รื้อเข็มขัด “ยอดแสนไกล” 27 ปีบนเส้นทางหมัดมวยที่ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ
ในหน้าประวัติศาสตร์ประเทศไทย มีนักชกไทยเพียงไม่กี่คนที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “ยอดแสนไกล ไอเว แฟร์เท็กซ์” นำโด่งมาเป็นอันดับต้นๆ
เจ้าของฉายา “The Boxing Computer” หรือ “เจ้าหนูคอมพิวเตอร์” แม้วันนี้เขาไม่ใช่ ‘เจ้าหนู’ อีกต่อไป แต่ฉายานี้ก็บ่งบอกได้ถึงความอัจฉริยะบนสังเวียนตลอดระยะเวลาร่วม 27 ปี ตั้งแต่เขาก้าวเท้าสู่ถนนนักสู้ในวัยเพียง 8 ขวบ
https://www.instagram.com/p/B7KcKu1B1JJ/
https://www.instagram.com/p/7VXZWLS7Ey/
ยอดแสนไกล เมื่ออายุ 11 ปี
ยอดแสนไกล เกิดที่จังหวัดหนองบัวลำภู ในหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญของภาคอีสาน ชาวบ้านส่วนใหญ่หาเลี้ยงปากท้องด้วยการทำไร่ไถนา และหาอาหารป่ามาเป็นอาหาร
ครอบครัวของเขามีฐานะยากจน ไม่มีแม้แต่มอเตอร์ไซค์คันเล็กๆ ที่จะใช้ในการเดินทางไปไหนมาไหน ยอดแสนไกล จึงหันหน้าไปพึ่งวิชามวยไทย เช่นเดียวกับนักมวยหลายๆ คนในแถบภาคอีสานบ้านเรา เพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว
แชมป์เวทีลุมพินี 2 รุ่น
https://www.instagram.com/p/BDLFxu4y7K5/
การขึ้นชกครั้งแรกเขาพบกับความพ่ายแพ้ แต่แลกมาด้วยค่าตัว 20 บาทซึ่งนำมาซื้อหาอาหารในครอบครัวได้
หลังจากนั้นหลายปีต่อมา ยอดแสนไกล ศิษย์ครูอ๊อด ที่ย้ายมาอยู่สังกัด เพชรยินดี ก็สร้างชื่อในสนามมวยมาตรฐานเมืองกรุง ด้วยการคว้าแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินี รุ่น 112 ป.ได้ในปี 2544 ขณะที่เขามีอายุเพียง 16 ปี และคว้าแชมป์รุ่น 147 ป.ในปี 2548
แชมป์ WBC มวยไทย
https://www.instagram.com/p/BcZkj3VAkcq/
ด้วยหน่วยก้านและฝีมือที่ไปเตะตาค่ายใหญ่เมืองพัทยาอย่าง แฟร์เท็กซ์ ทำให้ ยอดแสนไกล ถูกซื้อตัวเข้าไปอยู่ในสังกัด และผลักดันให้โกอินเตอร์ จนเขาได้มาเจอคู่แข่งแถวหน้าของวงการมวยอย่าง “จอห์น เวย์น พาร์” ซึ่งขณะนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก แม้แต่ในไทยเขาก็เคยเดินทางมาชก
ไฟต์ดังกล่าวจัดขึ้นที่บ้านเกิดของคู่แข่งในประเทศออสเตรเลีย แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับนักชกไทยที่จะคว้าชัยชนะมาได้อย่างสมศักดิ์ศรี หลังจากตีต่อยกันอย่างดุเดือดจนครบ 5 ยก พร้อมขึ้นแท่นแชมป์โลก WBC มวยไทย รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวตคนแรกของสถาบันนี้ และป้องกันแชมป์ได้อีกหลายครั้ง ทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกา
แชมป์ WMC คอนเทนเดอร์ เอเชีย
https://www.instagram.com/p/BTtqd7lAceF/?utm_source=ig_embed
ปี 2551 ยอดแสนไกล ได้ปรากฏตัวในรายการ The Contender Asia ซึ่งเป็นเรียลลิตีโชว์ที่นำยอดมวยไทยจากทุกมุมโลกมาอยู่ร่วมกันและแข่งขันในประเทศสิงคโปร์
นักสู้จากเมืองพัทยาผ่านคู่ชกยอดฝีมือทั้ง บรูซ แม็คฟี, ฌอน ไรต์ และ นฤพล แฟร์เท็กซ์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีม ก่อนทะยานเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ทำให้ต้องเจอกับคู่ปรับเก่าอย่าง จอห์น เวย์น พาร์ อีกครั้ง
ศึกล้างตา 5 ยก นักชกไทยย้ำแค้นนักชกดังชาวออสซีได้เป็นครั้งที่สอง ก่อนก้าวขึ้นเป็นแชมป์ WMC คอนเทนเดอร์ เอเชีย ซีซันแรก และแชมป์ WMC รุ่นมิดเดิลเวต ในเวลาเดียวกัน ซึ่งชัยชนะครั้งนี้สร้างชื่อเสียงในระดับโลกให้กับ ยอดแสนไกล ได้อย่างทันตา
แชมป์ ไลออน ไฟต์
https://www.instagram.com/p/6IUpsNS7Lf/
ยอดแสนไกล เดินทางไกลสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2556 เพื่อท้าชิงแชมป์โลก ไลออน ไฟต์ ซึ่งเป็นรายการใหญ่ของอเมริกา กับเจ้าถิ่นอย่าง “ชิเก ลินด์เซย์” ในรุ่นมิดเดิลเวต
แม้เขาจะเสียเปรียบรูปร่าง แต่ก็สามารถคว้าชัยได้สำเร็จ ก่อนที่จะป้องกันแชมป์ได้อย่างงดงามในปีต่อมา ด้วยการน็อกผู้ท้าชิงชาวอังกฤษ “ซาลาห์ คาลิฟา” อย่างงดงามในยกที่สอง
นอกจากนี้ ยอดแสนไกล ยังคว้าแชมป์ WPMF ได้อีกสองรุ่น รวมถึงผ่านสังเวียนนานาชาติชื่อดังทั้ง K-1, คุนหลุนไฟต์, WLF, MAS จนมาถึง วัน แชมเปียนชิพ ในที่สุด
https://www.instagram.com/p/BcClC21AKE5/
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลงานที่ ยอดแสนไกล สั่งสมมาตลอด 27 ปีบนสังเวียนผืนผ้าใบ จนทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งระดับโลก ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในสังกัด วัน แชมเปียนชิพ ตั้งแต่ปี 2561 โดยเก็บสถิติชนะ 3 และแพ้ 2 ไฟต์หลัง
อย่างไรก็ตามถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องกลับมาเรียกศรัทธา และความมั่นใจให้กับตัวเอง ในศึก ONE: NO SURRENDER ที่กำลังจะถึงในวันที่ 31 ก.ค.นี้ กับการชิงบัลลังก์แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (70.3 กก.) กับ “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี”
อ่านเพิ่มเติม: