“ออง ลา เอ็น ซาง” สำนึกรักบ้านเกิด เปิดประตูสู่เมียนมา เริ่มต้นจากที่บ้าน
เมื่อ “The Burmese Python” ออง ลา เอ็น ซาง ตัดสินใจมุ่งหน้าสู่สหรัฐอเมริกาครั้งแรกในปี 2003 เพื่อโอกาสด้านการศึกษา เขายอมทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังที่ประเทศเมียนมา แต่เขาไม่เคยลืมถิ่นกำเนิดของตัวเอง
เมื่อเขาได้หวนกลับบ้านเกิด ออง ลา เอ็น ซาง กลายเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของประเทศ ชาวเมียนมาเฉลิมฉลองการมาของเขาประดุจดังฮีโร่ผู้สร้างแรงบันดาลใจ เป็นขวัญใจของมหาชน และเป็นบุคคลสำคัญที่คนทั้งประเทศต้องรู้จัก ถือเป็นประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ในชีวิตที่เขาไม่อาจลืมได้
ในศึกประวัติศาสตร์ ONE: CENTURY PART II แชมป์โลก ONE สองรุ่นชาวเมียนมา จะขึ้นป้องกันเข็มขัด ONE รุ่นไลต์ เฮฟวีเวต กับ “The Truth” แบรนดอน เวรา เขากำลังจะสร้างปรากฏการณ์ปิดเมือง คนทั้งประเทศจะเฝ้าดูการแข่งขันนี้อยู่ในเรือนชาน เพื่อส่งกำลังใจให้ฮีโร่ของเขาไปถึงสังเวียนเรียวโงกุ โกกุงิกัง กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
“มันมหัศจรรย์มาก ผมได้รับความรักจากทุกคนอย่างท่วมท้น ตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงผู้สูงอายุ บางครั้งมันยิ่งใหญ่จนแทบไม่น่าเชื่อ แต่มันคือเรื่องสุดยอดที่เกิดในชีวิต”
“ครั้งล่าสุดที่ผมไปนั่น คือช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคมที่ผ่านมา “เทียล เทน” เพื่อนของผมขึ้นแข่งในตอนนั้นและผมเป็นพี่เลี้ยงให้ มันเป็นทริปที่น่าทึ่งมาก และเขาก็ชนะด้วย ที่เมียนมามันเหมือนอีกโลกหนึ่ง เป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจน แต่ผู้คนล้วนมีน้ำใจและจิตใจดีมาก”
แม้ ออง ลา จะรู้สึกรักประเทศบ้านเกิด แต่เขาอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่สำเร็จการศึกษา และลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวที่นั่น รวมถึงเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน โดยปัจจุบันฝึกซ้อมอยู่ที่ค่าย Hardknocks 365 ในรัฐฟลอริดา
การได้ใช้เวลาในทั้งสองประเทศ ทำให้เขาได้เห็นคุณค่าของชีวิตที่ทุ่มเทสร้างมากับมือ และเขายังต้องการช่วยให้เพื่อนร่วมชาติมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันกับเขาด้วย
- “แบรนดอน เวรา” ลั่น ต้องน็อก “ออง ลา เอ็น ซาง” สถานเดียว
- “ออง ลา เอ็น ซาง” เผยไซส์ไม่ใช่ปัญหาในการเจอกับ “แบรนดอน เวรา”
- 7 เหตุผลที่ ONE: CENTURY จะเป็นอีเวนต์ศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
“ผมมีสิ่งที่ดีที่สุดจากโลกจากทั้งสองประเทศ ผมมีความสุขมากที่ผมสามารถทำเช่นนั้นได้”
“สิ่งที่เรามองว่าเป็นเรื่องธรรมดา กลับเป็นความหรูหราในเมียนมา การที่เราไปซื้อของที่วอลมาร์ท ก็ถือว่าหรูแล้วนะ หรือแวะปั๊มน้ำมันเพื่อซื้อของ แม้กระทั่งการมีไฟฟ้า อินเทอร์เนต หรือเคเบิล ไว้ใช้ นี่คือความหรูหราสำหรับผู้คนที่นั่น”
“สิ่งเหล่านั้นคอยเตือนใจผมอยู่ตลอดเวลา มันทำให้ผมรู้ว่าผมโชคดีแค่ไหน และสอนให้ผมมีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองมีในอเมริกา มันยังทำให้ผมมีแรงผลักดันมากขึ้น สุดท้ายแล้ว ผมอยากมีโอกาสกลับไปอยู่ที่นั่น และทำสิ่งดีๆ เพื่อประเทศเมียนมา”
แม้ว่าชีวิตใน เมียนมา จะไม่เหมือนดินแดนศิวิไลซ์ในหลายประเทศ แต่ยังมีแง่มุมที่ทำให้ผู้คนตกหลุมรัก ซึ่ง ออง ลา พยายามนำสิ่งที่สวยงามเหล่านั้นออกสู่สายตาชาวโลก แม้แต่ในบ้านที่ฟลอลิดา เขาก็ต้อนรับแขกผู้มาเยือนด้วยกลิ่นอายของบ้านเกิด
“ผมนำความเป็นเมียนมากลับมาที่นี่ด้วย ตั้งแต่วิธีการสื่อสาร จนถึงการปฏิบัติต่อผู้อื่น”
“เมื่อผมเชิญเพื่อนๆ มาที่บ้าน ผมทำอาหารเมียนมาให้พวกเขาทาน ซึ่งมันเป็นการแบ่งปันวัฒนธรรมความเป็นอยู่ไปในตัว เช่นเดียวกับชาวอินเดีย เมื่อเขาเชิญคุณไปบ้าน คุณก็ได้ลิ้มลองอาหารอินเดีย ผมมักจะทำเช่นนั้น รวมถึงการปฏิบัติต่อพวกเขา ผมจะใส่ความเป็นเมียนมาเข้าไปเสมอ”
นอกจากนี้แล้ว ออง ลา ยังใช้โซเชียลมีเดียในการเผยแพร่เรื่องราวของบ้านเกิดให้คนได้รู้จักไปทั่วโลก
“เมื่อใดก็ตามที่ผมโพสต์ในโซเชียล ผมชอบลงวีดีโอหรือภาพถ่ายเจ๋งๆ เกี่ยวกับเมียนมา และนั่นคือวิธีที่ผมแบ่งปันความเป็นเมียนมากับผู้คนที่อยู่ในทั่วทุกมุมโลก”
อ่านเพิ่มเติม: คอเกมมีเฮ! ONE Fantasy เกมทายผลสุดมันศึกวัน แชมเปียนชิพ
โตเกียว | 13 ตุลาคม | ONE: CENTURY | ทีวี: ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ตามเวลาที่สถานีกำหนด | บัตรเข้าชม: http://bit.ly/onecentury19
ONE: CENTURY คือศึกชิงแชมป์โลกศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งมีแชมป์โลก 28 คนจากหลากหลายศิลปะการต่อสู้ขึ้นเวที ไม่มีองค์กรใดที่เคยจัดอีเวนต์ชิงแชมป์โลกแบบเต็มสเกลถึง 2 ศึกในวันเดียวกันมาก่อนในประวัติศาสตร์
วัน แชมเปียนชิพ เตรียมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการชิงแชมป์โลกมากมาย รอบชิงชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 3 คู่ และแชมป์โลกปะทะแชมป์โลกอีกมากมาย ในสังเวียน เรียวโงกุ โกกุงิกัง กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 13 ตุลาคมนี้
