ศิลปะการต่อสู้เปลี่ยน “อายากะ มิอูระ” เป็นหญิงแกร่งสุดมั่น

Ayaka Miura ASH_2819

“อายากะ มิอูระ” เป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานหญิง

แม้นักยูโดสาวสายดำจากญี่ปุ่นเริ่มต้นอาชีพนักสู้ค่อนข้างช้า และเธอก็สามารถก้าวขึ้นมาเฉิดฉายได้อย่างรวดเร็ว และตั้งเป้าว่าจะคว้าเข็มขัดแชมป์โลก วัน แชมเปียนชิพ อีกด้วย

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เธอประเดิมสนามระดับโลกได้อย่างน่าทึ่ง และเธอพร้อมแล้วสำหรับก้าวต่อไปในการเผชิญหน้ากับ “Marituba” ซามารา ซานโทส วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคมนี้ ในศึก ONE: DAWN OF HEROES

ก่อนที่นักสู้สาววัย 28 ปี จะได้กลับมาออกแอคชั่นที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เธอได้เปิดใจเล่าถึงความเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กผู้หญิงเงียบๆ มาเป็นนักกีฬาผู้กระฉับกระเฉงขององค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

ค้นหาตัวตน

มิอูระ เป็นเด็กที่ค่อนข้างจะเก็บตัว ในฐานะลูกคนเดียวของครอบครัว เธอยอมรับว่าเธอเป็นเด็กที่เงียบๆ แต่เธอก็มีความสุขดี

แม้เธอจะไม่ได้มีความเป็นนักกีฬา หรือสนใจในการแข่งขันใดๆ แต่เธอก็เล่นยิมนาสติกและว่ายน้ำเป็นเวลา 6 ปี ในสมัยเรียนประถม ก่อนที่จะหันมาให้ความสนใจในศิลปะการป้องกันตัวเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น

“พ่อของฉันชอบดูการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ทางทีวี ฉันก็เลยสนใจมันตั้งแต่นั้น”

“ฉันเริ่มฝึกยูโดตอนอยู่ชั้นมัธยม แต่พ่อแม่ไม่ค่อยเห็นด้วยในตอนแรก”

สิ่งที่ฉันหลงรักเกี่ยวกับยูโด ก็คือความรู้สึกของการทำคะแนนด้วยการทุ่มเหวี่ยงแบบที่เรียกว่า Ippon มันสวยงามมาก

“ฉันอธิบายท่านว่าฉันสนุกแค่กับความท้าทายของยูโด และก็โน้มน้าวให้ท่านมองเห็นความตั้งใจของฉัน”

นั่นคือจุดเริ่มต้นในเส้นทางศิลปะการต่อสู้ของ อายากะ และมันก็ทำให้เธอได้ค้นพบกับความมั่นใจตัวเอง รวมไปถึงความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่ภายใน อย่างที่เธอไม่เคยรู้มาก่อน

การฝึกซ้อมที่หนักหนาสาหัส แต่เธอก็ผ่านมันไปได้ และได้แข่งขันในระดับประเทศ ไต่ขึ้นไปถึงอันดับสูง เพื่อวางรากฐานในอนาคตสำหรับเส้นทางอาชีพ

“การฝึกซ้อมมันหนักมาก แต่ก็ไม่เคยมีสักครั้งที่ฉันจะยอมแพ้”

จากยูโดสู่ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน

Ayaka Miura uses her judo to throw Laura Balin at ONE: CALL TO GREATNESS

การเดินทางในสายศิลปะการต่อสู้ของ มิอูระ ได้มาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อเธอได้พบกับแชมป์โลก DEEP สองรุ่น “เรียว โชนัน” หนึ่งในนักสู้ชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น

“ฉันตัดสินใจที่จะฝึกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน เมื่อฉันได้เข้าทำงานในคลินิกจัดกระดูก ซึ่งมี โชนันซัง และนักกีฬาหลายคนจาก Tribe Tokyo MMA มาทำทรีตเมนต์”

“ฉันเกิดความสนใจ และอยากไปฝึกที่ยิมของพวกเขา”

ภายใต้การดูแลของ โชนัน เธอก็ได้เพิ่มทักษะการยืนสู้ รวมไปถึงการปล้ำจับล็อก ผสานเข้ากับพื้นฐานยูโดของเธอ

เธอแข่งขันในระดับอาชีพตอนอายุ 22 ปี ในเกมปล้ำจับล็อก (Grappling) ก่อนที่เธอจะประเดิมสังเวียนศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานในอีกหนึ่งปีให้หลังกับรายการ DEEP JEWELS ซึ่งเธอคว้าชัยชนะด้วยการซับมิชชันในยกแรก

“มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก แต่ฉันก็ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้”

หลังพ่ายแพ้ในไฟต์ที่สอง ให้กับคู่แข่งขันที่มีสถิติถึง 21 ครั้ง นักสู้สาวจากไซตามะจึงใช้เวลานานเกือบ 2 ปีอยู่ข้างเวที ก่อนที่จะกลับมาคว้าชัยชนะ 6 ใน 7 ไฟต์ภายใน 24 เดือนให้หลัง ทำให้เธอได้มีพื้นที่ยืนในบ้านแห่งศิลปะการต่อสู้ วัน แชมเปียนชิพ

ได้รับการชี้ทาง

Ayaka Miura and Ryo Chonan at ONE: CALL TO GREATNESS after her scarf-hold armlock submission of Laura Balin at ONE: CALL TO GREATNESS

มิอูระ กล่าวว่าเธอจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เลย หากว่าไม่มีโค้ชซึ่งคอยชี้ทางอย่าง “Little Piranha” ยูยะ วากามัตสึ ดาวดัง ONE รุ่นไลต์เวต

“เขาช่วยฉันทุกอย่าง และสนับสนุนฉันมาตลอด”

“เป็นเพราะเขาที่ช่วยให้ฉันเรียนรู้ทักษะที่สูงขึ้นและรู้จักควบคุมตัวเอง รวมถึงวิเคราะห์ทั้งในด้านการฝึกซ้อม สภาพแวดล้อม เทคนิค และทักษะ รวมไปถึงจุดแข็งและจุดอ่อนด้วย”

โชนัน มักจะเปิดเผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อนักกีฬาของเขาไม่มีความเป็นมืออาชีพอย่างที่เขาคาดหวัง แต่ทำนองเดียวกันเขาก็พร้อมจะชื่นชมยินดี หากว่าพวกเขาแสดงออกถึงหัวจิตหัวใจนักสู้อย่างแท้จริง

“โชนันซัง สอนฉันถึงความสำคัญในการผลักดันตัวเองไปข้างหน้าผ่านช่วงเวลาที่หนักหนาสาหัสที่สุดในการฝึกซ้อมและการแข่งขัน”

มีนักกีฬาไม่กี่คนที่จะเป็นตัวอย่างได้ดีเท่ากับ มิอูระ ซึ่งได้รับฉายา “Zombie” ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นอาชีพ ด้วยความที่เธอมักจะก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้อยู่ตลอด

ตั้งเป้าสู่จุดสูงสุด

การเปิดตัวในสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ ของ มิอูระ เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ แม้ว่าเธอจะค่อนข้างประหม่ากับการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรก เพื่อแข่งขันในเวทีระดับโลก

เธอเล่นงาน ลอรา บาลิน อดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลกหญิง ONE รุ่นสตรอว์เวต กดลงไปที่พื้น และก็ใช้ท่า scarf-hold armlock อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ ซับมิชชันคู่แข่งขันด้วยเวลาเพียง 73 วินาที

ชัยชนะครั้งนั้นมีความหมายกับเธอมาก ถึงขั้นปล่อยโฮกลางเวที

“สิ่งที่ฉันรักมากที่สุดในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ก็คือความรู้สึกที่ได้รับชัยชนะ และได้ยืนบนเวทีพร้อมกับเสียงประกาศชื่อของฉัน มันคือความรู้สึกที่ดีที่สุดเลย”

ผลงานของเธอทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในนักสู้พรสวรรค์ที่น่าจับตามองในปี 2019 และเธอต้องการตอกย้ำมันอีกครั้งในศึก ONE: DAWN OF HEROES ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคมนี้

“สิ่งแรกสำหรับฉันในตอนนี้ไม่ใช่แค่คว้าชัยในไฟต์ถัดไปกับ ซามารา ซานโทส แต่ฉันจะปิดเกมเธอให้ได้”

“ส่วนนัดต่อไปภายในปีนี้หรือปีหน้า ฉันอยากมีโอกาสได้ชิงแชมป์โลก และนั่งบัลลังก์แชมป์โลก ONE ให้ได้”

ดูเพิ่มเติมในหมวด บทความ

2003906
Liam Nolan Ali Aliev ONE Fight Night 18 39 scaled
OL 104 Stella Hemetsberger vs Vanessa Romanowski (7)
OL100 Shadow Vs Hassan Vahdanirad (19)
OL100 Jaosuayai Vs Denis Puric (8)
OL100 Suakim Vs Komawut (18)
Update Thai champs
BG_ONE04_0 (11)
4_OL81_TakeruThantZin (31)
OL96 Alessio Malatesta vs Abdulla Dayakaev (33)
ONE170_Presscon (82)
OL94 Puengluang vs Akif Guluzada (34)