อยากเป็นเสือ ก็ต้องอยู่ในดงเสือ “พันธ์พยัคฆ์” เจอกับตัว 20 ปีเปลี่ยนสไตล์ได้
ได้รับการชื่นชมจากแฟนมวยอย่างล้นหลามสำหรับ “ยอดมวย 3 พ.ศ.” พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ ที่โชว์ฟอร์มเดือดชนะน็อก “ซาวาส ไมเคิล” ไม่เหลือคราบ “ยอดมวยเกียร์อาร์” ที่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ ส่งให้เขาคว้ารางวัลโบนัสอัดฉีดกว่า 1.8 ล้านบาท พร้อมลอยลำสู่รอบชิงชนะเลิศ ONE มวยไทย เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวตต่อไป
พันธ์พยัคฆ์ ถูกส้มหล่นใส่อย่างจังเมื่อได้เลื่อนขึ้นเป็นตัวจริงของการแข่งขัน มวยไทย เวิลด์กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต รอบรองชนะเลิศ หลัง “รถถัง จิตรเมืองนนท์” เพื่อนร่วมค่ายถอนตัวช่วงโค้งสุดท้ายจากศึก ONE Fight Night 1 เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา
โดยในศึกนี้ เจ้าตัวได้ยอดมวยรุ่นพี่อย่าง “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” ราชัน ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต มาถ่ายทอดเคล็ดลับวิชาแบบไม่กั๊ก ซึ่งเขาเผยว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กล้าเปลี่ยนตัวเองเพื่อลบคำสบประมาทจากแฟนมวยบางส่วนที่ไม่ประทับใจสไตล์การชกแบบเดิม ๆ ทุกครั้งที่ขึ้นสังเวียน
ย้อนไปเมื่อราว 6 เดือนก่อน พันธ์พยัคฆ์ ตัดสินใจลัดฟ้าสู่แดนสิงคโปร์ เพื่อรับบทบาทใหม่ในฐานะครูมวยที่ “อีโวลฟ์ MMA” ยิมชื่อดังตามรุ่นพี่และเพื่อนนักมวยไทยหลายคน
พันธ์พยัคฆ์ ได้เปิดโลกใหม่อย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะการได้ทำงานกับเพื่อนร่วมงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาระดับแชมป์โลกกันทั้งนั้น การแวดล้อมด้วยนักกีฬาที่กระตือรือร้นเหมือนเป็นแรงกระตุ้นให้ พันธ์พยัคฆ์ ต้องปรับตัวตามไปด้วย
สำหรับ “ยอดมวย 3 พ.ศ” อย่าง พันธ์พยัคฆ์ ไม่มีสงสัยในเรื่องทักษะมวยไทย แต่เขาก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสไตล์การชกตามแบบฉบับมวยฝีมือที่เน้นการตั้งรับและหลบหลีกคู่ต่อสู้ ซึ่งคนดูบางส่วนรู้สึกไม่ประทับใจถึงกับตั้งฉายาให้ใหม่ว่า “ยอดมวยเกียร์อาร์”
พันธ์พยัคฆ์ ได้รับคำตำหนิทำนองนี้มาตลอดเกืบ 20 ปีของอาชีพนักมวย จนเขาชินชาและเลือกที่จะไม่ใส่ใจ จนกระทั่งเขาได้มาอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ของยิมชื่อดังแดนสิงโต ทำให้รู้สึกว่าถึงเวลาที่เขาต้องเปลี่ยนตัวเอง
“การที่ผมได้โอกาสมาเป็นครูมวยที่ อีโวลฟ์ ทำให้ผมรู้สึกอยากเปลี่ยนตัวเอง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะลูกศิษย์ด้วยครับ ในเมื่อเราเป็นครูมวย เราก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกศิษย์ที่มาเรียนกับเรา ผมต้องทำให้เขาเห็นเป็นตัวอย่างว่าสไตล์ของ พันธ์พยัคฆ์ เป็นอย่างไรและเชื่อถือในตัวเราครับ”
“สภาพแวดล้อมของที่นี่ก็สำคัญมากครับ ถ้าเราอยู่กับคนขี้เกียจ ก็จะไม่มีใครพากันซ้อม แต่ที่นี่ การที่เราแวดล้อมไปด้วยคนที่ตั้งใจซ้อม ขยันซ้อม ก็เป็นเครื่องกระตุ้นให้เราอยู่นิ่งไม่ได้ ซึ่งผมก็ได้ พี่น้องโอ๋ ชวนกันไปซ้อม และเป็นกำลังใจให้ตลอด พี่เขามีส่วนสำคัญมาก ๆ ที่ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองในวันนี้ครับ”
“ตลอดเกือบ 20 ปีที่ชกมวยในเมืองไทย ผมถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น มวยหนีอย่างเดียวมาตลอด จนผมไม่รู้สึกอะไร และไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองเรายังไง แต่เมื่อได้โอกาสมาอยู่ที่ อีโวลฟ์ มันมีแรงกระตุ้น มีการสนับสนุนจากทุกคน ทำให้ผมกล้าเปลี่ยนตัวเอง แล้วพอผมทำได้ มันเป็นอะไรที่วิเศษมากเลยครับ”
หากอยากเป็นคนเก่ง ก็จงพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางคนเก่ง หากอยากเป็นเสือ ก็อยู่ดงเสือ ซึ่งนักสู้พันธ์ุเสืออย่าง พันธ์พยัคฆ์ ก็พิสูจน์ให้เห็นความจริงข้อนี้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ พันธ์พยัคฆ์ ในฐานะที่หนึ่งของสาย เอ จะเข้าไปเจอกับ “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” ที่หนึ่งของสาย บี ในรอบชิงชนะเลิศ ONE มวยไทย เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวตและจะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะได้เข็มขัดแชมป์มวยไทย เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ เส้นแรกของ ONE ไปครอง
ติดตามความคืบหน้าของการแข่งขันมวยไทย เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง “ซุปเปอร์เล็ก vs พันธ์พยัคฆ์” ได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง
อ่านเพิ่มเติม: