โอกาสแจ้งเกิด “อาคีฟ-อับดุลลา” สองกำปั้นดาวรุ่งจาก ONE ลุมพินี เตรียมเปิดตัวเวทีใหญ่ ONE Fight Night 31

ย้อนดูเส้นทางและผลงานไม่ธรรมดาของ “อาคีฟ กูลูซาดา” และ “อับดุลลา ดายาคาเอฟ” 2 นักชกดาวรุ่งผู้คว้าสัญญา ONE จากเวที ONE ลุมพินี ก่อนควงแขนเปิดตัวบนเวที ONE (ใหญ่) ในศึก ONE Fight Night 31: ก้องธรณี vs น้องโอ๋ II ที่จะถ่ายทอดสดสู่สายตาผู้ชมใน 195 ประเทศทั่วโลก จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 08.00 น. ในวันเสาร์ที่ 3 พ.ค.นี้

ทั้ง “อาคีฟ” และ “อับดุลลา” ต่างถือเป็น 2 ดาวรุ่งฟอร์มแรง ที่ทำผลงานบนเวที ONE ลุมพินี ได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถคว้าสัญญานักกีฬา ONE ฉบับที่ 22 และ 23 มาครองได้ตามลำดับ แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะก้าวเท้าขึ้นสังเวียนช่วงชิงโอกาสแจ้งเกิดบนเวทีระดับโลก วันนี้เราขออาสาพาทุกท่านไปย้อนดูประวัติและผลงานที่ผ่านมาของทั้งคู่ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการชมไฟต์เปิดตัวของพวกเขาบนเวทีใหญ่ในวันเสาร์นี้
เริ่มกันที่ “อาคีฟ กูลูซาดา” นักสู้สปีดจัด วัย 19 ปี จากอาเซอร์ไบจาน เริ่มต้นเส้นทางนักสู้จากการฝึกคาราเต้ ก่อนจะเบนเข็มมาฝึกคิกบ็อกซิ่ง ด้วยแรงสนับสนุนจากคุณพ่อที่เชื่อมั่นว่ากีฬาคิกบ็อกซิ่ง จะเป็นรากฐานสำคัญสู่อนาคตที่มั่นคงของลูกชาย
เมื่ออายุเพียง 13 ปี “อาคีฟ” ได้รับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต ให้เข้ามาร่วมฝึกซ้อมภายใต้การดูแลของ “ชิงกิซ อัลลาซอฟ” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาพัฒนาฝีมืออย่างก้าวกระโดด จนคว้าแชมป์รายการใหญ่ ๆ มาครองได้หลายรายการ ก่อนที่ในช่วงต้นปี 2567 เขาจะตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อเริ่มต้นฝึกมวยไทยอย่างจริงจัง โดยมีเป้าหมายจะเป็นยอดฝีมือทั้งในกติกาคิกบ็อกซิ่งและมวยไทย
หลังย้ายมาเก็บตัวฝึกซ้อมบนแผ่นดินไทยได้ไม่นาน “อาคีฟ” ได้โอกาสเปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี 72 เมื่อเดือน ก.ค.67 และงัดฟอร์มดุ เอาชนะ “ฮารูโตะ ยาซูโมโตะ” ไปได้ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง จากนั้นเพียง 3 เดือน เขาเริ่มได้รับการจับตามอง หลังกลายเป็นนักชกคนแรกบนเวทีแห่งนี้ที่สามารถปิดเกมชนะทีเคโอ “สมิงดำ เอ็นเอฟ.ลูกสวน” นักสู้จอมอึดตั้งแต่ยกแรก ในกติกามวยไทย ก่อนที่ไฟต์ต่อมาเขาจะงัดแม่ไม้มวยไทยท่ายากอย่าง “หิรัญม้วนแผ่นดิน” ออกมาปิดเกมน็อก “ผึ้งหลวง บ้านแรมบ้า” พร้อมคว้าสัญญานักกีฬา ONE ฉบับที่ 22 มาครองอย่างน่าประทับใจ
โดยก้าวแรกบนสังเวียนระดับโลกของ “อาคีฟ” จะต้องพบกับด่านแกร่งอย่าง “ฌอน คลิมาโค” นักสู้ตัวแทนฟิลิปปินส์/สหรัฐอเมริกา ดีกรีแชมป์ Road To ONE สหรัฐอเมริกา ในกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.)
ขณะที่ “อับดุลลา” เริ่มต้นเรียนมวยไทยตั้งแต่อายุเพียง 13 ปี ตามเพื่อน ๆ ในละแวกบ้าน แต่เพราะความอยากลองซ้อมมวยในวันนั้น จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความหลงใหลที่ทำให้เขามุ่งมั่นฝึกฝนอย่างหนัก โดยมีความฝันที่จะเติบโตมาเป็นนักมวยไทยอาชีพให้ได้
ในช่วงแรกของการฝึกซ้อมซึ่งยังไม่มีรายได้เข้ามา “อับดุลลา” จึงต้องทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยควบคู่ไปด้วยเพื่อหาเลี้ยงชีพและใช้เป็นทุนในการฝึกซ้อม จนในที่สุด เมื่ออายุได้ 19 ปี เขาได้รับโอกาสขึ้นชกเป็นครั้งแรกในเวทีมวยรอบที่บ้านเกิด และสามารถคว้าแชมป์มาครองได้อย่างงดงาม จนทำให้ชื่อของเขาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการมวยไทยของรัสเซียอย่างรวดเร็ว
จากนั้นไม่นาน “อับดุลลา ดายาคาเอฟ” ในวัย 20 ปี ได้ตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อไล่ล่าความฝันในการขึ้นสังเวียน ONE ลุมพินี กระทั่งในเดือน พ.ย.66 เขาก็ได้โอกาสเปิดตัวในศึก ONE ลุมพินี 39 และเอาชนะ “เดชฤทธิ์ ลูกสวน” ไปได้ ก่อนจะเดินหน้าคว้าชัยเพิ่มอีก 5 ครั้ง จาก 6 ไฟต์ต่อมา จนได้รับสัญญานักกีฬา ONE มาครองเป็นคนที่ 23 ของรายการ ในศึก ONE ลุมพินี 96 เมื่อเดือน ก.พ.
ด่านแรกบนเวทีใหญ่ระดับโลกของ “อับดุลลา” จะต้องเผชิญหน้ากับนักสู้ดีกรีอดีตผู้ท้าชิงอันดับ 1 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต อย่าง “ซ้ายฟ้าผ่า” เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์ นักชกหมัดโหดจากเชียงใหม่ ที่ไฟต์นี้พร้อมสู้สุดใจเพื่อกลับมาคว้าชัยให้ได้อีกครั้ง หลังสะดุดแพ้มา 2 ไฟต์รวด โดยจะฟาดปากกันในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.)

งานนี้ต้องรอดูกันว่าทั้ง “อาคีฟ” และ “อับดุลลา” จะสามารถสานต่อฟอร์มฮอตจากเวที ONE ลุมพินี ด้วยการโค่นคู่ชกระดับพระกาฬเพื่อแจ้งเกิดบนเวที ONE Fight Night อย่างเป็นทางการได้หรือไม่
ศึก ONE Fight Night 31: ก้องธรณี vs น้องโอ๋ II วันเสาร์ที่ 3 พ.ค.68 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรกเวลา 08.00 น. โดยรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 10.00 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 08.00 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 08.00 น.
- Watch.ONEFC.com เริ่ม 08.00 น.