5 คำถามเจาะใจ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ถอดบทเรียนชีวิตสู่เป้าหมายใหญ่ในวัยใกล้เบญจเพส
จับเข่าคุยกับนักสู้สาวแกร่งขวัญใจชาวไทย “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ถึงบทเรียนชีวิตบนเส้นทางนักสู้ที่ผ่านมา พร้อมเป้าหมายต่อไปเมื่อเดินทางมาถึงวัยใกล้ครบ 25 ปี ในอีกสองเดือนข้างหน้า
แม้โบราณจะมีความเชื่อเรื่องอาถรรพ์วัยเบญจเพส แต่สำหรับ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” เชื่อว่าวัยครบ 25 ปี จะเป็นปีที่ดีสำหรับเธอ หลังจากที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาโชกโชน ขึ้นสู่จุดสูงสุดและกลับคืนสู่สามัญในหลายครั้งหลายครา
แสตมป์ ใช้กาลเวลาเป็นเครื่องมือช่วยให้เธอเรียนรู้และพัฒนาความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ จนก้าวขึ้นมายืนเป็นนักสู้หญิงแถวหน้าระดับโลกอย่างน่าภูมิใจ วันนี้ แสตมป์ จึงถือโอกาสถอดบทเรียนชีวิตที่ผ่านมาและแง้มถึงเป้าหมายต่อไปทั้งในและนอกสังเวียน
ONE: แสตมป์ ขึ้นสู่จุดสูงสุดในฐานะแชมป์โลก ONE มวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง จากนั้นก็เสียทุกอย่างไป กระทั่งกลับมาประสบความสำเร็จในสายการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ด้วยการครองแชมป์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ แต่ก็ต้องกลับผิดหวังอีกครั้งที่ชิงเข็มเข็ดเส้นหลักไม่สำเร็จในครั้งล่าสุด จากวันนั้นถึงวันนี้ พอจะสรุปบทเรียนอะไรได้บ้าง
แสตมป์: “บทเรียนของหนูมีเยอะมากเลยค่ะ สิ่งสำคัญที่หนูได้เรียนรู้คือการไม่เย่อหยิ่งในตัวเองมากจนเกินไป ไม่คิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่น และการต้องขยันมากกว่าคนอื่นหลายเท่า เพราะต้องคิดไว้เสมอว่ามีคู่แข่งคนอื่นอีกมากมายที่ฝึกหนักกว่าเราเพื่อมาเอาชนะเราให้ได้ เพราะฉะนั้น เราก็ต้องขยันเพื่อรักษามาตรฐานเราให้คงเส้นคงวา และเสมอต้นเสมอปลายในทุกอย่างที่เราทำตั้งแต่เริ่มต้นค่ะ”
ONE: ในฐานะนักกีฬาที่ต้องทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อม เคยคิดบ้างไหมว่าอยากใช้ชีวิตแบบวัยรุ่นคนอื่นบ้าง โดยไม่ต้องแบกรับหน้าที่และความรับผิดชอบหนักขนาดนี้
แสตมป์: “ตอนอายุ 20-21 เคยคิดค่ะว่าทำไมชีวิตถึงไม่เป็นแบบวัยรุ่นคนอื่น ถามตัวเองว่าทำไมถึงต้องเสียสละตัวเองขนาดนั้น ในขณะที่เพื่อนรุ่นเดียวกันได้เที่ยวและไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย
แต่พอผ่านช่วงนั้นมาแล้ว ตอนนี้ หนูไม่ได้ทุกข์ใจหรือรู้สึกว่าชีวิตวัยรุ่นขาดหายไปนะคะ เพราะเราก็ยังมีวันว่าง วันพักผ่อนของเรา แต่จริง ๆ หนูก็ไม่เห็นความจำเป็นต้องไปเที่ยว เพราะส่วนตัวก็ไม่ชอบเที่ยวอยู่แล้วค่ะ สำหรับหนู การเป็นนักกีฬาทำให้หนูโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น หนูว่าการที่เราต้องรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่งในชีวิต มันช่วยให้เราเติบโตขึ้นในทางที่ดีค่ะ”
