เปิดใจ “ยอดมวย 3 พ.ศ.” หลังเบนเข็มชกคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกในชีวิต
เปิดตัวในกติกาคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกอย่างเหนือชั้นสำหรับ “พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์” ซึ่งเบนเข็มสู่กติกาใหม่ครั้งแรกในชีวิต
สำหรับ “ยอดมวย 3 พ.ศ.” ซึ่งได้รับโอกาสจาก วัน แชมเปียนชิพ ให้พิสูจน์ความสามารถกับกติกาคิกบ็อกซิ่งครั้งแรก ในนัดปฐมฤกษ์เปิดสนามแรกที่โฮจิมินห์ ซิตี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ท่ามกลางสายตามหาชนชาวเวียดนามกว่าครึ่งหมื่นที่สนามฝูเถาะ อินดอร์ สเตเดียม
ยอดมวยชาวไทยขึ้นสังเวียนดวลหมัดกับอดีตแชมป์รายการไรซ์ (RISE) รุ่นเฟเธอร์เวตจากญี่ปุ่น “มาซาฮิเดะ คูโด” ที่ช่ำชองในกติกาคิกบ็อกซิ่งมากกว่า แต่หากเทียบกันเรื่องประสบการณ์แล้ว นักชกไทยทิ้งห่างไปหลายขุม
Thai phenom Panpayak 🇹🇭 uses all his tools to edge out Masahide Kudo for the unanimous decision victory!📺: Check local listings for global broadcast details📱: Watch on the ONE Super App 👉 http://bit.ly/ONESuperApp🏷: Shop Official Merchandise 👉 http://bit.ly/ONECShop
Posted by ONE Championship on Friday, September 6, 2019
หลังจากกลับถึงประเทศไทย เจ้าตัวได้เปิดใจถึงความสำเร็จในไฟต์ที่ผ่านมา พร้อมอนาคตที่วางไว้กับรายการ วัน แชมเปียนชิพ
ONE: เป็นอย่างไรบ้างกับการขึ้นชกคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกในชีวิต
พันธ์พยัคฆ์: ยังมีติดๆ ขัดๆ บ้างครับ เพราะเพิ่งเป็นครั้งแรกจึงยังไม่ชินกับกติกาคิกบ็อกซิ่ง และชก 3 ยกด้วย ทำให้เราต้องเดินเกมเร็ว ต้องออกอาวุธและมีการเคลื่อนไหวตลอด ยอมรับว่าเหนื่อยกว่าชกมวยไทย 5 ยก เพราะเรายังมีการกอดพักได้ แต่ถ้าชกในวันฯ ถ้าเรากอดนาน เราจะโดนเตือนครับ
ONE: จากคะแนนเต็ม 10 ถ้าให้ประเมินตัวเองจะให้คะแนนเท่าไหร่
พันธ์พยัคฆ์: ผมให้ 8 ครับ เรายังมีติดกับมวยไทยอยู่บ้าง ยังต้องปรับเรื่องการออกเสต็ป และออกอาวุธต่อเนื่องมากขึ้น
ONE: คู่ต่อสู้ (มาซาฮิเดะ คูโด) เป็นอย่างไร
พันธ์พยัคฆ์: ยากนิดหนึ่งครับ เขามีหมัดที่น่ากลัว ตอนดูเทปที่เขาชกกับเพชรดำและสิงห์ทองน้อย เหมือนหมัดจะไม่ค่อยมีน้ำหนัก พอมาเจอจริงๆ หมัดเขาหนัก และมีเตะขาด้วย แต่อาศัยที่เราซ้อมไปดี เตรียมตัวแก้ทางไปแล้ว ทั้งการเตะซ้าย หมัดเสริม และการถีบสกัด ที่ซ้อมไว้ก็ได้ใช้ทั้งหมดครับ
ONE: กับคู่ชกต่างชาติ แตกต่างจากนักมวยไทยไหม
พันธ์พยัคฆ์: ยอมรับว่านักมวยชาวต่างชาติเขาพัฒนาฝีมือไปมาก เขาโดนอาวุธเราเยอะ เขายังใจสู้ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ อย่างคู่ชกของ กุหลาบดำ (โบโบ แซกโก) อาวุธมวยเขาเหมือนนักมวยไทยเลย เราจะประมาทคู่แข่งชาวต่างชาติไม่ได้ครับ และหลายคนก็มีครูมวยเป็นคนไทย ทำให้เขาได้เรียนรู้หลายอย่างที่ไม่ต่างไปจากเรา
ONE: เริ่มคุ้นเคยกับนวม 4 ออนซ์แบบเปิดนิ้วหรือยัง
พันธ์พยัคฆ์: ใจลึกๆ ผมยังชอบนวมแบบที่ใช้ในการแข่งขันมวยไทยตามปกติ เพราะเราโตมาจากนวมแบบนี้ มันคุ้นเคยกว่า ทำให้เราออกอาวุธได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าผมได้มีโอกาสใช้นวม 4 ออนซ์บ่อยมากขึ้น ผมเชื่อว่าผมสามารถปรับตัวได้ ไม่มีปัญหาครับ
ONE: ทราบมาว่า “ว่าที่เจ้าสาว” ตามไปเชียร์ติดขอบสนามที่เวียดนาม
พันธ์พยัคฆ์: ใช่ครับ ปกติเขาไปเชียร์ผมทุกไฟต์อยู่แล้ว แต่ในการชกต่างประเทศครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้วเขาไม่ได้ไป แต่ครั้งนี้แม่เอ๋ (สุนทรี โลหะพืช หัวหน้าค่าย) ชวน เขาก็เลยมาด้วย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องของกำลังใจนะครับ เวลาที่เราได้ยินเสียงเชียร์ เราก็รู้ว่าเป็นแฟนเรา
ONE: ในระหว่างที่รอกรรมการประกาศผลการตัดสินใจ มั่นใจแค่ไหนว่าตัวเองจะชนะ
พันธ์พยัคฆ์: ผมมองเกมแล้ว คิดว่าผมชนะทุกยก เพราะเราออกได้ตลอด และคู่ต่อสู้ก็เจ็บเยอะ ดูจากสถานการณ์เราดีกว่า ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าเราชนะ พอกรรมการชูมือให้ ความรู้สึกวินาทีนั้นคือมันโล่ง เราทำได้แล้ว เราแบกรับความกดดันมานาน กลัวทำไม่ได้ในสไตล์คิกบ็อกซิ่ง แต่สุดท้ายมันก็ผ่านไปด้วยดี รู้สึกดีใจครับ
ONE: วางอนาคตกับการชกคิกบ็อกซิ่งไว้อย่างไร
พันธ์พยัคฆ์: ผมดีใจที่ทาง ONE มอบโอกาสนี้ให้ผม ซึ่งผมมองเห็นอนาคตที่ดีกว่าในกติกาคิกบ็อกซิ่ง เพราะปัจจุบัน รถถัง เป็นแชมป์โลกมวยไทยของวันฯ อยู่ และเราเป็นเพื่อนร่วมค่ายเดียวกัน ผมจึงมองอนาคตไว้ที่การชิงแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งแทน ซึ่งหากผมสั่งสมประสบการณ์ชกคิกบ็อกซิ่งสักอีก 3 ไฟต์ จนมีความคุ้นเคยและมั่นใจมากกว่านี้ ผมเชื่อว่าจะสามารถก้าวสู่จุดสูงสุดได้เหมือนที่ชกในกติกามวยไทยครับ