“สามเอ” ยอมลำบากมาเกือบทั้งชีวิต…เพื่อสิ่งนี้

Sam A DC 6374

“สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” คือหนึ่งในนักชกที่ได้รับการยกย่องว่าเก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวยไทย แต่ความสำเร็จของเขาจะเกิดขึ้นไม่ได้ หากปราศจากการเสียสละอย่างยิ่งยวดตลอดเวลา 28 ปีที่ผ่านมา 

เขาจำต้องละทิ้งหลายอย่างในชีวิต เพื่อเดินหน้าสู่ความฝันสูงสุดกับความสำเร็จในวิชาชีพ ซึ่งวันนี้ผลตอบแทนของมันช่างคุ้มค่า เมื่อเขานำพาครอบครัวหลุดพ้นจากความยากจน และกลายเป็นฮีโร่ระดับประเทศ

ตั้งแต่เข้าสู่เส้นทางนักสู้เมื่อวัยเพียง 9 ขวบ สามเอ ต้องพัฒนาความคิดอ่านของเขาให้โตเกินตัว แม้จะอยากใช้เวลาเล่นสนุกกับเพื่อนๆ เหมือนอย่างเด็กทั่วไป แต่เขาก็ทำไม่ได้ เพราะเมื่อไม่มีต้นทุนชีวิต การจะไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จจึงต้องแลกมาด้วยความทุ่มเทอย่างมหาศาล

“ตอนผมเป็นเด็ก บางครั้งผมก็อยากออกไปเล่นกับเพื่อนๆ นะครับ เด็กแถวบ้านเขาเลิกเรียนแล้วก็ออกไปวิ่งเล่นกัน แต่ผมไม่มีเวลา เลิกเรียนเสร็จก็ต้องซ้อมมวยต่อ ผมเลือกทางนี้แล้วผมก็ต้องทำ”

ผมมีเพื่อนที่ชกมวยเหมือนกันหลายคน ผมชกมวยได้เงินมาเป็นค่าขนมไปโรงเรียน ตอนนั้นผมว่ามันสนุกดีเหมือนกันที่หาเงินเองได้ และมีเงินค่าขนมมากกว่าเพื่อน ผมเลยคิดว่าไม่ได้เล่นก็ไม่เป็นไร การเสียสละเวลาเล่นมันคุ้มค่ากับสิ่งที่ผมได้มา ผมจึงตั้งหน้าตั้งตาซ้อมมวยอยู่ที่ค่าย”



สามเอ เดินสายชกอย่างต่อเนื่อง โดยนั่งท้ายรถกระบะไปต่อยมวยตามงานวัดและงานเทศกาลประเพณีต่างๆ เพื่อสั่งสมกระดูกมวยและสร้างชื่อให้ตัวเองในแถบภูธร นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะเทศกาลไหนๆ ลอยกระทง สงกรานต์ หรือปีใหม่ เขาไม่มีโอกาสได้สนุกเหมือนใครๆ แต่ต้องขึ้นชกมวยแทน

พอถึงช่วงวัยรุ่น บางทีผมก็อิจฉาเพื่อนๆ เหมือนกันนะ เขาได้ไปดูหมอลำ ส่วนผมต้องเข้านอนแต่หัวค่ำเพื่อเตรียมตัวซ้อมในวันรุ่งขึ้น แต่ผมไม่เก็บเรื่องนี้มาคิดหรอก เพราะหลังแข่งเสร็จผมจะไปที่ไหนก็ได้ แต่จริงๆ ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบเที่ยวอยู่แล้ว ผมชอบอยู่เงียบๆ มากกว่า

แม้ สามเอ จะมีความหนักแน่นและแน่วแน่ต่อเป้าหมาย แต่เขาก็ยอมรับว่าช่วงหนึ่งของชีวิตเมื่อต้องย้ายจากบ้านเกิดที่บุรีรัมย์สู่ค่ายใหญ่ในเมืองกรุง เพื่อมุ่งหน้าสู่ความก้าวหน้าในอาชีพ ทำให้เขาห่างบ้านห่างครอบครัว และต้องปรับตัวกับวิถีชีวิตในแดนศิวิไลซ์ ลำบากกายอาจไม่เท่าไหร่ แต่ลำบากใจนี่เรื่องใหญ่พอสมควร

ตอนผมมากรุงเทพฯ ใหม่ๆ ผมค่อนข้างทำใจลำบาก เพราะต้องห่างครอบครัว และต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ผมรักธรรมชาติ ไม่ชอบเสียงอึกทึกวุ่นวาย ผมต้องปรับตัวเป็นเดือนถึงจะชิน มันยากนะ เพราะผมคิดถึงลูกเมีย”

ผมเตือนสติตัวเองเสมอว่า ผมมาที่นี่เพราะงาน ถ้าไม่ชกมวย ผมก็ไม่รู้จะทำอะไร ผมจึงต้องอดทนและพยายามทำให้ดีที่สุด และทุกครั้งหลังชกเสร็จ ผมจะกลับไปพักที่บ้านหนึ่งสัปดาห์เพื่ออยู่กับครอบครัว ซึ่งมันเหมือนเป็นการชาร์ตแบต ทำให้ผมมีแรงและมีกำลังใจที่จะกลับมาสู้ต่อ”

ระยะทางที่ห่างกันระหว่างกรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ ยังไม่เท่ากับปัจจุบันที่ สามเอ อยู่ไกลถึงสิงคโปร์ หลังจากที่ สามเอ ประสบความสำเร็จกวาดเข็มขัดแชมป์มวยไทยมาหลายเส้น เมื่ออายุมากขึ้นไม่มีใครยืนยงคงกระพันในวงการนี้ แต่โชคดีที่ สามเอ ได้รับโอกาสให้ไปทำงานเป็นครูมวยที่อีโวล์ฟ ยิมใหญ่ในสิงคโปร์ ด้วยรายได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งแม้ต้องห่างครอบครัวไปไกลกว่าเดิม แต่ทำให้ชีวิตของทุกคนสุขสบายขึ้นกว่าแต่ก่อนชนิดพลิกฝ่ามือ

ชีวิตตอนมาอยู่ที่อีโวลฟ์ มันง่ายกว่าตอนชกมวยอยู่เมืองไทยเยอะครับ ถึงแม้จะไกลครอบครัว แต่ผมก็วิดีโอแชตกับพวกเขาเป็นประจำ บางทีพวกเขาก็ส่งรูปให้ผมดู และช่วงปิดเทอมลูกๆ กับภรรยาก็จะบินมาหาผม”

แม้ สามเอ จะโหยหาชีวิตหัวหน้าครอบครัวที่มีภรรยาและลูกๆ พร้อมหน้าพร้อมตา แต่การเสียสละอันยิ่งใหญ่ของเขา นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ยิ่งกว่าเคยฝันไว้ ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย และตัวเขาเองก็ยังได้เดินหน้าล่าเป้าหมายบนเส้นทางนักสู้ โดยที่ผ่านมาเขาคว้าแชมป์โลก ONE มาแล้วถึงสองครั้ง และกำลังจะมีครั้งที่ 3 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ผลตอบแทนจากการเสียสละมาทั้งชีวิตของผม ผมยอมทำงานหนักเพื่อครอบครัว แต่ผมว่ามันคุ้มค่า เพราะเวลานี้ผมมีหลักประกันในชีวิต และหมดกังวลกับอนาคตของพวกเขา มันยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้ผมฮึดสู้ เพราะความสุขของผม ก็คือการได้เห็นพวกเขามีชีวิตที่ดีและมีความสุขครับ”

อ่านเพิ่มเติม:

ดูเพิ่มเติมในหมวด บทความ

06 Rungrawee vs George Jarvis OL85 (2)
06 Parham Gheirati vs George Mouzakitis (32) OL84
OFN13 Marcus Almeida VS Oumar Kane (1)
OL75_03 Shir Cohen VS Francisca Vera (25)
youssef assouik 16 9
Thai champs cover update
OL58 Seksan vs Yutaro Asahi (62)
Jonathan Haggerty vs Felipe Lobo OFN19 (52)
Shadow Mom
Suablack Tor Pran49 vs Craig Coakley OL46 (17)
Saemapetch VS Felipe Lobo60
Dimitri kovtun