เบิร์ดเดย์ 23 ปี “เพชรดำ” เปิดใจครั้งหนึ่งในชีวิต “สูงสุดสู่สามัญ” และเป้าหมายที่ต้องไปต่อ
“The Baby Shark” เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี มวยซ้ายหนุ่มอุบลฯ คนสายฮา อดีตเจ้าบัลลังก์แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ปัจจุบันรั้งอันดับ 5 ในแรงกิง ONE มวยไทย ล่าสุดเจ้าตัวเพิ่งฉลองอายุครบ 23 ปี ไปเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมาหมาด ๆ ซึ่งในฐานะที่ เพชรดำ คลุกคลีอยู่กับอาชีพนักมวยมากกว่า 10 ปี และเคยผ่านจุดสูงสุดสู่สามัญใน วัน แชมเปียนชิพ มาแล้ว เรามี 6 คำถามถึงเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมา และเป้าหมายที่เขาจะเดินต่อไปข้างหน้าในอนาคตบนเส้นทางสายนี้
#1 จากวันแรกบนเส้นทางนักมวยจนถึงวันนี้ อะไรคือความสำเร็จที่ เพชรดำ ประทับใจบ้าง?
เพชรดำ: ผมเริ่มชกมวยมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบตั้งแต่ตอนเป็นมวยแถม สั่งสมกระดูกมวยและประสบการณ์ จนไต่ขึ้นมาเป็นแชมป์สนามมวยเวทีมวยลุมพินี และแชมป์ประเทศไทย รุ่น 118 ป., แชมป์ WBC มวยไทย รุ่น 126 ป., แชมป์โตโยต้ามาราธอน รุ่น 135 ป. เคยได้ค่าตัวชกสูงสุดในบ้านเราก็ราวแสนต้น ๆ
จนช่วงสองปีหลังผมมาชกใน วัน แชมเปียนชิพ ด้วยค่าตัวประมาณครึ่งล้านบาท มันเหมือนเป็นการพลิกชีวิตนะครับ ผมได้ท้าทายความสามารถตัวเองในการชกคิกบ็อกซิ่ง สั่งสมชัยชนะจนได้เป็นแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (56.8 -61.2 กก.) ซึ่งค่าตัวตอนเป็นแชมป์มีแตะหลักล้านเลยนะครับ ทุกความสำเร็จที่ผ่านมาถือเป็นความประทับใจของผมในฐานะนักมวยอาชีพครับ
เพชรดำ vs อีเลียส มาห์มูดี (10 พ.ค.62)
#2 ที่ผ่านมาใน วัน แชมเปียนชิพ ไฟต์ไหนที่น่าจดจำ ไฟต์ไหนที่สะใจ และ สะเทือนใจที่สุด?
เพชรดำ: ไฟต์ที่น่าจดจำใน ONE คงเป็นไฟต์ชิงแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต กับ อีเลียส มาห์มูดี ครับ เพราะเป็นไฟต์ที่ผมคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE มาครองได้ ถือเป็นแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพนักมวยของผม และเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขสุด ๆ ในชีวิต ผมมีผู้ติดตามและแฟนคลับมากขึ้นทั้งคนไทยและต่างชาติ ได้รู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ที่เป็นนักกีฬาใน ONE แม้เราจะไม่ได้พูดภาษาเดียวกัน แต่เราก็มีหัวใจรักในกีฬาการต่อสู้เหมือนกัน
ส่วนไฟต์ที่สะใจที่สุดคือไฟต์ที่สองที่ผมชกใน ONE ซึ่งไฟต์นั้นชกในกติกามวยไทย 3 ยกกับ เคนนี เซ และน็อกเขาด้วยก้านคอ เป็นชัยชนะที่เด็ดขาด และได้พิสูจน์ฝีมือให้ทั่วโลกให้เห็นฝีมือของผมอย่างชัดเจน
สำหรับไฟต์ที่สะเทือนใจที่สุด คงเป็นไฟต์ป้องกันตำแหน่งครั้งแรก และเสียเข็มขัดไปนั่นแหละครับ ยอมรับว่าผู้ท้าชิง อิเลียส เอ็นนาฮาชิ เขาแกร่งจริง ๆ ผมสู้ไม่ได้ รู้สึกเสียใจมาก ๆ ครับ
#3 นอกจากการเป็นแชมป์โลก ONE แล้ว ตลอด 23 ปีที่ผ่านมา ยังมีอะไรที่ถือเป็นความภูมิใจในชีวิตอีกบ้าง?
