“เจมส์ นากาชิมา” ความแข็งแกร่งจากอิทธิพลของสองแชมป์โลก
นักสู้ไร้พ่ายชาวอเมริกัน “เจมส์ นากาชิมา” ก้าวขึ้นเป็นนักสู้แถวหน้าของ วัน แชมเปียนชิพ ในรุ่นเวลเตอร์เวต อย่างรวดเร็ว
วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคมนี้ เขาพร้อมเผชิญหน้าเจ้าตำนานชาวญี่ปุ่น “ยูชิน โอกามิ” ในศึก ONE: DAWN OF HEROES ที่มอลล์ ออฟ เอเชีย อารีน่า กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ และชัยชนะอีกเพียงไฟต์เดียว จะสามารถนำเขาสู่โอกาสในการชิงแชมป์โลกได้
นี่คือไฟต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนักศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานวัย 30 ปี ซึ่งการฝึกฝนและทุมเทอย่างหนักมาทั้งชีวิต ทำงานหนัก ทุ่มเท และอิทธิพลจากแบบอย่างที่ดีก็ทำให้เขาพร้อมสำหรับช่วงเวลานี้
It's a classic grappler vs. striker showdown when American warrior James Nakashima meets Brazilian bruiser Luis Santos on Friday! Predictions? Manila | 12 April | 6:00PM | Watch on the ONE Super App: http://bit.ly/ONESuperApp | TV: Check local listings for global broadcast | Tickets: http://bit.ly/onehonor19
Posted by ONE Championship on Monday, April 8, 2019
นากาชิมา รู้ดีว่าไม่ใช่นักมวยปล้ำที่เก่งที่สุด ไม่ได้จับล็อกฝีมือฉกาจ และไม่ใช่จอมน็อกเอาต์ แต่นักสู้เลือดมะกันรู้สึกได้ว่าระเบียบวินัยและจริยธรรมทำให้เขาได้เปรียบ
“มันเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้ผมแตกต่างจากนักสู้คนอื่นๆ แม้แต่เพื่อนร่วมทีมของผม” แชมป์ LFA รุ่นเวลเตอร์เวต กล่าว
“ถ้าคุณดูการฝึกซ้อมของเราสักครั้ง อาจจะหาความแตกต่างระหว่างผมกับเพื่อนร่วมทีมได้ยาก แต่ผมจะลงซ้อมพร้อมกับแผนที่วางไว้ว่าต้องเน้นอะไร”
“หลังซ้อม ผมจะกลับบ้านและทานอาหารที่มีประโยชน์ ผมนอน ผมทำจิตใจให้ดี ผมทำแบบนี้ทุกวัน และทำอย่างสม่ำเสมอ”
ขณะที่เข้าร่วมทีมมวยปล้ำของมหาวิทยาลัย Nebraska เขามีโอกาสได้ซ้อมร่วมกับนักมวยปล้ำที่ทุ่มเทและมีวินัยเต็มเปี่ยมคนหนึ่งทุกวัน
เขาคือนักมวยปล้ำเหรียญทองโอลิมปิค “จอร์แดน เบอร์โรส์” ซึ่งขึ้นว่าเป็นหนึ่งในนักปล้ำที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์
“ช่วงที่ผมอยู่กับ จอร์แดน เบอร์โรส์ 3 ปี ผมได้เห็นการซ้อมของเขาทุกวัน มันสอนผมได้เยอะ” นากาชิมากล่าว
“จอร์แดนไม่ได้ทำอะไรพิเศษมากกว่าคนอื่น แต่เขามาทุกวัน ทำงานของตัวเอง ทำทุกอย่างด้วยความเป็นมืออาชีพ”
“เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นนักมวยปล้ำที่ดีที่สุด แต่ภายในห้อง เขาไม่ได้ยกได้หนักกว่าคนอื่น บนลู่วิ่งเขาก็ไม่ได้วิ่งเร็วที่สุด ไม่ใช่ว่าเขาทุ่มเท 150 เปอร์เซ็นต์มากกว่าคนอื่น แต่วิธีการทำงานของเขาวันต่อวัน เขาเป็นมืออาชีพมาก และทำอย่างนั้นเป็นประจำทุกวัน”
นากาชิมา มองหาบรรยากาศแบบเดียวกันเมื่อหันมาฝึกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน สุดท้ายจึงไปลงเอยกับ MMA Lab สถานที่ฝึกซ้อมระดับท็อปใน ฟีนิกซ์ แอริโซนา บ้านของนักสู้ชั้นนำหลายคนในอเมริกา
ที่นี่เขาได้พบแรงขับเคลื่อนแบบเดียวกับที่ เบอร์โรส์ มี จากทั้งโค้ชและเพื่อนนักกีฬาด้วยกัน
“นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงมาฝึกที่นี่”
“จอห์น คราวช์ อาศัยอยู่ที่ The Lab ตอนไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาก็อยู่กับนักสู้สักคนในที่ใดที่หนึ่ง”
“ผมไม่รู้ว่า เฮนเดอร์สัน เบนสัน ป่านนี้อายุเท่าไหร่ อาจจะสัก 35 ปี แต่เบนสันซ้อมหนักกว่าใครๆ ที่นี่ตลอด 6 ปีที่ผมอยู่มา เป็นอะไรที่เขาบอกเสมอ”
นากาชิมา ยังรู้สึกได้ถึงบรรยากาศแบบเดียวกันเมื่อพบกับ “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” ที่มิลาน อิตาลี
เปโตรเซียน ที่เพิ่งไปเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของการแข่งขัน ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต คือหนึ่งในคิกบ็อกเซอร์ที่ดีที่สุดตลอดกาล
ไม่เพียงได้พัฒนาการยืนสู้ในความดูแลของยอดฝีมือชาวอิตาเลียน นากาชิมา ยังรับเอาวิธีการฝึกซ้อมและเตรียมตัวมาจากเพื่อนของเขาอีกด้วย
“ตอนผมออกไปซ้อมที่อิตาลีกับเปโตรเซียน ซึ่งตอนนี้เราสนิทกันมาก เขาช่วยผมไว้เยอะ แล้วเขาก็แนวเดียวกัน เขาละเอียดกับทุกอย่างที่ทำ และมีความเป็นมืออาชีพอย่างมาก”
ทุกสิ่งล้วนมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของ นากาชิมา และทุกอย่างหลอมหลวมเป็นตัวของเขา
นักสู้ไร้พ่ายบนสังเวียนศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานระดับอาชีพ หากเขาสามารถผ่าน โอกามิ ในการแข่งขันที่ มอลล์ ออฟ เอเชีย อารีน่า ไปได้ มันจะนำทางเขาไปสู่โอกาสในการชิงแชมป์โลก ONE รุ่นเวลเตอร์เวต
เมื่อถึงวันนั้น เขาจะยิ่งเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนของ เบอร์โรส์ และ เปโตรเซียน ด้วยตำแหน่งแชมป์โลก