5 สิ่งที่ได้รู้จากศึก ONE: CENTURY PART II

ก่อนหน้าศึก ONE: CENTURY PART II จะเริ่มขึ้น แฟนๆ หลายคนอาจตั้งคำถามเกี่ยวกับเหล่าฮีโร่ที่จะลงแข่งขันในโปรแกรมที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ครั้งนี้ ว่าใครเจ๋งกว่าใคร

แต่หลังจากผ่านค่ำคืนของวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ทุกคนต่างก็ได้รับคำตอบจากนักสู้ผู้เก่งกาจซึ่งขึ้นแสดงศักยภาพและสร้างผลงานยอดเยี่ยมที่สุดครั้งหนึ่งในอาชีพของพวกเขา

และนี่คือสิ่งที่เราต่างก็ได้สัมผัสกันที่สังเวียนเรียวโงกุ โกกุงิกัง ในวันนั้น

#1 “ออง ลา เอ็น ซาง” คือตัวจริง

ไม่มีใครสงสัยในตัว “The Burmese Python” ออง ลา เอ็น ซาง ในฐานะนักสู้ผู้ไร้ความเกรงกลัวใดๆ หลังจากที่เขาผ่านอะไรมาอย่างโชกโชนตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ฮีโร่ชาวเมียนมาจัดการผู้ที่เข้ามาขวางทางทุกคนในรุ่นมิดเดิลเวต และแม้กระทั่งการก้าวขึ้นไปท้าดวลกับรุ่นใหญ่ในรุ่นไลต์เฮฟวีเวตด้วย

อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังไม่เคยเจอความท้าทายครั้งใดยิ่งใหญ่เท่ากับการปะทะกับแชมป์โลก ONE รุ่นเฮฟวีเวต  “The Truth” แบรนดอน เวรา ซึ่งก้าวขึ้นสังเวียนมาเพื่อไล่ล่าเข็มขัดและพยายามจะน็อกเขาให้ได้ตั้งแต่เสียงระฆังดังขึ้น

ออง ลา ไม่หวาดหวั่น แม้จะเสียเปรียบรูปร่างอย่างเห็นได้ชัด เขาเดินหน้าหาจังหวะเล่นงานคู่ต่อสู้ พร้อมแลกหมัดกันอย่างดุเดือด

นักสู้วัย 34 ปีได้แสดงให้เห็นถึงหัวใจที่แข็งแกร่ง ความกระหาย และทักษะที่มีอย่างมากมายในการปกป้องบัลลังก์ของตัวเอง จนสามารถพิสูจน์ให้ทั่วโลกได้เห็นแล้วว่า คงไม่มีใครหน้าไหนที่จะขึ้นมาช่วงชิงความเป็นหนึ่งในรุ่นนี้ไปจากเขาได้

อ่านเพิ่มเติม: “ออง ลา เอ็น ซาง” เล็งไฟต์ต่อไป ป้องแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวต

#2 ปิดฉากมหากาพย์ภาค 4 เฟอร์นานเดส-เบลิงกอน

แม้ว่าพวกเขาจะเคยดวลกันมาก่อนหน้านี้แล้ว 3 ครั้ง มันก็ยังมีคำถามอยู่ดีว่า “The Flash” บิเบียโน เฟอร์นานเดส กับ “The Silencer” เควิน เบลิงกอน ใครเหนือกว่าใครกันแน่ และใครกันที่คู่ควรต่อการเป็นราชาของรุ่นแบนตัมเวต

เฟอร์นานเดส ได้ปิดฉากคำถามเหล่านั้น ด้วยการมาในฟอร์มอันยอดเยี่ยมที่สุด พร้อมเข้าครองเกมอย่างเหนือชั้นตามแผนการที่วางมาอย่างแยบยล ทำเอาคู่แข่งจากทีม Lakay สยบอยู่กับพื้นและยากที่จะหาทางต่อกรวิชาบราซิลเลียนยิวยิตสูระดับปรมาจารย์ได้ ในที่สุดเขาก็กำราบผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์ภายในสองยก

ชัยชนะ 3 ครั้งที่ เฟอร์นานเดส มีต่อ เบลิงกอน ย่อมตอกย้ำสถานะของเขาในการเป็นแชมป์โลกได้อย่างไร้ข้อกังขาใดๆ แล้ว แต่แน่นอนว่าใน “บ้านแห่งศิลปะการต่อสู้” วัน แชมเปียนชิพ ย่อมมียอดฝีมือที่พร้อมจะขึ้นชิงบัลลังก์ของเขาอยู่ในอนาคต

อ่านเพิ่มเติม:  “บิเบียโน เฟอร์นานเดส” ปิดฉากอริเก่า “เควิน เบลิงกอน” คว้าชัยไร้ข้อกังขา

#3 บูลลาร์ ไปได้สวยในรุ่นเฮฟวีเวต

“Singh” อาร์จาน บูลลาร์ ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่น่าสะพรึงอย่าง “The Hammer” มาวโร เซริลลี ตั้งแต่นัดประเดิมเวที แต่เขาก็ผ่านไฟต์นี้มาได้อย่างสวยงาม

นักสู้ชาวอินเดียใช้หมัดอันทรงพลังในการเล่นงานคู่แข่งของเขา ก่อนที่จะคว้าชัยชนะอย่างเป็นเอกฉันท์ ทั้งที่เขายังไม่มีโอกาสได้โชว์ทักษะมวยปล้ำระดับโลกสักเท่าไหร่เลย

จากสิ่งที่เราได้เห็นบนสังเวียนที่กรุงโตเกียว พอพิสูจน์ได้ว่า บูลลาร์ เป็นหนึ่งที่คู่ควรกับการท้าชิงบัลลังก์เฮฟวีเวตของ “The Truth” แบรนดอน เวรา ซึ่งเขาอาจต้องเสริมความแข็งแกร่งเข้าไปอีกนิด แต่เมื่อบวกกับทักษะการยืนสู้ที่เขาได้เรียนมาจาก อเมริกัน คิกบ็อกซิ่ง อะคาเดมี อันโด่งดัง ก็จะยิ่งทำให้เขามีความอันตรายอยู่ในตัวมากมายทีเดียว

อ่านเพิ่มเติม: “อาร์จาน บูลลาร์” เขามาเพื่อสิ่งที่ “แบรนดอน เวรา” ครองอยู่

#4 เม ยามากูชิ คือตัวแม่จากแดนอาทิตย์อุทัย

ชัยชนะ 4 ไฟต์รวดของ “V.V.” เม ยามากูชิ จัดได้ว่าน่าประทับใจที่สุด จับตั้งแต่การสยบ โจมารี ทอร์เรส, ซับมิชชัน เซเนีย ลักโควา และ ปราบ ลอรา บาลิน ได้อย่างรวดเร็ว

ในศึก ONE: CENTURY PART II นักสู้หญิงเจ้าถิ่นรายนี้เผชิญหน้ากับ “Lady GoGo” เจนนี ฮวง ในเวอร์ชันที่อันตรายกว่าที่เราเคยเห็นกันมา แต่ “V.V.” ก็ยังคงแน่วแน่ในการเล่นเกมภาคพื้น ซึ่งทำให้เธอเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่องเป็นไฟต์ที่ 4

เธอเชื่อว่ามันคงถึงเวลาแล้วที่จะได้ดวลกับราชินีของรุ่นอะตอมเวตอย่าง “Unstoppable” แองเจลา ลี และข่าวดีคือประธานและ CEO ของ วัน แชมเปียนชิพ “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ก็เห็นดีด้วย

#5 ฮีโร่ Shooto ปะทะ Pancrase สมศักดิ์ศรี

เมื่อ 4 แชมป์โลกจาก Shooto ปะทะกับ 4 แชมป์โลกของ Pancrase ถือเป็นโอกาสดีที่สุดเมื่อสององค์กรศิลปะการต่อสู้ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น จับมือกันเพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคีในการร่วมสร้างศึกประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจในครั้งนี้

ทีแรกนั้นดูเหมือนว่าฝั่ง Pancrase จะถือไพ่เหนือกว่า เมื่อ “The Hawk” ทากาซูเกะ คูเมะ และ “Last Samurai” ฮิโรยูกิ เทตซูกะ แสดงทักษะการต่อสู้อันเหนือชั้น ทำแต้มนำคู่ต่อกรฝั่ง Shooto  “Luxor” โคชิ มัตสึโมโตะ และ เฮอร์นานิ เปอร์เปโตร ไปก่อน

จากนั้นก็ถึงทีตีแต้มคืนด้วยฝีมือของ โชโก ซาโตะ และ “The Ninja” โยซูเกะ ซารูตะ ซึ่งทำให้ฝั่ง Shooto ได้เชิดหน้าชูตาขึ้นมาได้  หลังทั้งคู่คว้าชัยด้วยการน็อกเอาต์ “Morcego” ราฟาเอล ซิลวา และ ไดอิชิ คิทากาตะ อย่างราบคาบ

แต่ละไฟต์พิสูจน์ให้เห็นว่า สององค์กรการต่อสู้จากแดนอาทิตย์อุทัยพรั่งพร้อมด้วยศักยภาพในการผลิตนักสู้มากพรสวรรค์ และสามารถต่อยอดบนเวทีระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ ได้ในอนาคต

อ่านเพิ่มเติม:  ด่านต่อไปของผู้ชนะในศึก ONE: CENTURY