป์โลก
ในตอนนี้หลังจากพิสูจน์ตัวเองกับคู่แข่งระดับโลกหลายคน รวมถึงนักชกอันตรายชาวไทย นักชกวัย 29 ปีหมายตามองจุดสูงสุดของวงการศิลปะการต่อสู้ หลังจากความสำเร็จที่ผ่านมา เขาแทบไม่เชื่อว่าตัวเองจะมาไกลถึงเพียงนี้
“ถ้าคุณมาบอกผมว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ว่าผมจะมีชีวิตแบบนี้ในตอนนี้ ผมคงไม่เชื่อในสิ่งที่คุณพูด หากคุณบอกว่าผมจะได้เซ็นสัญญากับองค์กรใหญ่ ผมคงบอกคุณให้ไปตั้งสติใหม่”
“ถ้าไม่ใช่เพราะมวยไทยและภรรยาของผม ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมจะไปอยู่ที่ไหน อาจจะไปอยู่ในคุกก็ได้ใครจะรู้!”
“วัน แชมเปียนชิพ คือเป้าหมายระดับถัดไป และเป็นก้าวกระโดดอันยิ่งใหญ่กับการได้เจอกับคู่แข่งที่เป็นที่สุดของที่สุด ถ้าคุณได้แข่งขันในรายการ วัน แชมเปียนชิพ คุณก็มีที่ยืนในวงการนี้แล้ว ตอนนี้ผมตั้งตารอที่จะสร้างผลงานอันยอดเยี่ยม การคว้าชัยชนะ และเก็บชัยชนะไปเรื่อยๆ เพื่อจะได้โอกาสในการชิงแชมป์โลก ONE ซึ่งนั่นจะเปลี่ยนชีวิตผมอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง”
อ่านเพิ่มเติม: “รถเหล็ก” ไร้ปัญหาเจอคู่แข่งสูงยาว ลั่นปราบมวยทรงนี้มาแล้ว