เปิดเรื่องจริงของ “สิงห์ทองน้อย” นักสู้ที่มะเร็งฆ่าไม่ตาย

Singtongnoi BBB_2010

เรื่องราวชีวิตสุดมหัศจรรย์ของนักชกที่ “มะเร็งฆ่าไม่ตาย” สิงห์ทองน้อย ป.เตละกุล กับการเผชิญหน้าคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต การข้ามผ่านช่วงเวลาระหว่างความเป็นกับความตาย ทำให้เขาได้รู้ซึ้งถึงคุณค่าของชีวิต

หลังการแขวนนวมในวัย 35 ปี นักมวยระดับตำนานของเมืองไทย ผู้เคยผ่านสังเวียนผืนผ้าใบกว่า 300 ไฟต์ในเวลากว่า 20 ปี เขาเคยผ่านจุดสูงสุดได้เป็นแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินี, แชมป์ WMC มวยไทย และได้รับรางวัลนักมวยยอดเยี่ยมของสนามมวยเวทีราชดำเนิน

 

 

 

หลังจากขึ้นสังเวียนครั้งสุดท้ายในประเทศไทยแล้วกระดูกซี่โครงหัก ต้องพักฟื้นร่างกายจนร้างเวทีไปนาน เขากลับไปใช้ชีวิตแบบบ้านๆ โดยยึดอาชีพขายนมแพะ ไม่นานความยากจนแร้นแค้นก็กลับมาเยือน จนกระทั่งวันที่เขาได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล

เขาได้รับการชักชวนให้ไปทำงานที่ Evolve MMA ยิมใหญ่ในสิงคโปร์ ในฐานะเทรนเนอร์ เช่นเดียวกับเหล่านักมวยไทยดีกรีแชมป์โลกอีกหลายคนที่ปักหลักอยู่ที่นั่น

การทำงานเป็นเทรนเนอร์กำลังไปได้สวย แต่เขากลับต้องเจออุปสรรคจากคู่ต่อสู้ที่ร้ายกาจที่สุดในชีวิต  หลังพบข่าวร้ายจากแพทย์ว่าตรวจพบ “มะเร็งระยะที่ 3”

“ตอนที่หมอบอกว่าผมเป็นมะเร็งโพรงจมูกและลำคอ ผมช็อกมาก ไม่อยากเชื่อว่าตัวเองเป็นมะเร็ง จะเป็นไปได้ยังไง ก็แค่หูอื้อๆ ไม่ค่อยได้ยิน ผมร้องไห้ มันหมดอาลัยตายอยากในชีวิต เพราะรู้ตัวว่าต้องตายแน่นอน”

 

Singtongnoi Por Telakun 31743643_10156382860973756_1021989538257436672_n.jpg

 

ชีวิตที่ต้องต่อสู้กับ “ความตาย” เขาได้รับกำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้าง รวมถึงเจ้าของยิมและบิ๊กบอสของ วัน แชมเปียนชิพ อย่าง “นายชาตรี ศิษย์ยอดธง” ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล และปลุกขวัญกำลังใจให้เขาสู้ชีวิตต่อไป

สิงห์ทองน้อย ได้รับการดูแลรักษาอย่างดีด้วยเคมีบำบัดและฉายรังสี แต่ผลกระทบจากการรักษานั้นสุดแสนจะเจ็บปวดและทรมาน

สัปดาห์แรกของการรักษา เขาแทบกินไม่ได้ น้ำหนักหายไป 5 กก. ไม่มีแรง แม้แต่จะยกแขน หรือเดินไปมาก็ยังยากลำบาก เพลียและได้แต่นอนอย่างเดียว

“คุณชาตรี ดีกับผมมาก บอกให้สู้ ให้กำลังใจ และอย่ายอมแพ้ ผมไม่ได้ทำงาน แต่ก็ยังจ่ายเงินเดือนตามปกติ และออกค่ารักษาพยาบาลให้ทุกบาททุกสตางค์ คิดดูว่าเป็นเงินมากมายมหาศาลเท่าไหร่ ผมซาบซึ้งใจมากครับ”

หลังจากผ่านการทำบำบัดด้วยเคมี 7 ครั้ง และรังสีบำบัด 36 ครั้ง หมอแจ้งข่าวดีว่ามะเร็งได้หายไปแล้ว

“ผมพยายามปฏิบัติตามที่หมอสั่งอย่างเคร่งครัด ไปตรวจแต่ละครั้งหมอก็บอกว่าดีขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง 6 เดือนผ่านไป หมอบอกว่าคุณหายดีแล้ว ตอนนั้นผมรู้สึกโลกทั้งใบเป็นของผม โอ้โห…มันโล่งไปหมดเลย”

 

Singtongnoi Por Telakun IMG_6807.jpg

 

เมื่อได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่าหายดี และเปิดไฟเขียวให้เขากลับมาฟิตร่างกายได้เหมือนเดิม สิงห์ทองน้อย ในวัย 37 ปี จึงขอโอกาสขึ้นชกในรายการระดับโลก  วัน แชมเปียนชิพ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองให้คนทั่วโลกได้เป็นอุทาหรณ์ และรู้จักเขาในฐานะ “นักชกผู้ชนะมะเร็ง”

“ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้กลับมาโชว์ความสามารถบนเวที รู้สึกเหมือนครั้งแรกที่ได้ขึ้นชก มันเป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ของชีวิต เพราะหลังจากหายจากมะเร็งแล้ว ทำให้ผมรักตัวเองมากขึ้น ทำให้รู้ว่าชีวิตมีคุณค่ามากแค่ไหน”

นี่คือเรื่องราวชีวิตของหนึ่งในนักมวยระดับเจ้าตำนานมวยไทย ผู้เคยเดินผ่านเส้นบางๆ ระหว่างความเป็นและความตาย เป็นตัวอย่างให้ผู้ที่กำลังท้อแท้ หมดหวัง มีกำลังใจลุกขึ้นมาต่อสู้กับชีวิต เพราะตราบใดที่หัวใจไม่ยอมแพ้ ก็เท่ากับได้ฝ่าฟันอุปสรรคไปครึ่งทางแล้ว

 

อ่านเพิ่มเติม:

ดูเพิ่มเติมในหมวด บทความ

OFN13 Marcus Almeida VS Oumar Kane (1)
OL75_03 Shir Cohen VS Francisca Vera (25)
youssef assouik 16 9
Thai champs cover update
OL58 Seksan vs Yutaro Asahi (62)
Jonathan Haggerty vs Felipe Lobo OFN19 (52)
Shadow Mom
Suablack Tor Pran49 vs Craig Coakley OL46 (17)
Saemapetch VS Felipe Lobo60
Dimitri kovtun
Jompadej Nupranburi vs Kaichon Sor Yingcharoenkarnchang OL55 (1)
Cover_OFN24_Amy01