“มูฮัมหมัด อาลี” ต้นแบบชีวิตทั้งในและนอกสังเวียนของ “เซยิด กูเซน อาร์สลานาลิเอฟ”
สมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นในเมืองดาเกสถาน ประเทศรัสเซีย “Dagi” เซยิด กูเซน อาร์สลานาลิเอฟ เคยหลงออกนอกเส้นทางของการเป็นนักศิลปะการต่อสู้ที่แท้จริง
เขามักจะมีเรื่องมีราวตามท้องถนนอยู่เสมอ เหมือนกับเด็กหนุ่มหลายๆ คนในหมู่บ้าน แต่ไม่นานเขาก็ได้เรียนรู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรให้เหมือนกับแชมป์โลก
มันเกิดขึ้นเมื่อ “Dagi” ผู้ที่กำลังจะเผชิญหน้ากับ “The Warrior” คริสเตียน ลี ในการแข่งขัน ONE เวิลด์ กรังปรีซ์ รุ่นไลต์เวต รอบชิงชนะเลิศ ภายใต้ศึก ONE: CENTURY PART I ได้เห็นการแข่งขันระดับตำนานที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดตลอดกาล
อาร์สลานาลิเอฟ ได้ดู “The Rumble in the Jungle” การแข่งขันชกมวยสากลที่โด่งดัง ซึ่ง “มูฮัมมัด อาลี” กระชากเข็มขัดแชมป์โลก รุ่นเฮฟวีเวต จาก “จอร์จ โฟร์แมน” และทำให้เขาตัดสินใจว่า อยากเป็นแชมป์โลกเหมือนกับ “The Greatest” ยอดมวยผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล
เขาจำได้ว่า ครั้งแรกที่ได้เห็นการชกมวยของเจ้าตำนานรายนี้คือปี 1974 แต่ความรู้สึกมันราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
“การเคลื่อนไหวของ อาลี ลื่นไหลมาก เขามีวิธีจัดการ โฟร์แมน ในหลายๆ ระดับ เขาแค่ปล่อยหมัดและตอบโต้ในจังหวะที่จำเป็นเท่านั้น จนแชมป์โลกค่อยๆ ถูกกลืน ซึ่งมันน่าประทับใจมาก”
ไฟต์นั้นจุดประกายความอยากรู้อยากเห็นของ อาร์สลานาลิเอฟ และเขาเริ่มค้นหาวีดีโออื่นๆ ของ อาลี เพื่อเรียนรู้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งได้ดู เขาก็ยิ่งชื่นชอบและยกย่องสไตล์การชกมวยของไอคอนระดับโลก แต่สิ่งที่ทำให้เขาประทับใจมากที่สุดคือ ความประพฤตินอกสังเวียนของนักสู้ผู้นี้
“อาลี เป็นแบบอย่างให้ผม สำหรับผมแล้ว เขาเป็นมากกว่านักกีฬา เขามีความแอ็กทีฟ และกล้าหาญ อาลี เป็นคนพูดเก่ง เขาสามารถโน้มน้าวคนได้ และยังเป็นมุสลิมเหมือนกันกับผมด้วย”
“ดูเหมือนเขาไม่เคยสูญเสียพลังไปเปล่าๆ เขารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบนสังเวียน หรือตอนที่ถูกสัมภาษณ์ เขาดูนิ่งและสงบ และมักจะทำสิ่งที่จำเป็นต้องทำเสมอ”
- “คริสเตียน ลี” เสียบแทน “เอ็ดดี อัลวาเรซ” บาดเจ็บจนต้องขอถอน
- “เซยิด กูเซน อาร์สลานาลิเอฟ” ปิดเงียบ แผนขย้ำ “คริสเตียน ลี”
- “คริสเตียน ลี” พร้อมเสมอแม้ต้องเจอ “อาร์สลานาลิเอฟ” กะทันหัน
ในฐานะที่เป็นมุสลิมและเป็นคนเคร่งศาสนา การที่ อาลี เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามและใช้ชีวิตตามความเชื่อของเขาได้สะท้อนมาถึง อาร์สลานาลิเอฟ
อาร์สลานาลิเอฟ รู้สึกทึ่งกับความยุติธรรมและการเสียสละในอาชีพบนสังเวียนผ้าใบของ อาลี เมื่อเขายืนหยัดเพื่อสิ่งที่เขาเชื่อมั่น จนทำให้เขาถูกจำคุก เนื่องจากปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับกองทัพ เพราะความเชื่อทางศาสนาและการต่อต้านสงครามเวียดนาม
“ผมรู้ว่า มูฮัมมัด อาลี ปฏิเสธที่จะไปรบในเวียดนาม เขาบอกว่าเขาไม่ได้มีปัญหากับชาวเวียดนาม”
“ผมนับถือในสิ่งที่เขาทำ เขายอมถูกปลดเข็มขัดแชมป์โลกดีกว่าต้องไปฆ่าคนบริสุทธิ์”
“Dagi” ยังคุ้นเคยกับบทบาทของ อาลี ในการเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิพลเมืองในสหรัฐอเมริกา และเขายกย่องวิธีที่ อาลี ใช้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
“เขามักเป็นกระบอกเสียงของชนกลุ่มน้อยอยู่บ่อยครั้ง เขาไปร่วมชุมนุมกับ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง เมื่อเขาขึ้นมาอยู่บนจุดสูงสุด อาลี ไม่ลืมคนเหล่านั้น และนั่นคือสัญญาณแห่งการเป็นแชมเปียนของประชาชนที่แท้จริง”
“เขายืนหยัดในความเชื่อของตัวเองและกล้าที่จะพูดมันออกมา เขาเป็นต้นแบบที่ดี และไม่เคยหลบซ่อนปัญหาของสังคม”
อาร์สลานาลิเอฟ ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของอาชีพ แต่เขาก็ได้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ และกำลังจะได้แสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์แก่แฟนๆ ในหลายประเทศทั่วโลก
ในค่ำคืนสำคัญที่กรุงโตเกียว เขาหวังว่าจะสามารถตามรอยฮีโร่ของตัวเองได้ด้วยผลงานการชกระดับแชมป์โลกบนสังเวียน และเดินออกจากสนามเรียวโงกุ โกกุงิกัง อย่างสง่างาม
“มูฮัมมัด อาลี ตั้งมาตรฐานที่สูงไว้ให้คนอื่นๆ ในวงการต่อสู้ ผมหวังว่าจะสามารถทำได้ตามแบบอย่างที่เขาสร้างไว้ และเป็นนักสู้ที่ดีทั้งในและนอกสนาม”
อ่านเพิ่มเติม : ย้อนรอยมหากาพย์ ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นไลต์เวต ก่อนถึงรอบชิง
โตเกียว | 13 ตุลาคม | ONE: CENTURY | ศึกนัดที่ 100 ของ วัน แชมเปียนชิพ | บัตรเข้าชม: http://bit.ly/onecentury19
ONE: CENTURY คือศึกชิงแชมป์โลกศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งมีแชมป์โลก 28 คนจากหลากหลายศิลปะการต่อสู้ขึ้นเวที ไม่มีองค์กรใดที่เคยจัดอีเวนต์ชิงแชมป์โลกแบบเต็มสเกลถึง 2 ศึกในวันเดียวกันมาก่อนในประวัติศาสตร์
วัน แชมเปียนชิพ เตรียมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการชิงแชมป์โลกมากมาย รอบชิงชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 3 คู่ และแชมป์โลกปะทะแชมป์โลกอีกมากมาย ในสังเวียน เรียวโงกุ โกกุงิกัง กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 13 ตุลาคมนี้