10 น็อกเอาต์ “หมัดเดียวจอด” แจ่มที่สุดในประวัติศาสต์ของ วัน แชมเปียนชิพ
ในประวัติศาสตร์การแข่งขันของ วัน แชมเปียนชิพ มีการน็อกเอาต์เกิดขึ้นนับร้อยๆ ครั้ง แต่การน็อกเอาต์ที่แจ่มที่สุดซึ่งแฟนๆ ให้ความสนใจและสร้างยอดชมคลิปวิดีโอชนิดถล่มทลาย คงหนีไม่พ้นการน็อกเอาต์แบบ “หมัดเดียวจอด”
และเพื่อโชว์ให้เห็นกันจะจะอีกครั้ง เราจึงคัด 10 น็อกเอาต์ “หมัดเดียวจอด” ที่แจ่มที่สุดในประวัติศาสตร์ของ วัน แชมเปียนชิพ รวบรวมมาให้ชมกันที่นี่
#10 หาน ซือ หาว VS ไรอัน จากิรี
เมื่อการแข่งขัน วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ (หมายถึง การแข่งขันในกติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง) เปิดฉากขึ้นในปี 2561 และนักกีฬาผู้มีศิลปะแม่ไม้มวยไทยได้มีโอกาสสวมนวมเล็กแบบเปิดนิ้วที่ใช้ในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) แทนนวมปกติ มันจึงยากจะหลีกเลี่ยงที่จะเกิดการเผด็จศึกอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกับนักสู้ที่มีหมัดทรงพลังมหาศาลจากแดนมังกรอย่าง “หาน ซือ หาว
นักชกหนุ่มวัย 24 ปี ปิดฉากคู่แข่งขันชาวฟิลิปปินส์ “The Filipino Assassin” ไรอัน จากิรี ในศึก ONE: PURSUIT OF GREATNESS ชนิดหมัดเดียวจอดอย่างหมดจดและงดงาม เมื่อนักสู้ฟิลิปปินส์เผยช่องโหว่ที่ปลายคาง เพื่อตอบโต้ลูกเตะของ หาน ด้วยฮุกซ้าย จึงนำไปสู่ความหายนะครั้งใหญ่ เมื่อ หาน อาศัยจังหวะนั้นฟาดหมัดซ้ายเข้าอย่างจัง ทำเอา ไรอัน ถึงกับล้มทั้งยืน
#9 ชนนภัทร วิรัชชัย VS ราฮูล ราจู
“ครูตอง” ชนนภัทร วิรัชชัย ใช้ความสุขุม แม่นยำ และพลังหมัดน็อกเอาต์ ปิดเกมอย่างสวยงาม เมื่อครั้งเผชิญหน้ากับ “The Keraka Krusher” ราฮูล ราจู ในศึก ONE: IRON WILL
ขณะที่นักสู้อินเดียปรี่เข้าใส่ ครูตอง พยายามแก้ลำด้วยฮุกขวาเพื่อไม่ให้เขาเข้ามาใกล้ แต่มันไม่อาจจะหยุด ราฮูล ได้ซะทีเดียว จนกระทั่งจังหวะที่ฮุกขวากระแทกเข้าหน้าอย่างจัง คู่ต่อสู้ ครูตอง หน้าคะมำลงไปนอนกับพื้นด้วยเวลาเพียง 21 วินาที
#8 จอร์จิโอ เปโตรเซียน VS โจ ณัฐวุฒิ
“จอร์จิโอ เปโตรเซียน” กับสมญา “The Doctor” คุณหมอมือผ่าผู้แม่นยำราวกับการกรีดมีดลงแผลผ่าตัด แสดงให้เห็นว่าฉายานี้ไม่ได้มาแบบเท่ๆ เมื่อเขาใช้ความแม่นยำและสายตาอันรวดเร็วฝ่าการ์ดอันเหนียวแน่นของ “Smokin” โจ ณัฐวุฒิ ก่อนสอยเข้าที่ปลายคาง ในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต ซึ่งจัดขึ้นในศึก ONE: DREAMS OF GOLD
โจ ณัฐวุฒิ โยกตัวมาข้างหน้า แต่คิกบ็อกเซอร์ตัวพ่อชาวอิตาเลียนปล่อยหมัดขวานำ และตามด้วยหมัดซ้ายทะลุกำแพงการ์ดเข้าไปโดนเต็มๆ แม้นักชกไทยจะพยายามลุกขึ้นมา แต่ก็ต้องเจออาการโงหัวไม่ขึ้น ทำให้กรรมการตัดสินใจยุติการแข่งขันในยกแรกนั่นเอง
#7 อเล็น เอ็นกาลานี VS ฮิเดกิ เซกิเนะ
นับเป็นการปิดฉากที่เร็วที่สุดในการจัดอันดับนี้ เมื่อ “Shrek” ฮิเดกิ เซกิเนะ ตัดสินใจไม่ฉลาดเท่าไหร่ที่บุกเข้าหา “The Panther” อเล็น เอ็นกาลานี อย่างไม่กลัวตายในศึก ONE: TOTAL VICTORY
นักสู้ชาวแคเมอรูนเจ้าของแชมป์โลกมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งหลบหลีกอันตรายที่กำลังพุ่งเข้ามาหา และส่งหมัดฮุกขวาเข้าไปน็อก ฮิเดกิ ภายในเวลาเพียง 10 วินาทีเท่านั้น แล้วอย่างนี้ใครจะทำลายสถิติน็อกเอาต์ที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์รุ่นเฮฟวีเวตของ วัน แชมเปียนชิพ ได้ละเนี่ย
#6 น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว VS เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์
“เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์“ นักชกรุ่นน้องผู้หมายปองเข็มขัดแชมป์โลกจากรุ่นพี่ แม้จะสามารถประคองตัวรอดพ้นจากอาวุธหนักๆ ของ “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” ในสองยกแรกของการแข่งขันศึก ONE: EDGE OF GREATNESS แถมเริ่มจับทางได้ในยกที่สาม
อย่างไรก็ตาม น้องโอ๋ เพียงแต่รอคอยโอกาสที่เหมาะสม ด้วยการใช้ “หมัดลักไก่” ในยกที่สี่ ขณะที่ เสมาเพชร เกิดอาการลังเลชั่วครู่ หมัดที่เร็วจนมองไม่ทันก็ปะทะเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง ส่ง เสมาเพชร ลงไปนอนหงายเก๋งที่พื้นเวที
#5 โฮโนริโอ บานาริโอ VS ยาโรสลาฟ ยาร์จิม
อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวต “The Rock” โฮโนริโอ บานาริโอ พิสูจน์ตนเองว่าเขายังคงแกร่งเต็มร้อย แม้จะย้ายมาอยู่ในรุ่นไลต์เวตเพื่อสร้างความหฤหรรษ์ให้กับแฟนๆ ในบ้านแห่งศิลปะการต่อสู้ กับศึก ONE: KINGS OF DESTINY
ดูเหมือนในจังหวะที่ “ยาโรสลาฟ ยาร์จิม” ถูกอัดกระแทกเข้าลำตัวคงไม่เจ็บเท่าไหร่ แต่จังหวะต่อมาที่ถูกหมัดกระแทกเข้าที่ขากรรไกรจนหน้าสั่น วินาทีเขาหงายผึ่งถึงกับหมดสติไปชั่วครู่ทีเดียว
#4 แบรนดอน เวรา VS มาวโร เซริลลี
เมื่อ “The Hammer” มาวโร เซริลลี พยายามกระชากตำแหน่งแชมป์โลก ONE รุ่นเฮฟวีเวต จาก “The Truth” แบรนดอน เวรา ในศึก ONE: CONQUEST OF CHAMPIONS ด้วยการบุกเข้าไปให้ถึงตัว แต่ผลลัพธ์กลับผิดคาด เมื่อคู่อีกฝ่ายจ่ายคืนเป็นสองเท่า
พลังหมัดฮุกซ้ายของนักสู้รุ่นเฮฟวีเวตซึ่งมีน้ำหนักนับ 100 กก. ส่งตรงกระแทกเข้าที่คางของนักสู้ชาวอิตาลีที่ปรี่เข้ามาอย่างรวดเร็ว ทำให้พลังหมัดเพิ่มอานุภาพขึ้นทันที เรียกเสียงเชียร์จากเพื่อนร่วมชาติกระหึ่มลั่นสนาม
#3 โจชัว พาซิโอ VS รอย โดลิเกวซ
“The Passion” โจชัว พาซิโอ รู้ดีว่าการเอาชนะในเกมแลกหมัดกับอดีตนักมวยสากลอาชีพอย่าง “The Dominator” รอย โดลิเกวซ คงไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นเขาจึงหันมาใช้วิธีที่คาดไม่ถึงในการเล่นงานคู่ต่อสู้แทน
นักสู้หนุ่มชาวฟิลิปปินส์ทำทีแกล้งเตะหลอก เป็นการเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายสืบเท้าไปข้างหน้า ก่อนที่เขาจะหมุนตัวฟาดหลังมือเข้าที่หน้าอีกฝ่ายเสียงดังโครม ส่งนักสู้รุ่นพี่ลงไปแน่นิ่งกับพื้นอย่างเหนือความคาดหมาย ในยกที่สองของศึก ONE: LEGENDS OF THE WORLD
#2 มาร์ติน เหงียน VS เอดูอาร์ด โฟลายัง
หักปากกาเซียนในคืนเดียวกับการน็อกเอาต์ของ โจชัว พาซิโอ ที่กล่าวถึงด้านบน โดยคนส่วนใหญ่คาดว่าการน็อกเอาต์จะมาจากฝีมือเจ้าบ้านอย่าง “Landslide” เอดูอาร์ด โฟลายัง แต่มันกลับตรงกันข้าม
เอดูอาร์ด พาร่างกายที่สมบูรณ์ในรุ่นไลต์เวต ขึ้นป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกของตัวเองจาก “The Situ-Asian” มาร์ติน เหงียน ซึ่งเป็นแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวตที่ไต่น้ำหนักขึ้นมาท้าชิงเข็มขัดอีกเส้น นักสู้หน้าหล่อจากออสเตรเลียก็หมัดหนักไม่ใช่เล่น และเฝ้ารอจังหวะเหมาะๆ ที่จะปล่อยหมัดเด็ดที่สุดในชีวิตออกมา
เมื่อ เอดูอาร์ด พยายามจู่โจมด้วยลูกเตะกลับหลัง มาร์ติน เหงียน ที่จ้องอยู่แล้ว ก็โต้คืนด้วยหมัดโอเวอร์แฮนด์ขวาปิดฉากอย่างรวดเร็ว สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะแชมป์โลก ONE สองรุ่นน้ำหนักทันที
#1 ออง ลา เอ็น ซาง VS เคน ฮาเซงาวา
สงครามชิงแชมป์โลกดุเดือดที่สุดในประวัติศาสตร์ของบ้านแห่งศิลปะการต่อสู้ เกิดขึ้นเมื่อ “The Burmese Python” ออง ลา เอ็น ซาง ขึ้นสังเวียนบ้านเกิดเพื่อเผชิญหน้ากับ “เคน ฮาเซงาวา” ก่อนจะปิดฉากลงพร้อมกับได้รับการยกย่องให้เป็น “ไฟต์แห่งปี 2018″ และ น็อกเอาต์แห่งปี 2018”
ทั้งคู่ต่างหมดแรงหลังจากห้ำหั่นกันมาถึงยกที่ 5 กระทั่ง ออง ลา เอ็น ซาง ได้รวมกำลังเฮือกสุดท้ายปล่อยอัปเปอร์คัตขวาเพื่อหยุดยั้งคู่ต่อสู้ที่กำลังสะบักสะบอมไม่แพ้กัน
เมื่อร่างของ ฮาเซงาวา ร่วงลงอย่างกับหุ่นเชิดที่เชือกขาด ทำให้แฟนๆ ชาวพม่าส่งเสียงเฮลั่นด้วยความดีใจที่ฮีโร่ของพวกเขาได้รับชัยชนะอย่างยิ่งใหญ่ ในศึก ONE: SPIRIT OF A WARRIOR
อ่านเพิ่มเติม:
- 10 ศิลปะการต่อสู้ที่นักกีฬานำเทคนิคมาใช้บนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ
- เปิดสถิติ 5 อันดับน็อกเอาต์สูงสุดใน วัน แชมเปียนชิพ
- Top 10 น็อกเอาต์แห่งปี 2019 ใน ONE Super Series
- WFH Wednesday: มวยหดไม่อดตาย “กุหลาบดำ” ผันตัวขายก๋วยเตี๋ยวยังชีพ
- Woman Crush Wednesday: 3 เหตุผลที่ทำให้ “เจเน็ต ท็อดด์” เป็นไอดอลของผู้หญิงทั่วโลก