“รถเหล็ก” กับการสูญเสียครั้งใหญ่ในชีวิต
“รถเหล็ก พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” จำต้องข้ามผ่านช่วงเวลาที่สะเทือนใจที่สุดไปให้ได้ กับการที่ต้องสูญเสียแม่จากโรคมะเร็งปากมดลูกเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่เขากำลังเตรียมตัวทำศึกครั้งสำคัญในอาชีพค้ากำปั้น
ก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งประสบความสำเร็จในไฟต์เปิดตัวกับ วัน แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สองเดือนหลังจากนั้น เขาก็ได้คิวแข่งขันต่อทันที ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่เขามีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันเขากลับมีเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจเมื่อได้รู้ว่าแม่กำลังป่วยหนัก
“ผมรู้ข่าวประมาณ 3 อาทิตย์ก่อนจะขึ้นชกที่ฟิลิปปินส์”
“ในตอนแรก แม่ไปหาหมอเพราะว่าปวดท้อง หมอให้ยามากินและให้กลับบ้าน แต่แม่ก็ยังปวดท้องอยู่เรื่อย ทำให้ต้องไปหาหมอบ่อยๆ จนหมอคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติและตรวจละเอียดขึ้น”
“พอทำอัลตราซาวด์ก็พบก้อนเนื้อสามก้อน ในปากมดลูกสองก้อน และในปอดอีกหนึ่งก้อน หมอวินิจฉัยว่าแม่เป็นมะเร็งระยะที่สามแล้ว”
วินาทีนั้น รถเหล็ก แทบจะถอนตัวออกจากการแข่งขันและบินกลับบ้านไปอยู่เคียงข้างแม่ แต่พ่อแม่พร่ำบอกเขาเสมอว่าให้ตั้งใจและรับผิดชอบหน้าที่ให้ดีที่สุด ซึ่งเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อพ่อกับพี่ชายคอยดูแลและนอนเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลทุกวัน
“ตอนที่รู้ข่าว ผมอยากกลับบ้านทันที แต่พ่อบอกว่าเขาจะดูแลแม่เอง ไม่ต้องห่วง ชกเสร็จค่อยกลับมาเยี่ยมแม่ เรามีหน้าที่ที่ต้องทำก็ต้องรับผิดชอบให้เรียบร้อยก่อน”
- แฟนคลับตัวยงของ “เพชรดำ” ที่คอยหนุนหลังไม่ว่าแพ้หรือชนะ
- ครั้งหนึ่ง “เปี๊ยก” พงษ์ศิริ กับการเป็นจิตอาสา อดีตทีมกู้ภัย 13 หมูป่า
- “รถถัง” เปิดใจนับถือ “รถเหล็ก” เป็นไอดอล รับถอดแบบบู๊จากนักมวยรุ่นพี่
ดังคำกล่าวที่ว่า The show must go on ทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป แม้ช่วงนั้นจิตใจเขาแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว การต้องเตรียมตัวซ้อมเพื่อขึ้นชกในศึก ONE: DAWN OF HEROES ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กลับทำให้เขารู้สึกว่าเวลามันช่างยาวนานเหลือเกิน
“ผมคิดถึงแม่อยู่ตลอด และไม่ค่อยมีกำลังใจที่จะซ้อมเท่าไหร่ แต่ผมก็เตือนตัวเองว่าต้องรับผิดชอบหน้าที่ ผมยังตื่นแต่เช้าทุกวัน และซ้อมวันละสองครั้งเหมือนเดิม”
“ผมไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่ แต่ยังดีที่มีพ่อคอยให้กำลังใจและทำให้ผมมีแรงฮึดสู้ ผมรู้สึกไม่ค่อยดี ผมอยากไปหาแม่ที่โรงพยาบาล แต่พ่อบอกให้ผมทำหน้าที่ของตัวเองก่อน แล้วค่อยกลับบ้าน”
การขึ้นสังเวียนกับคู่แข่งขันอย่าง “แอนดรูว์ มิลเลอร์” ซึ่งได้เปรียบเรื่องความสูงกว่าเขาถึง 12 เซนติเมตร รถเหล็ก คว้าชัยชนะมาได้แบบหวานอมขมกลืน แต่แฟนๆ ดูการแข่งขันไม่อาจรู้เลยว่าเขาต้องข่มอารมณ์ไว้มากเพียงใด
“หลังแข่งเสร็จทุกครั้ง ผมจะกลับบ้านไปหาพ่อแม่ บางทีก็ไปอยู่เป็นอาทิตย์ พาเขาไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง”
“แต่หลังจากที่แม่เสียทุกอย่างก็เปลี่ยนไป แต่ก่อนเคยเห็นพ่อแม่อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ไปไหนมาไหนด้วยกัน และกลับมานอนเตียงเดียวกัน ตอนนี้เหลือพ่อคนเดียว แกต้องทำอะไรคนเดียว มันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาก”
“ช่วงนั้นผมลามาอยู่กับพ่อเกือบเดือน จนเขารู้สึกดีขึ้น เขาจะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว”
ถึงเวลาที่ รถเหล็ก ต้องกลับมาทำหน้าที่นักมวยที่กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมตัวฝึกซ้อมและดูแลร่างกายเพื่อขึ้นชกในไฟต์ต่อๆ ไป เพราะแม้จะไม่มีแม่ แต่ทุกคนที่ยังอยู่จะต้องดำเนินชีวิตต่อไป ยังคงต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองและคนที่เขารัก
“ผมพยายามโทรหาพ่อให้บ่อยขึ้น เพราะเราอยู่กันคนละที่ และไม่ค่อยได้เจอกัน”
“ผมยังมีชีวิตอยู่และต้องสู้เพื่อพ่อ ยังต้องดูแลเขา เรายังมีชีวิตและต้องทำหน้าที่ของเรา ถึงจะเสียใจแต่เราก็ต้องลุกขึ้นสู้ต่อไปเพื่อคนที่ยังอยู่ครับ”
อ่านเพิ่มเติม : “รถเหล็ก” ไร้ปัญหาเจอคู่แข่งสูงยาว ลั่นปราบมวยทรงนี้มาแล้ว