เพชรดำ: ภูมิใจที่สุดคงเป็นเรื่องที่ผมได้บวชทดแทนคุณให้พ่อแม่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2562 ตอนอายุ 21 ปีครับ เป็นช่วงหลังจากที่ผมได้เป็นแชมป์โลก ONE แล้ว ผมบวชอยู่ทั้งหมด 15 วัน ที่วัดบ้านหนองมะเกลือ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิดของผม
หลังลาสิกขาก็กลับค่ายไปทำหน้าที่นักมวย ซ้อมมวยต่อเลย (มีคิวป้องกันแชมป์โลก) ซึ่งด้วยอาชีพผมทำให้ไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่กับครอบครัว ผมคิดถึงบ้านตลอดครับ นาน ๆ ทีถึงจะได้กลับไปเยี่ยมพ่อแม่และน้องชายทั้งสองคน
#4 รายได้จากการชกมวยได้สร้างคุณภาพชีวิตให้กับครอบครัวของ เพชรดำ อย่างไรบ้าง?
เพชรดำ: ผมต้องขอบอกก่อนว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ผมได้จากการชกมวยมาตลอดชีวิต ผมจะให้คุณพ่อเป็นคนดูแลเก็บเงินก้อนนี้ ตอนช่วงก่อนที่จะมาชก ONE ผมและครอบครัวได้นำเงินเก็บส่วนหนึ่งมาปลูกบ้านใหม่ที่บ้านเกิด จากนั้นพอได้ชกใน ONE สักพัก ก็ได้เงินมาต่อยอดจนสร้างบ้านเสร็จ รวม ๆ ใช้เงินไปกับบ้านหลังนี้ประมาณล้านกว่าบาท
นอกจากบ้านผมก็ซื้อรถยนต์เป็นของตัวเองไว้ใช้คันหนึ่ง คุณพ่อผมเขาประกอบอาชีพทำนาเป็นหลัก ก็มีซื้อวัวมาเลี้ยงเพิ่มอยู่อีก 4 ตัว ส่วนเงินสดที่เหลือพ่อเป็นคนดูแลครับ
#5 นิสัยส่วนตัว เพชรดำ เป็นคนตลกตลอดเวลาไหม และอยู่ที่ค่ายสนิทกับใคร?
เพชรดำ: ผมเป็นคนตลกเฮฮาเวลาอยู่กับเพื่อนฝูง แต่เวลาอยู่กับผู้หลักผู้ใหญ่ต้องเป็นการเป็นงาน ผมก็แยกแยะได้ครับ ยังมีกาลเทศะอยู่ (หัวเราะ) ส่วนเวลาต้องจริงจังอย่างเช่นตอนที่รู้ตัวว่ากำลังจะมีไฟต์สำคัญ มันจะมีความกดดันตัวเองอยู่ด้วยครับ แล้วพอผมซีเรียสเมื่อไหร่ ทุกคนในค่ายจะดูออกง่ายมาก เขาก็จะเข้ามาถามว่าเป็นอะไร มีความห่วงใยกันและกันครับ
ที่ค่ายผมมีเพื่อนนักมวยที่สนิทกันมาก ๆ อยู่สองคนคือ เพชรมรกต นอกจากจะเป็นคนอุบลฯ บ้านเดียวกันแล้ว เราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เริ่มชกมวยตอน 10 ขวบจนถึงตอนนี้ ส่วนอีกคนคือ แพรวพราว ที่เข้ามาอยู่เพชรยินดีฯ หลังผมได้ไม่กี่วัน ทำให้เราต่างก็เป็นน้องใหม่ของค่ายไล่เลี่ยกัน ช่วงที่ยังไม่คุ้นเคยกับนักมวยคนอื่นที่อยู่มาก่อน เราจึงพูดคุยกันเยอะและสนิทกันมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ตอนนั้นครับ
#6 เป้าหมายสำคัญต่อไปในชีวิตหลังจากนี้คืออะไร?
เพชรดำ: ถ้าในฐานะนักกีฬาของ วัน แชมเปียนชิพ ผมอยากทวงคืนบัลลังก์แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง ให้ได้ครับ อยากได้มากกว่าแชมป์มวยไทยด้วยซ้ำ เพราะว่าผมเคยได้มันมาแล้ว
ส่วนเรื่องชีวิตส่วนตัว ผมยังโสด และไม่ได้คิดไปไกลถึงขั้นอยากสร้างครอบครัว อาชีพเสริม หรือการลงทุนใด ๆ ก็ยังไม่ได้มีแพลนเอาไว้ ผมยังโฟกัสอยู่ที่การชกมวยเพียงอย่างเดียว ผมอยากทุ่มเทและทำให้เต็มที่กับอาชีพนี้ และยังคิดว่าเส้นทางนี้ยังมีหนทางให้ไปต่อได้ครับ
อ่านเพิ่มเติม: