“สิงห์ทองน้อย” ส่งเสริมชุมชนมวยไทยในบ้านเกิด
“สิงห์ทองน้อย ป.เตละกุล” ไม่เคยลืมบุญคุณที่ “มวยไทย” ได้มอบหลายสิ่งดีๆ ในชีวิตให้เขา และนี่คือเหตุผลที่เขาพยายามตอบแทนบุญคุณนั้นอย่างทุกวันนี้
นักสู้วัย 39 ปี เตรียมกลับคืนสู่สังเวียนมวยไทยในวันศุกร์หน้าที่ 6 กันยายนนี้ ในศึก ONE: IMMORTAL TRIUMPH ด้วยการพบกับ “Momotaro” โคเฮอิ โคเดระ ในรุ่นฟลายเวต
เขาถือเป็นเจ้าตำนานมวยไทยที่มีชื่อเสียง อดีตเจ้าของแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินี และ แชมป์โลก WMC มวยไทย ก้าวเข้าสู่วงการเพราะต้องการช่วยเหลือครอบครัวให้หลุดพ้นจากความยากจน
หลังแขวนนวมไป 3 ปี เขากลับสู่สังเวียนอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว และยังคงฝีไม้ลายมือที่เฉียบขาด เขาผ่านความสำเร็จมากมายที่เกินกว่าฝันไว้ จึงต้องการที่จะตอบแทนสู่สังคม
นับตั้งแต่การแข่งขันครั้งล่าสุด สิงห์ทองน้อย ได้แบ่งเวลาไปกับการฝึกซ้อม งานครูสอนที่สิงคโปร์ และโปรเจกต์ที่เขาได้ทำขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
“ผมสนับสนุนมวยไทยที่บ้านเกิดในจังหวัดโคราช โดยร่วมกับหัวหน้าค่ายเก่า”
“มวยไทยเข้ามาเปลี่ยนชีวิตผม ให้หลายอย่างกับผมและครอบครัว การเป็นผู้ให้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของกีฬา และตอนนี้ก็ถึงตาของผมแล้ว”
“การทำงานที่ Evolve ทำให้ผมมีรายได้ที่ดี จึงทำให้ผมสามารถทำสิ่งนี้ได้ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จะตอบแทนคืนสู่ชุมชนท้องถิ่น และมันทำให้ผมรู้สึกภูมิใจเมื่อได้เห็นเด็กๆ ได้แข่งขัน”
กีฬามวยไทยในภาคอีสานได้ดำเนินไปด้วยตัวของมันเอง แต่การอุปถัมภ์คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้พัฒนาและก้าวหน้าต่อไปได้
ในชุมชนจะช่วยกันจัดหาสถานที่แข่งขัน เดินเรื่องขออนุญาต จัดหากรรมการมาตัดสิน และประกบคู่ อย่างไรก็ตาม หากไม่มีเงินจ่าย งานต่างๆ ก็สัมฤทธิ์ผลไม่ได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม สิงห์ทองน้อย จึงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับอะไรกลับคืนจากการลงทุน เขาแค่ต้องการมอบเวทีให้กับเด็กไทย และให้โอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่างที่เขาเคยเป็น
“ผมชอบที่จะได้เห็นเด็กๆ ทำในสิ่งที่พวกเขารัก พวกเขาตั้งใจและเต็มไปทำด้วยความตื่นเต้น”
“มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะให้พวกเขามีเวทีแสดงออกและพัฒนาฝีมือ มันเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตเป็นนักสู้”
“ผมแค่ต้องการทำอะไรดีๆ ในชุมชม และทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้”
การแข่งขันระดับรากหญ้าถือเป็นการต่อยอดของกีฬาระดับประเทศ พวกเขาต้องข้ามผ่านบททดสอบฝีมือ และต้องมีความกระหายในการแข่งขัน เพื่อสั่งสมประสบการณ์สู่การเป็นนักสู้อาชีพในระดับที่สูงขึ้นไป
ด้วยสายตาอันเฉียบแหลม และการผ่านงานในวงการมวยมาหลายสิบปี ทำให้การเข้ามาสนับสนุนมวยไทยของ สิงห์ทองน้อย ยังเป็นการมอบโอกาสให้แก่นักกีฬาดาวรุ่ง
“มันเป็นหาค้นหานักมวยหน้าใหม่ให้แก่ค่ายเก่าที่เคยสร้างผมมา ทางค่ายมีบุญคุณกับผมหลายอย่าง และผมก็อยากจะช่วยพวกเขา”
ไม่ใช่เพียงเขาคนเดียวที่จับตามองนักสู้หน้าใหม่ ยังมีผู้คนอีกมากมายที่อยู่ในวงการนี้ก็กำลังพยายามค้นหาดาวเด่นอยู่เหมือนกัน เพื่อที่จะผลักดันเข้าสู่สนามมวยมาตรฐานของเมืองไทยในกรุงเทพมหานคร และหากประสบความสำเร็จในวงการมวยระดับประเทศแล้ว ก็สามารถผันเข้าสู่วงการมวยระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ ได้
สิงห์ทองน้อย พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันมีความเป็นไปได้สำหรับเหล่านักสู้รุ่นใหม่ เพราะเขาคือต้นแบบของฮีโร่ในบ้านเกิดที่สร้างชื่อเสียงตัวเองบนสังเวียนศิลปะการต่อสู้ระดับโลก
เจ้าของแชมป์โลกมวยไทยหลายสมัยเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักสู้ในภาคอีสาน ไม่ว่าจะเป็นการมอบโอกาส และการแสดงให้เห็นว่ามวยไทยนั้นสามารถเลี้ยงชีพได้
สิงห์ทองน้อย อาจไม่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ หากไม่มีเวทีบ้านๆ ให้เขาได้แสดงออก รวมถึงเงินสนับสนุนค่าตัวที่ทำให้เขานำไปแบ่งเบาภาระครอบครัวได้ ซึ่งมันสำคัญยิ่งกว่าการได้เข็มขัดแชมป์เสียอีก
“ตอนที่ผมแขวนนวม ผมต้องการกลับไปอยู่ในสังคมมวยไทยเหมือนก่อน ซึ่งนี่คือเส้นทางที่ผมพยายามจะรักษาไว้”
“สิ่งที่ผมทำให้กับชุมชนมวยไทยในบ้านเกิด ทำให้ผมมีความสุข ผมคิดถึงเพื่อนๆ ทุกคน มันจึงเป็นเรื่องดีที่จะได้อยู่กับพวกเขาและมวยไทยไปพร้อมกัน”
โฮจิมินห์ ซิตี้