“แสงมณี” เสริมทัพศึกวัน แชมเปียนชิพ ประกาศศักดิ์ศรีสังเวียนโลก
นักชกไทยชื่อดังฝีมือดีมากหน้าหลายตา ทยอยตบเท้าเข้าสังกัดองค์กรศิลปะการต่อสู้ยักษ์ใหญ่ระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ ไปเกือบครึ่งค่อนวงการ จึงมีคำถามว่าเหตุใดไม่ปรากฏชื่อ “พงศกร สิทธิเดช” หรือ “เจ้าบอล” ซึ่งคนวงการมวยรู้จักกันดีในนาม “แสงมณี แสงมณีเสถียรมวยไทยยิม” นักชกแถวหน้าตัวท็อปของวงการสักที
มาช้ายังดีกว่าไม่มา ล่าสุดชื่อของ “แสงมณี” ได้เตรียมเข้าไปอยู่ในลิสต์นักชกรุ่นแบนตัมเวตของรายการ วัน แชมเปียนชิพ หลังจากที่เจ้าตัวตัดสินใจเข้าร่วมงานกับรายการดังระดับโลก เพื่อหวังอนาคตที่สดใสในตลาดสากล
เจ้าของฉายา “ทารกเงินล้าน” หรือที่ชาวต่างชาติเรียกว่า “The Million Dollar Baby” วัย 22 ปี พื้นเพชาวอำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ได้ฉายานี้จากการเป็นนักมวยอัจฉริยะ มีเงินเก็บหลักล้านตั้งแต่อายุเพียง 10 ขวบ
จากมวยเด็กค่าตัว 200 บาทที่หามาได้จากการชกมวยครั้งแรกเมื่ออายุ 6 ปี เพียงเพื่อหวังแบ่งเบาภาระครอบครัวที่ยากจน เติบโตภายใต้พรสวรรค์ทางสายเลือดจากพ่อ ผู้เป็นอดีตนักมวยไทย “นายหนูกัน สิทธิเดช” บวกกับพรแสวงที่ผู้เป็นพ่อพยายามขับเคี่ยวลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้ทุกวิถีทาง
เข้าทำนอง “เก่งเลือกได้” แสงมณี เป็นนายตัวเอง เป็นเจ้าของค่ายมวย “แสงมณีเสถียรมวยไทยยิม” ซึ่งตั้งอยู่ท้ายซอยรามคำแหง 52 แต่กว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ ต้องยอมรับว่าแม้วัยเพียง 22 ปี แต่เขาผ่านอะไรมามากมายในวงการมวยไทย ทำให้ผู้เป็นพ่อ “นายหนูกัน” ที่ยอมรับว่าตนเรียนหนังสือมาน้อย ก้าวเข้ามาทำหน้าที่กำกับดูแลและปกป้องผลประโยชน์ แสงมณี จึงเป็นนักมวยเพียงไม่กี่คน (หรือแทบจะนับคนได้) ในประเทศนี้ ที่สามารถชกต่างศึกต่างสายได้ด้วยการตัดสินใจของตัวเอง
วันนี้ “ทารกเงินล้าน” เจ้าของแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินีและราชดำเนินรวม 4 รุ่น และนักมวยถ้วยพระราชทานฯ ปี 2555 ซึ่งคว้ามาได้ด้วยวัยเพียง 15 ปีในขณะนั้น ถือเป็นนักชกผู้มีไอคิวบนสังเวียนสูงสุดคนหนึ่งของประเทศ ไต่ค่าตัวจาก 200 บาทสู่ 250,000 บาทต่อไฟต์ในปัจจุบัน ซึ่งยังไม่รวมถึงค่าตัวจากการชกต่างประเทศที่เคยได้รับมากกว่านี้
การตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับ วัน แชมเปียนชิพ จึงเป็นการพลิกชีวิตครั้งใหญ่ แม้จะเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่กับองค์กรระดับโลกแห่งนี้ แต่มันก็คุ้มค่ากับการได้มีโอกาสพิสูจน์ฝีมือ และศักยภาพของตนเองในระดับสากล
“The Million Dollar Baby” แสงมณี แสงมณีเสถียรมวยไทยยิม นักชกฝีมือขั้นเทพผู้ไม่เอาเปรียบคนดู จะทุ่มสุดตัวให้สมกับโอกาสที่เขาได้รับ เพื่อตอกย้ำให้ผู้ชม 140 ประเทศทั่วโลกที่ติดตามรายการ วัน แชมเปียนชิพ ได้รู้ว่า “ไทยแลนด์” ยืนหนึ่งเรื่องหมัดมวย
เขาผู้นี้จะสร้างความตื่นเต้นเร้าใจบนสังเวียนผืนผ้าใบระดับโลก และสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศในฐานะตัวแทนจากดินแดนขวานทอง ซึ่งเชื่อว่าไม่นานเกินรอ แฟนๆ จะได้เห็นการปรากฏตัวของเขาบนเวที วัน แชมเปียนชิพ ในเร็ววันนี้!