ONE: คติประจำในการใช้ชีวิตคืออะไร
แสตมป์: “ไม่รู้ว่าเป็นคติหรือเปล่านะคะ แต่จะพูดกับตัวเองเสมอว่า ‘ถ้าผ่านมาถึงวันนี้ได้ ก็ถือว่าตัวเองเก่งมากแล้ว’ คือ สำหรับหนู อดีต เป็นวันที่ง่ายที่สุด เพราะเราผ่านมันมาได้แล้ว ปัจจุบัน คือวันที่สุด ที่เราได้ทำสิ่งที่เราอยากทำและยังมีลมหายใจอยู่ ส่วนอนาคต คือวันที่ยากที่สุด เพราะเราไม่สามารถรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น หนูก็จะทำวันนี้ให้ดีที่สุดค่ะ”
ONE: เป้าหมายที่วางไว้ในวันเกิดอายุครบ 25 ปี คืออะไร
แสตมป์: “หนูวางแผนว่าจะปลูกบ้านของตัวเอง ในสวนทุเรียนของที่บ้านนี่แหละค่ะ ก็อยากจะวางแผนวางโครงคร่าว ๆ ก่อน แล้วก็ค่อยเก็บเงินทยอยสร้าง คือจริง ๆ ก็มีบ้านพ่อแม่และสวนอยู่แล้ว แต่หนูอยากสร้างที่อยู่ของตัวเองให้มั่นคงค่ะ ส่วนเรื่องการแข่งขัน ภายในหนึ่งถึงสองปีนี้ หนูอยากทำฟอร์มให้แกร่งขึ้นกว่าเดิมเพื่อกลับขึ้นไปชิงแชมป์กับ แองเจลา อีกครั้งหนึ่งค่ะ ถ้าไปได้สุดในสาย MMA แล้ว ก็วางแผนจะกลับไปชิงเข็มขัดในกติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่งตามที่ตั้งใจไว้ แต่ก็คงใช้เวลาประมาณ 3 ปีค่ะ”
ONE: ถ้าให้มองย้อนชีวิตเกือบ 25 ปีที่ผ่านมา คิดว่ามีคำไหนที่ใช้นิยามการใช้ชีวิตตามแบบฉบับ แสตมป์ ได้ดีที่สุด
แสตมป์: “หนูว่าน่าจะเป็นคำว่า ‘อดทน’ ค่ะ เพราะหนูใช้คำนี้มาตลอด ไม่รู้ว่าตัวเองจะผ่านมาได้ยังไงถ้าไม่ใช้คำนี้ หนูว่าน่าจะเป็นคำสรุปชีวิตของหนูได้ดีที่สุดค่ะ”
แสตมป์ กำลังจะได้หวนคืนสังเวียน ONE อีกครั้ง เพื่อทำหน้าที่รั้งเก้าอี้ผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งของแรงกิง ONE รุ่นอะตอมเวต จากคู่แข่งฟอร์มแรง “จีฮิน รัดซวน” จากมาเลเซีย ผู้รั้งตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 5 ของแรงกิงรุ่นนี้ ในศึก ONE Fight Night 2: ซง vs แองเจลา III ในวันเสาร์ที่ 1 ต.ค.นี้
โดยถือเป็นอีกไฟต์สำคัญของนักสู้สาวชาวไทย เพราะหากเธอต้องการที่จะสร้างฟอร์มขึ้นไปรีแมตช์ชิงแชมป์อย่างที่ตั้งใจ ก็ต้องคว้าชัยในครั้งนี้เพื่อเกาะตำแหน่งเบอร์หนึ่งไว้ให้ได้
ติดตาม “แสตมป์ vs จีฮิน” ONE Fight Night 2: ซง vs แองเจลา III ถ่ายทอดสดวันเสาร์ที่ 1 ต.ค.65 รับชมทาง
- watch.onefc.com เวลา 07.00 น.
- ยูทูบ ONE Championship เวลา 07.00 น.
- AIS Play (เฉพาะลูกค้า AIS) เวลา 07.00 น.
- ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ชมย้อนหลัง เวลา 22.30 น.
อ่านเพิ่มเติม: