“เจเน็ต ท็อดด์” อยากย้อนเวลาภูมิใจกับความเป็นลูกครึ่งต่างวัฒนธรรมของตัวเอง

Janet Todd IMG_1796

“JT” เจเน็ต ท็อดด์ นักสู้สาวเลือดผสมอเมริกัน-ญี่ปุ่น ที่ไปเติบโตในเฮอร์โมซา บีช รัฐแคลิฟอร์เนีย ตอนเธอยังเล็ก แม่ชาวญี่ปุ่นเป็นคนคอยเลี้ยงดูเธอและน้องสาวเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เธอพูดภาษาญี่ปุ่นได้เป็นภาษาแรก ก่อนที่จะเรียนภาษาอังกฤษจากโรงเรียน

เจเน็ต รู้ตัวดีว่าเธอเกิดมาในครอบครัวสองวัฒนธรรมที่แตกต่าง แต่ในเวลานั้นเธอแค่อยากจะเป็นเหมือนเด็กๆ ทั่วไปในโรงเรียน

ถ้าย้อนกลับไปได้ ฉันอยากจะชื่นชมกับความพิเศษตรงนี้ให้มากขึ้น แต่ตอนนั้นฉันไม่ค่อยภูมิใจกับวัฒนธรรมของที่บ้านนัก เพราะฉันไม่อยากแตกต่าง ฉันอยากจะเป็นเหมือนเด็กคนอื่นๆ

เธอยอมรับว่า ความกังวลเรื่องชาติกำเนิดที่แตกต่าง มาจากการคิดไปเองตามประสาเด็ก ทั้งที่เพื่อนๆ ไม่มีใครสนใจอะไรตรงนั้นเลย

“สมัยเด็กๆ ฉันพกกล่องข้าวเบนโตะไปโรงเรียน ไม่มีใครมีของแบบเดียวกับฉัน ทุกคนมีถุงกระดาษใส่อาหารกลางวัน พวกแซนด์วิชไส้เนยถั่วและเยลลี่ แต่ของฉันมีข้าวปั้น ตอนกินมื้อเที่ยง ฉันจะซ่อนกล่องข้าวไว้ใต้โต๊ะและหยิบอาหารใส่ปาก เมื่อมองย้อนกลับไปแล้วมันงี่เง่ามาก ฉันไม่คิดว่าพวกเพื่อนๆ จะแคร์ด้วยซ้ำ แต่เป็นฉันเองที่คิดมาก”

เจเน็ต เล่าว่าความรู้สึกชาตินิยมให้ฟังว่า ตอนที่แม่พาเธอและน้องสาวไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ญี่ปุ่นช่วงปิดเทอม เด็กๆ ในอเมริกากำลังพักผ่อนกับช่วงวันหยุดอย่างสนุกสนาน แต่เธอและน้องสาวต้องไปเรียนพิเศษที่ญี่ปุ่นเป็นระยะเวลาสามเดือนจนถึงเกรด 6 ซึ่งนั่นทำให้เธอเห็นความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของเธอกับเด็กอเมริกันทั่วไป

“ฉันจำได้ว่าวันแรกที่ฉันจะเข้าห้องเรียน พวกเด็กนักเรียนจะมามุงอยู่รอบๆ ทางเข้าโรงเรียนเพื่อชะเง้อมองว่าฉันเป็นใคร มันพิลึกมาก และทำให้ฉันรู้สึกว่าเป็นจุดเด่นที่แปลกแยก แต่สุดท้ายฉันก็ผูกมิตรกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนได้

มีเพื่อนหลายคนที่ยินดีต้อนรับและอยากเล่นกับฉัน ฉันได้สัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง เพราะฉันเอาตัวไปอยู่ที่นั่นจริงๆ

มันอาจเป็นเรื่องลำบากใจสำหรับ ท็อดด์ เมื่อตอนวัยเด็กที่ต้องยอมรับทั้งรากเหง้าความเป็นอเมริกันและญี่ปุ่นในเวลาเดียวกัน แต่เมื่อเธอโตขึ้น เธอก็เรียนรู้ที่จะภูมิใจกับทั้งสองวัฒนธรรมอันเป็นถิ่นกำเนิดของพ่อและแม่

ฉันเริ่มนับถือตัวเองมากขึ้นตอนอยู่ชั้นมัธยมปลายและมหาวิทยาลัย ฉันมีความเป็นตัวเอง และโตพอที่จะรู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องฝืนธรรมชาติเพื่อให้เหมือนคนอื่น”

ถึงตอนนี้ เจเน็ต ไม่สามารถเดินทางไปญี่ปุ่นได้บ่อยครั้งอย่างที่ใจต้องการ และเธอรู้สึกโหยหาโอกาสนั้นที่จะได้กลับไปเยือนบ้านหลังที่สองซึ่งอยู่อีกฟากของมหาสมุทร

พอโตเป็นผู้ใหญ่ ฉันก็ไม่มีโอกาสได้ไปญี่ปุ่นบ่อยนัก เพราะมีภาระที่ต้องทำหลายอย่าง แต่ฉันก็อยากจะไปที่นั่นเหมือนที่ผ่านมา ฉันชอบอาหารญี่ปุ่น ฉันมีครอบครัวและเพื่อนๆ อยู่ที่นั่น มันเหมือนได้กลับไปเยี่ยมครอบครัวและออกไปแฮงก์เอาต์ ทำอะไรที่พวกเราอยากทำ นั่นคือการกินและนั่งเม้าท์”

ทุกวันนี้หากมีโอกาสที่จะได้ไปเยือนบ้านหลังที่สอง เธอจะไม่ปฏิเสธเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นการสังเวียนแข่งขันเพื่อโชว์ทักษะการต่อสู้ของเธอให้ครอบครัวที่ญี่ปุ่นได้ดูอย่างเช่นในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็นับเป็นความภาคภูมิใจของเธออย่างที่สุดเหลือเกิน

อ่านเพิ่มเติม:

ดูเพิ่มเติมในหมวด บทความ

1820285
11 Anatoly Malykhin VS Oumar Kane one 169 (33)
06 Rungrawee vs George Jarvis OL85 (2)
06 Parham Gheirati vs George Mouzakitis (32) OL84
OFN13 Marcus Almeida VS Oumar Kane (1)
OL75_03 Shir Cohen VS Francisca Vera (25)
youssef assouik 16 9
Thai champs cover update
OL58 Seksan vs Yutaro Asahi (62)
Jonathan Haggerty vs Felipe Lobo OFN19 (52)
Shadow Mom
Suablack Tor Pran49 vs Craig Coakley OL46 (17)