“เพชรดำ” พร้อมสู้ขาดใจเพื่ออนาคตอันสดใสของน้องๆ

ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นใคร “The Baby Shark” เพชรดำ เพชรยินดีอะคาเดมี สู้เต็มที่เสมอเพื่อครอบครัว ภายใต้การสนับสนุนและกำลังสำคัญจากพ่อแม่และน้องชายทั้งสองคน
แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ซึ่งมีคิวป้องกันเข็มขัดกับ “อิเลียส เอ็นฮานาชิ” ในฐานะคู่เอกของศึก ONE: DREAMS OF GOLD มีน้องชายสองคนซึ่งฝากอนาคตไว้กับเขา
ในขณะที่พี่ชายคนโตต้องฝึกซ้อมอย่างหนักทุกวันที่กรุงเทพฯ จีนอล วัย 17 ปี และ รุ่งฤทธิ์ วัย 11 ปี ก็คร่ำเคร่งกับการเรียนในบ้านเกิดจังหวัดอุบลราชธานี ที่ทุกคนเติบโตมาด้วยกัน
ในวัยเด็กสามพี่น้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในภาคอีสานของไทย กระทั่งเพชรดำตัดสินใจเข้ามาเสี่ยงโชคในเมืองหลวงตั้งแต่สมัยวัยรุ่นเพื่อฝึกมวยในค่ายมวยชั้นนำของประเทศอย่างเพชรยินดีอะคาเดมี
การทิ้งหลายอย่างไว้เบื้องหลังเพื่อมาใช้ชีวิตเพียงลำพัง เป็นอะไรที่ทำใจได้ยาก
“ตอนแรกผมก็ไม่คิดนะว่าจะคิดถึงครอบครัว เพราะเราไม่เคยห่างกัน จนกระทั่งเข้ามาอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้สักระยะ ก็เริ่มรู้ตัวว่าคิดถึงพวกเขามากแค่ไหน”
“พวกเราโตมาด้วยกัน ยิงนกตกปลาตามวิถีเด็กบ้านนอก พวกเราสนุกกันมาก”
ความสัมพันธ์ระหว่างเพชรดำและน้องๆ ไม่ได้มีแค่การวิ่งเล่นไปวันๆ เขายังทำหน้าที่ช่วยพ่อแม่ดูแลและนำทางให้น้องๆ เดินทางที่ถูกต้อง
ในขณะที่ออกล่าความฝันในกีฬามวยไทย เพชรดำต้องการความแน่ใจว่า น้องๆ ของเขาจะได้รับโอกาสที่ตัวเองไม่เคยได้
“ผมเคยช่วยพวกเขาทำการบ้าน และพาไปส่งที่โรงเรียนทุกวันเลย”
“เราสามคนนั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ของที่บ้านไปโรงเรียนด้วยกัน ผมขี่ไปส่งน้องๆ ที่โรงเรียนประถมก่อน แล้วค่อยไปโรงเรียนมัธยมที่ผมเรียนอยู่”
แม้เพชรดำจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางนักสู้ตั้งแต่อายุยังน้อย และทั้งจีนอลกับรุ่งฤทธิ์ก็ต่างชื่นชมในความสำเร็จนั้น แต่พี่ชายคนโตอย่างเพชรดำไม่ต้องการให้น้องๆ เดินตามรอยการเป็นนักมวยแต่อย่างใด
เขารู้สึกปลาบปลื้มดีใจกับโอกาสดีๆ มากมายที่ได้รับจากศิลปะการต่อสู้ แต่ก็ไม่อยากให้น้องๆ ต้องเสียสละชีวิตทุกอย่างเพื่อตรากตรำกับการฝึกซ้อมอย่างหนัก และเสี่ยงกับความบาดเจ็บแบบที่เขาต้องเจอ
“ผมอยากให้น้องๆ เรียนสูงที่สุด ไม่อยากให้พวกเขาลำบาก”
“ผมไม่มีโอกาสได้เรียนสูงกว่านี้ เพราะพ่อแม่ไม่มีเงินส่งเสีย แต่การที่ผมได้เป็นนักมวย ทำให้สามารถส่งเสียน้องๆ เรียนได้ ผมอยากให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการศึกษา”
“ถึงจีนอลจะเคยขึ้นชกแถวบ้านมาก่อน แต่ผมก็ไม่อยากให้ทั้งคู่เป็นนักมวย ไม่อยากให้พวกเขาเจ็บตัว เพราะชีวิตการเป็นนักมวยมันไม่ได้สบายนักหรอกครับ”
“ผมอยากให้พวกเขาจบปริญญาเพื่อจะได้มีงานดีๆ ทำ นี่คือเหตุผลสำคัญที่ผมอยากเห็นน้องๆ เรียนให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
แม้เจ้าของฉายา “The Baby Shark” จะทำได้เพียงการสนับสนุน้องชายจากถิ่นที่ห่างไกล แต่เขาก็พยายามหาเวลาโทรสอบถามสารทุกข์สุขดิบกันอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังกลับบ้านไปเยี่ยมเยียนครอบครัวตามโอกาสเอื้ออำนวย ไม่มีอะไรจะสุขเท่ากับการได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน
แม้ทุกวันนี้เพชรดำจะเป็นแชมป์โลกของเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และกำลังจะเป็นคู่เอกในศึก ONE: DREAMS OF GOLD ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคมนี้ แต่เขายังคงมีความสุขทุกเรื่องที่ได้ทำเพื่อครอบครัว
“ผมโทรหาที่บ้าน บอกน้องๆ ให้เชื่อฟังพ่อแม่ อย่าทำให้พ่อแม่ผิดหวัง ย้ำให้พวกเขาเต็มที่กับการเรียน เดินหน้าไปให้สุด”
“เมื่อผมกลับบ้าน ผมจะเอาใจน้องๆ เต็มที่ พาพวกเขาไปกินข้าวนอกบ้าน หรือท่องเที่ยวแถวบ้าน บางทีก็แค่นอนเล่นมือถือที่บ้านด้วยกัน ก็มีความสุขแล้ว”
เพชรดำภาคภูมิใจกับความสำเร็จใน ONE ซึ่งทำให้เขาสามารถมอบชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับครอบครัว และชัยชนะเหนือ เอ็นนาฮาชิ ในการป้องกันตำแหน่งครั้งแรกซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะช่วยให้ครอบครัวของเขามีอนาคตที่มั่นคงยิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่ดาวดังนักสู้ชาวไทยต้องการเหนืออื่นใดคือการได้น้องๆ เติบโตเป็นคนดีของสังคม
“อันที่จริงผมไม่ได้ตั้งเป้าหมายชีวิตอะไรให้พวกเขา ขอแค่เป็นคนดีก็พอแล้ว”
“ตอนนี้ผมอยากให้พวกเขาห่างไกลจากเหล้ายา และตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ในอนาคตก็หวังว่าพวกเขาจะมีการงานที่ดี มีรายได้ที่มั่นคงครับ”