“ออง ลา เอ็น ซาง” สารภาพความรู้สึกที่ได้รับเกียรติอันยิ่งใหญ่ ในฐานะวีรบุรุษของชาวเมียนมา
ไม่มีนักกีฬาการต่อสู้คนในโลก หรืออาจจะไม่ว่ากีฬาใดก็ตาม ที่ได้รับการยกย่องจากคนในชาติได้มากเท่ากับที่ “The Burmese Python” ออง ลา เอ็น ซาง ได้รับ
ไม่ว่าแชมป์โลก ONE สองรุ่นผู้นี้จะย่างกรายไปไหน ผู้คนก็จะแห่แหนเข้าไปล้อมหน้าล้อมหลัง ยิ่งถ้า ออง ลา ลงแข่งขันวันใด เวลาใด พม่าทั้งประเทศแทบจะหยุดนิ่ง บนถนนแทบไม่มีรถวิ่ง เพราะคนจะจ้องอยู่หน้าจอทีวีเพื่อรอเชียร์ฮีโร่ของพวกเขา
ยิ่งถ้าศึกไหนจัดในบ้านเกิดของ ออง ลา ที่เมียนมา สนามแข่งขันจะคับคั่งไปด้วยผู้คนที่เบียดเสียดกันเข้าไปชม เรียกว่าแทบจะทะลักออกมาเลยก็ว่าได้
ไม่เพียงเท่านั้น ยังได้มีการจัดสร้าง รูปปั้นสัมฤทธิ์ของ ออง ลา ปรากฏอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Kachin National Manau Park ซึ่งอยู่ในบ้านเกิดของฮีโร่เมียนมาที่เมืองมิตจีนาอีกด้วย
“มันเป็นเรื่องประหลาดใจอย่างที่สุด จนผมแทบไม่อยากจะเชื่อ ที่ได้เห็นรูปปั้นของตัวเอง มันรู้สึกแปลกๆ เหมือนกันนะ แต่ผมก็พอเข้าใจว่าทำไมผู้ใหญ่ในบ้านเมืองถึงทำแบบนี้ พวกเขาคงต้องการให้รูปปั้นของผมเป็นเครื่องเตือนใจและให้กำลังใจแก่เยาวชน”
“ถ้าเรามีความมุ่งมั่น ทุ่มเท อดทน ขยัน คุณก็สามารถเป็นแชมป์โลกได้เหมือนกัน แต่ส่วนตัวผมแล้ว ผมว่ามันค่อนข้างแปลกๆ ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองสำคัญหรือดีเลิศไปกว่าใคร”
ออง ลา พบกับจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อเขาเข้าร่วมพิธีเปิดรูปปั้นในเดือนธันวาคม 2561 และเห็นผู้คนนับพันมาร่วมงาน นอกจากจะอึ้งกับปฏิกิริยาของผู้คนเมื่อเห็นเขาตัวเป็นๆ แล้ว เขายังตระหนักอีกว่าตัวเขานั้นมีความสำคัญต่อชาวพม่ามากมายเพียงใด
“มันเป็นพิธีการแบบบ้านๆ ซึ่งมันเจ๋งมาก มีประชาชนประมาณหมื่นหรือสองหมื่นคน ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ทุกเพศทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ มาเดินพาเหรดกัน พวกเขามานั่งข้างหน้าผม ผมพูดคุยกับพวกเขาและสาธิตการต่อสู้ให้ดู ในช่วงท้ายสิ่งที่เยี่ยมที่สุดคือเราแบ่งของกินกัน”
ออง ลา จัดสรรเวลาเดินทางไปมาระหว่างพม่า และอเมริกา ซึ่งเขาต้องฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ที่ ฮาร์ดน็อกส์ 365 เพราะในเวลานี้ยิมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับการฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานในบ้านเกิดของเขายังอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา “The Burmese Python” จึงมีเป้าหมายระยะยาวที่จะผลักดันและยกระดับเรื่องนี้ให้ดีขึ้นในอนาคต
เขาไม่เคยนึกถึงเรื่องการสร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นเกียรติแก่ตัวเอง แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ออง ลา จึงจริงจังและให้สำคัญกับมันมาก เพื่อให้สมกับที่ชาวเมียนมายกย่องนับถือและให้เกียรติเขาถึงเพียงนี้
เขาปฏิญาณกับตัวเองว่าเขาจะยังเป็นคนเดิมที่มีความถ่อมตนและมุ่งมั่นเหมือนอย่างที่ผ่านมา และจะสร้างศรัทธาจากความสำเร็จ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและประชาชนในประเทศ
“คำว่า วีรบุรุษระดับชาติ มันกดดันผมมากเหมือนกัน พวกเขาทำให้ผมเป็นแบบนั้น ทั้งๆ ที่ผมไม่รู้สึกเลยว่าผมทำอะไรที่คู่ควร ตอนนี้ไม่ว่าผมจะพูดหรือทำอะไรก็กลายเป็นที่รับรู้กันไปทั่ว ดังนั้นผมจึงต้องระวังคำพูดและการกระทำ ทำสิ่งต่างๆ ในแง่บวก และไม่โพสต์อะไรที่เป็นแง่ลบในโซเชียลมีเดีย ผมอยากเป็นตัวอย่างในแง่ดีให้มากที่สุด”
ถึงวันหนึ่งเมื่อบทบาทบนสังเวียนของ ออง ลา ยุติลง แต่เรื่องราวของเขาจะยังถูกเล่าขานต่อไปในบ้านเกิด ผ่านรูปปั้นสัมฤทธิ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในอุทยานแห่งชาติประจำท้องถิ่น เกี่ยวกับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้ชาวเมียนมาทั้งประเทศภาคภูมิใจ
“มันจะยังคงอยู่ตรงนั้นต่อไปซึ่งเป็นเกียรติสำหรับผมจริงๆ ครับ”
อ่านเพิ่มเติม: