5 สิ่งที่ได้รู้จากการแข่งขัน ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต

Reece McLaren narrowly evades Danny Kingad's high kick attempt at ONE: DAWN OF HEROES in Manila.

ศึก ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต ผ่านไปแล้วทั้งหมด 6 ไฟต์ในปี 2019 โดยทุกครั้งเต็มไปด้วยความเข้มข้นอย่างถึงขีดสุดในการดวลฝีมือของเหล่านักกีฬาที่มีความหลากหลายในการต่อสู้

ทัวร์นาเมนต์นี้ใกล้ที่จะได้บทสรุปแล้วในวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2019 โดย “Mighty Mouse” ดิมิเทรียส จอห์นสัน จะขึ้นชิงดำกับ “The King” แดนนี คิงกาด ในฐานะคู่รองของศึก ONE: CENTURY PART I 

และก่อนที่ทั้งคู่จะปะทะเดือดในรอบชิงชนะเลิศ ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต ที่สนามเรียวโงกุ โกกุงิกัง กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เราได้รวบรวม 5 สิ่งที่ได้รู้จากการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้

 

#1 DJ ไม่ได้เหนือกว่าคู่แข่งเสมอไป

ไม่มีงานง่ายอีกต่อไปเมื่อ “ดิมิเทรียส จอห์นสัน” ตัดสินใจตบเท้าเข้าแข่งขันใน ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ เมื่อเดือนมีนาคม

รอบก่อนรองชนะเลิศ นักสู้ชาวอเมริกันพบกับ “Little Piranha” ยูยะ วากามัตสึ ที่มีการจู่โจมรวดเร็ว และการออกอาวุธอันตรายเหนือความคาดหมาย โดย วากามัตสึ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ด้วยการเอาตัวรอดจากการปล้ำ และต่อกรกับ DJ ได้ยาวนานอย่างที่ไม่มีใครคาดคิด

อย่างไรก็ตาม จอห์นสัน ยังคงเก๋าพอที่จะเอาชนะ วากามัตสึ และทะลุด่านเข้าไปพบกับนักสู้จากญี่ปุ่นผู้มีความสามารถรอบด้านอย่าง “The Sweeper” ทัตสึมิตสึ วาดะ ในรอบรองชนะเลิศ

แม้ว่าเกือบทั้งยกแรกแชมป์โลก DEEP ฟลายเวต จะเป็นฝ่ายทำได้ดีกว่า และสร้างปัญหาให้ จอห์นสัน อย่างหนัก รวมถึงการนอนสู้บนพื้นกับ DJ ก็ทำได้อย่างเข้มข้น แต่ด้วยทักษะและประสบการณ์ ทำให้ “Mighty Mouse” คว้าชัยได้ด้วยคะแนนเป็นเอกฉันท์

แฟนๆ จากฝั่งตะวันตกอาจคิดว่า นักสู้ชาวอเมริกันวัย 33 ปีจะมีเส้นทางที่ราบรื่นในบ้านหลังใหม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ประสบการณ์บนสังเวียนอันแสนยาวนานทำให้ DJ ถูกคาดหวังสูง ซึ่งนี่คือหนึ่งในความท้าทายชิ้นโตที่เขาจะต้องก้าวผ่านให้ได้ เพราะในอนาคตอันใกล้เขาจะขึ้นสังเวียนกับคู่แข่งขันแกร่งที่สุดคนหนึ่งซึ่งกำลังรออยู่

 

#2 คิงกาด มีความตั้งใจที่แน่วแน่

“The King” ต้องต่อสู้และฟาดฟันกับคู่แข่งอย่างยากเย็น กว่าที่จะทะลุมาถึงรอบชิงดำของทัวร์นาเมนต์

รอบก่อนรองชนะเลิศ คิงกาด พบกับ “เซนโซ อิเคดะ” แต่เขาสามารถควบคุมความกดดันและเอาตัวรอดจากการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ ก่อนโต้กลับเร็วและทำคะแนนจนคว้าชัยมาครองได้สำเร็จ

เมื่อดาวดังชาวฟิลิปปินส์ ต้องเผชิญหน้ากับ “Lightning” รีซ แม็คลาเรน บนสังเวียนในบ้านในนัดต่อมา เจ้าตัวกลับตื่นเวทีและต้องรับมือกับความกดดันกับความคาดหวังของแฟนๆ ในสนาม โดยเขาโดนคู่แข่งชาวออสเตรเลียจับกดลงพื้นตั้งแต่นาทีแรก คิงกาด ใช้พลังอย่างมากดิ้นให้หลุด แต่กลับพบสถานการณ์อันตรายมากขึ้น

อย่างไรก็ตามในสองยกที่เหลือ แชมป์วูซูระดับประเทศวัย 23 ปีปรับเกมการสู้และทำได้ดีกว่า โดย คิงกาด กระหน่ำโจมตีสุดพลัง รวมถึงความพยายามในการทำซับมิชชัน และเมื่อระฆังสุดท้ายดังขึ้น ผลการตัดสินกรรมการ 2 ใน 3 ให้ฝ่ายนักสู้เจ้าบ้านชนะคะแนน และผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย

หากนักสู้จาก Team Lakay ต้องตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายกับ จอห์นสัน ที่โตเกียว เชื่อว่าแฟนๆ พอจะคาดเดาได้ว่า เขาจะมีพละกำลังและความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนเกมและพลิกเอาชนะไฟต์นี้ให้ได้

 

#3 จอห์นสัน มีคลังอาวุธในการแก้ปัญหา

จอห์นสัน เป็นนักสู้ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากในการแข่งขัน ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ เมื่อพกสถิติครองแชมป์โลกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน รุ่นฟลายเวต ถึง 12 สมัย ซึ่งเขาได้พิสูจน์ความเป็นยอดนักสู้บนสังเวียนมาแล้ว  

แม้ว่า “Mighty Mouse” จะตกเป็นผู้เสียเปรียบ แต่เขายังสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นผู้ชนะได้อย่างยอดเยี่ยม 

จอห์นสัน แสดงให้เห็นความเหนือชั้นในไฟต์ที่พบกับ วากามัตสึ และเผด็จศึกด้วยท่า guillotine choke เช่นเดียวกันกับการพบกับ วาดะ ซึ่งเขาได้เพิ่มความดุดันขึ้นไปอีกขั้น และคว้าชัยชนะแบบเอกฉันท์มาได้ในท้ายที่สุด

นักสู้จากวอชิงตันมีคลังอาวุธและทักษะมากมายในการต่อสู้แบบผสมผสานซึ่งทำให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ รวมถึงความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้บนพื้น หรือการยืนสู้บนสังเวียน 

ไม่ว่า คิงกาด จะมาในรูปแบบใด เขาจะต้องงัดทีเด็ดและจัดเต็มในไฟต์นี้ เพื่อเดิมพันในฐานะนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล 

 

#4 นัดชิงดำที่เต็มไปด้วยความคลาสสิก

ไม่เคยมีช่วงเวลาที่น่าเบื่อแม้แต่นาทีเดียวสำหรับการแข่งขัน ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต จนถึงตอนนี้ในรอบชิงชนะเลิศ ความเข้มข้นและความคลาสสิกของศิลปะการต่อสู้จะไม่ลดลงไปอย่างแน่นอน

หนึ่งในความคลาสสิกคือการพบกันระหว่างเจ้าตำนานของวงการและแชมป์โลกผู้มีประสบการณ์มากมาย กับนักสู้หนุ่มดาวรุ่งมากความสามารถ

จอห์นสัน มีความได้เปรียบทั้งดีกรีและประสบการณ์ เขาอาจปิดจ๊อบนี้ได้อย่างที่หลายคนคาดการณ์ ในขณะที่ คิงกาด ซึ่งผ่านชัยชนะด้วยคะแนนเป็นส่วนใหญ่ แต่เขาคือนักสู้ที่มอบความตื่นเต้นเร้าใจในทุกขณะการแข่งขันตลอดระยะเวลา 15 นาทีบนสังเวียน

วันที่ 13 กันยายนนี้ สองนักสู้จะต้องไล่บี้กันถึง 5 ยก เชื่อว่าแฟนๆ จะได้รับความบันเทิงอันเหลือเชื่อแน่นอน

 

#5 คาดหวังในสิ่งที่เกินความคาดหมาย

ใครก็ตามที่พยายามทำนายผลไฟต์แต่ละไฟต์ของทัวร์นาเมนต์นี้ อาจทำนายพลาดมาแล้วหลายคู่

คนที่คิดว่า จอห์นสัน จะไม่สะดุ้งเมื่อเจอการโจมตีอย่างหนักหน่วงจาก วากามัตสึ พวกเขาพลาดอย่างมหันต์ และคงยอมกลืนน้ำลายตัวเองเมื่อเห็นปัญหามากมายที่ จอห์นสัน ต้องฝ่าฟันในไฟต์ที่เจอกับ วาดะ

หลายคนอาจจะเคยกาชื่อ คิงกาด ออกจากแข่งขันนี้แล้ว ระหว่างการขึ้นสังเวียนสองไฟต์แรก แต่เพียงไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็พลิกเกมการต่อสู้อย่างสิ้นเชิงและเป็นผู้ชนะ  

ทั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะคาดการณ์อย่างไรกับศึกชิงดำนัดประวัติศาสตร์นี้ คุณอาจจะอยากคิดทบทวนอีกทีก็ได้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะมีการพลิกล็อกมากมายในศึกที่ญี่ปุ่นเดือนหน้า  

ตเกียว | 13 ตุลาคม | ONE: CENTURY | TV: ตรวจสอบวัน-เวลาออกอากาศจากสถานีโทรทัศน์ในประเทศ | บัตรเข้าชม: http://bit.ly/onecentury19

ONE: CENTURY คือศึกชิงแชมป์โลกศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งมีแชมป์โลก 28 คนจากหลากหลายศิลปะการต่อสู้ขึ้นเวที ไม่มีองค์กรใดที่เคยจัดอีเวนต์ชิงแชมป์โลกแบบเต็มสเกลถึง 2 ศึกในวันเดียวกันมาก่อนในประวัติศาสตร์

วัน แชมเปียนชิพ เตรียมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยการชิงแชมป์โลกมากมาย รอบชิงชนะเลิศทัวร์นาเมนต์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 3 คู่ และแชมป์โลกปะทะแชมป์โลกอีกมากมาย ในสังเวียน เรียวโงกุ โกกุงิกัง กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 13 ตุลาคมนี้

ดูเพิ่มเติมในหมวด บทความ

1820285
11 Anatoly Malykhin VS Oumar Kane one 169 (33)
06 Rungrawee vs George Jarvis OL85 (2)
06 Parham Gheirati vs George Mouzakitis (32) OL84
OFN13 Marcus Almeida VS Oumar Kane (1)
OL75_03 Shir Cohen VS Francisca Vera (25)
youssef assouik 16 9
Thai champs cover update
OL58 Seksan vs Yutaro Asahi (62)
Jonathan Haggerty vs Felipe Lobo OFN19 (52)
Shadow Mom
Suablack Tor Pran49 vs Craig Coakley OL46 (17)