ส่องชีวิต “แอมเบอร์ คิตเชน” สาวเมืองผู้ดีที่เดินตามรอยแม่อดีตแชมป์โลก
เจาะลึกเรื่องราวชีวิตของ “AK 47” แอมเบอร์ คิตเชน นักมวยสาวจากแดนผู้ดี วัย 23 ปี ผู้เป็นทายาทของยอดมวยหญิงระดับตำนานแห่งสหราชอาณาจักร เธอมุ่งมั่นตั้งใจเดินตามรอยเท้าของแม่ด้วยการพิสูจน์ตัวเองบนเวทีระดับโลกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ
หลังเปิดตัวไม่สวยด้วยการพ่าย “วิกตอเรีย ลิเพียนสกา” นักมวยสาวจากสโลวาเกียเมื่อเดือนกันยายน 2562 แอมเบอร์ หายหน้าหายตาจากเที ONE ไปเกือบ 3 ปี แต่เธอกำลังจะได้กลับคืนสังเวียนอีกครั้ง โดยจะพบกับนักมวยสาวฝีมือดีชาวออสซี “ไดแอนดรา มาร์ติน” ในศึก ONE Fight Night 1: อาเดรียโน vs ดิมิเทรียส II ซึ่งจะถ่ายทอดสดในวันเสาร์ที่ 27 ส.ค.นี้
ก่อนที่เราจะได้เห็นแม้ไม้มวยไทยของ แอมเบอร์ ในไฟต์ที่จะถึงนี้ เราขอพาไปส่องชีวิตลูกสาวยอดมวยหญิงว่าอะไรที่หล่อหลอมให้เธอเป็นหนึ่งในนักมวยหญิงดาวรุ่งแห่งยุค
#สายเลือดแชมป์โลก
แอมเบอร์ คิตเชน เกิดและเติบโตในเมืองชายฝั่งทะเลเล็ก ๆ ของเมืองเพนแซนส์ ในคอร์นวอล ประเทศอังกฤษ โดยใช้ชีวิตอยู่กับ พ่อ แม่ และน้องสาวฝาแฝด
“จูลี คิตเชน” แม่ของเธอเป็นแชมป์โลกมวยไทย 14 สมัย ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักกีฬาการต่อสู้ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดของสหราชอาณาจักร ขณะที่ “นาธาน คิตเชน” พ่อของเธอ เป็นเทรนเนอร์ให้กับภรรยา และเจ้าของค่าย Touchgloves Gym
ชีวิตของ แอมเบอร์ จึงคลุกคลีอยู่กับศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่เกิดก็ว่าได้ แต่ในตอนที่เธอยังเด็ก เธอไม่เข้าใจว่าความสำเร็จของแม่นั้นยิ่งใหญ่ขนาดไหน
“ตอนฉันยังเด็กฉันไม่ได้นึกถึงเรื่องงานของแม่มากนัก มันดูเหมือนเป็นแค่เรื่องธรรมดา แต่ตอนนี้มันไม่ธรรมดาเลย พอมองย้อนกลับไปถึงสิ่งที่แม่ทำทั้งหมด ฉันว่าแม่เก่งมาก ๆ”
“ฉันและน้องสาวมักจะอยู่กับพี่เลี้ยงบ่อย ๆ เพราะพ่อแม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ (เพื่อแข่งขัน) ฉันจำได้ว่ารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้รับโทรศัพท์จากพ่อแม่ ไม่ว่าแม่จะชนะหรือแพ้ก็ตาม ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร”
#แพ้ใจให้มวยไทย
แอมเบอร์ และฝาแฝดของเธอเริ่มฝึกศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ โดยไม่มีใครบังคับ โดยพ่อแม่ให้ทั้งคู่ตัดสินใจเลือกกีฬาที่ชอบด้วยตัวเอง แอมเบอร์ ลองเล่นกีฬาหลายอย่างที่โรงเรียนเปิดสอน แต่เธอก็ไม่ถูกใจอะไรสักอย่าง จนกระทั่งได้รู้จักมวยไทย ซึ่งเธอรู้สึกชอบและปักใจที่จะเรียนรู้อย่างจริงจัง
กวาดแชมป์ระดับเยาวชน
แอมเบอร์ ได้ลงสังเวียนมวยไทยครั้งแรกตอนอายุเพียง 9 ขวบ จากนั้นเธอก็เริ่มไต่ระดับสู่ความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยสามารถคว้าแชมป์เยาวชนของอังกฤษ, แชมป์ยุโรป และแชมป์โลกตามมา
“ฉันและน้องสาวเดินสายขึ้นชกในหลายรายการทั่วสหราชอาณาจักร และเรายังเป็นตัวแทนประเทศอังกฤษไปชกที่ตุรกี ไม่มีใครล้มฉันได้ในระดับเยาวชน”
#เดินทางสู่ประเทศไทย
แม้จะชื่นชอบมวยไทย แต่การเดินทางมาประเทศไทยของ แอมเบอร์ มีจุดประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การฝึกมวยไทย ในวัย 16 ปี แอมเบอร์ ตัดสินใจมาเมืองไทยเพื่อศึกษาวิธีการสักร่างกายด้วยไม้ไผ่เพื่อต่อยอดวิชาศิลปะและการออกแบบที่เรียนมาจากวิทยาลัย
แต่เมื่อเธอได้ลองเรียนรู้ “ศาสตร์แห่งอาวุธทั้งแปด” ต้นตำรับขนานแท้ก็ทำให้เธอรู้สึกว่าการเป็นนักมวยไทยคือสิ่งที่เหมาะกับเธอมากกว่าการเป็นช่างสัก
#เกือบเลิกชกมวย
ความสำเร็จในระดับเยาวชนและนามสกุล “คิตเชน” อันโด่งดัง ทำให้ทุกคนคาดหวังในตัว แอมเบอร์ สูงมาก และเมื่อมีการออกกฎใหม่ ๆ ในสหราชอาณาจักรโดยไม่อนุญาตให้ชกศีรษะในการแข่งขันระดับเยาวชน รวมถึงกฎเพื่อการลดทอนความอันตรายลง บวกกับการไม่ได้ซ้อมอย่างจริงจัง ทำให้ แอมเบอร์ เกือบถอดใจไม่ชกมวยอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในใจลึก ๆ แอมเบอร์ ยังไม่อยากยอมแพ้ เธอจึงตัดสินใจไม่เลิกชกมวยจนกว่าจะได้พิสูจน์ตัวเอง เธอกลับมาตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนักจนกระทั่งฟอร์มดีขึ้นเรื่อย และตั้งแต่นั้นมาเธอก็ชนะทุกไฟต์
#เป้าหมายใหม่ใหญ่กว่าเดิม
แอมเบอร์ ออกหาความท้าทายด้วยการลงสนามที่ใหญ่และเข้มข้นขึ้น จนเธอคว้าแชมป์โลก WBC มวยไทยของอังกฤษมาครอง แต่เธอยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เธอยังมองหาคู่แข่งที่หินขึ้นในทุก ๆ ครั้ง
“ฉันชกกับนักมวยหญิงมาร่วม 30 หรือ 40 ไฟต์ และเดินทางไปแข่งตามที่ต่าง ๆ ห่างไกลจากบ้านเกิดในฐานะม้ามืด ฉันไปอเมริกาและได้ขึ้นชกกับนักมวยเก่ง ๆ ของที่นั่น ลึก ๆ แล้วฉันไม่คิดว่าจะชนะหรอกนะ แต่พอขึ้นสังเวียน ฉันก็เป็นฝ่ายได้รับการชูมือ”
“ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ฉันเริ่มเชื่อมั่นในตัวเอง ว่าฉันสามารถไปได้สวยในวงการนี้หากตั้งใจฝึกฝน และซ้อมให้หนักที่สุดเท่าที่จะทำได้”
#สร้างตำนานของตัวเองใน ONE
ผลงานปัจจุบันที่โดดเด่นและสายเลือดนักสู้ ทำให้ แอมเบอร์ ได้โอกาสเข้ามาอยู่ในชายคาขององค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ ที่ซึ่งเธอจะสร้างชื่อเสียงของตัวเองในระดับสากล
แม้จะสะดุดในจุดเริ่มต้น แต่ แอมเบอร์ ยังคงมุ่งมั่นที่เดินตามรอยแม่ที่เคยประสบความสำเร็จในฐานะนักมวยหญิงด้วยการสร้างตำนานบทใหม่ให้ตัวเอง โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการครองแชมป์โลก ONE มวยไทย
“การเซ็นสัญญากับ ONE เป็นเสมือนความฝันของนักกีฬาทุกคน เพราะที่นี่คือแพลตฟอร์มกีฬาการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุด”
“นี่เป็นก้าวสำคัญและยิ่งใหญ่ ฉันจึงตั้งใจอย่างแน่วแน่ และทำผลงานให้ดีในการเจอกับนักสู้ที่ดีที่สุดของโลก แน่นอนว่าเป้าหมายหลักของฉัน คือการคว้าแชมป์โลกของ ONE ให้ได้”
ติดตามชม “แอมเบอร์ vs ไดแอนดรา” ในศึก ONE Fight Night 1: อาเดรียโน vs ดิมิเทรียส II ถ่ายทอดสดวันเสาร์ที่ 27 ส.ค.65 เวลา 08.00 น. รับชมทาง watch.onefc.com ในระบบ PPV (จ่ายเงินเพื่อรับชม) สำหรับกำหนดการเปิดระบบจำหน่ายรหัสเข้าชม จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
อ่านเพิ่มเติม: