“โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” ชี้ทางสว่าง เป็นแบบอย่างเยาวชน
นักชกหนุ่มจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ “The General” โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี หลายคนอาจมองว่าเขามาจากเมืองผู้ดี จนลืมที่จะมองให้ลึกว่าย่านที่เขาเติบโตมานั้น มันก็พอๆ กับสลัมบ้านเรา ไม่ใช่เมืองสวยงามอย่างที่เคยเห็นในสื่อท่องเที่ยวต่างๆ
แฮ็กเกอร์ตี ข้ามผ่านการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในบ้านเกิด เขาใช้มันเป็นแรงผลักดันทำให้เติบโตมาเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว รู้จักเอาตัวรอดในสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย และดูแลตัวเองได้ด้วยการใช้ศิลปะการต่อสู้ ซึ่งภายหลังเขายึดมาเป็นอาชีพ และสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง รวมถึงเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนในบ้านเกิด
“ละแวกที่ผมเติบโตเป็นย่านของชนชั้นแรงงาน มีผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติอยู่ที่นั่น อาจจะเป็นย่านที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ทุกคนก็รู้จักกันหมด”
“ผมทำทุกอย่างที่เด็กๆ ทั่วไปทำกัน บางครั้งอาจจะเล่นอะไรซนๆ แผลงๆ บ้าง แต่ปกติเราก็จะออกไปเล่นฟุตบอลข้างนอกเมื่อมีเวลาว่างครับ”
“สมัยผมยังเด็กกว่านี้ ก็ยังพอออกไปเล่นอะไรข้างนอกหรือจะทำอะไรก็ได้ แต่สมัยนี้มันอันตรายขึ้นทุกวัน”
“ผมมองว่าเด็กๆ เขาก็ทำตามเทรนด์ ซึ่งโซเชียลมีเดียก็เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง บางครั้งเขาก็อยากเลียนแบบคนที่ไม่สมควรเลียนแบบ”
- เมื่อศิลปะการต่อสู้เปลี่ยน “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” มีชีวิตบนเส้นทางที่ถูกต้อง
- “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” มีเซอร์ไพรส์ให้ “รถถัง” วันทวงบัลลังก์โลก
- “รถถัง” ไม่ลืมตัว ชีวิตนี้ไม่รู้จักคำว่าอีโก้
แฮ็กเกอร์ตี ได้เคยเดินผ่านหลุมดำมาก่อน และได้พิสูจน์ตัวเองว่า ถ้ามีความตั้งใจและทุ่มเทตัวเองที่จะหลุดพ้นจากสิ่งชั่วร้าย ชีวิตก็จะดีขึ้นได้ ดังเช่นที่ตัวเขาเองเคยทำมาแล้ว
“ผมเคยผ่านประสบการณ์เลวร้ายมาด้วยตัวเอง ตอนนี้หลายคนสามารถมองมาที่ผม และผมก็ยินดีจะเล่าในสิ่งที่ผมเคยเจอมา และสิ่งที่ผมเคยข้ามผ่านให้ฟัง ผมคิดว่าเรื่องนี้มันสำคัญนะกับการที่จะค้นพบเรื่องราวของตัวเอง หรือสามารถแชร์ให้คนอื่นฟังได้”
ชะตาชีวิตของหนุ่มวัย 22 ปีผู้นี้เปลี่ยนไปตลอดกาล ตั้งแต่ที่เขาเลือกเดินตามพ่อสู่การเป็นนักศิลปะการต่อสู้ ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่า คุณค่าในกีฬานี้ที่จะถูกถ่ายทอดสู่คนรุ่นใหม่ ซึ่งจะทำให้พวกเขาได้เดินทางที่ถูกที่ควร
ไม่เพียงเท่านั้น โรงยิมยังเปรียบเสมือนศูนย์พักพิงของชุมชน เป็นสถานที่ซึ่งทุกคนได้เข้ามา และเดินหน้าไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่และดีกว่าด้วยกัน
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เส้นทางง่ายๆ เพราะการประสบความสำเร็จในกีฬาศิลปะการต่อสู้นั้น ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักและเสียสละอย่างยิ่งใหญ่ ยิ่ง ซึ่ง แฮ็กเกอร์ตี หวังว่า เรื่องราวของเขาจะช่วยเป็นแรงผลักดันให้กับรุ่นน้องได้อีกมากมาย
“ผมรู้นะว่าบางครั้งเด็กๆ ก็ไม่อยากเข้าโรงยิมหรอก แต่คุณก็ต้องคอยผลักดันพวกเขา ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและสบายใจที่จะเข้ามา”
“การจะประสบความสำเร็จบนทางสายนี้ได้ คุณก็ต้องซ้อม เข้ามาที่โรงยิมแบบที่ผมทำ มีความทะเยอทะยาน และเป็นต้นแบบที่ดีให้เห็น แล้วพวกเขาก็จะตามมาเอง”
ชุมชนคือสิ่งสำคัญสำหรับยิมของครอบครัวอย่าง Team Underground และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมถึงเจอ แฮ็กเกอร์ตี ในโรงยิมทุกคืน เขาเป็นต้นแบบให้กับเด็กวัยรุ่นในท้องถิ่น และเติมเชื้อไฟให้พวกเขาได้เห็นว่า ศิลปะการต่อสู้สามารถนำมาซึ่งความสำเร็จได้จริง
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบนโลกภายนอก แต่เด็กๆ ที่ได้ฝึกซ้อมในโรงยิมแห่งนี้สามารถมั่นใจไว้ว่า พวกเขาจะเดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง และเป็นเส้นทางที่ใช้ได้เสมอไม่ว่าจะเป็นที่ไหน
“แค่ก้าวเท้าเข้ามาและตั้งใจมุ่งมั่น แล้วเราจะแสดงให้คุณเห็นถึงเส้นทางที่ถูกต้องเอง”
“ศิลปะการต่อสู้ มันช่วยให้ชีวิตของคุณเปลี่ยนได้จริงๆ ขอเพียงคุณยึดมั่น และทุ่มเทให้มันอย่างมั่นคง”
อ่านเพิ่มเติม: “แสงมณี” คือไอดอลวัยรุ่นนักบริหารทั้งการเรียนและทำงาน
ONE: A NEW TOMORROW | อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี | 10 มกราคม 2563 | 17.30 น. ตามเวลาไทย | ซื้อบัตรเข้าชม: ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ | ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ออกอากาศเวลา 22.30 น.