เจาะ 5 เรื่องจริง “ลิโต อาดิวัง” วายร้ายตากาล็อกที่เรียกร้องอยากฟาดปาก “รถถัง”
“Thunder Kid” ลิโต อาดิวัง ขาโหดจากค่ายกางเกงแดง แดนตากาล็อก หลังจากมีการส่งสารท้ารบมาถึงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต “ดิ ไอรอนแมน” รถถัง จิตรเมืองนนท์ ก็เกิดกระแสเรียกร้องจากแฟนกีฬาการต่อสู้ว่าอยากให้คู่นี้ได้ฟาดปากกันจริง ๆ สักตั้ง กลายเป็นอีกหนึ่งดรีมไฟต์ที่น่าดูที่สุดหากเกิดขึ้นจริง
แม้เราไม่รู้ว่าไฟต์นี้จะเกิดขึ้นหรือไม่เพราะเป็นเรื่องอนาคตที่ต้องมีการพูดคุยกัน เนื่องจากทั้งคู่อยู่ต่างรุ่นและถนัดกันคนละกติกา อย่างไรก็ตามเราจะพาไปเจาะ 5 เรื่องจริงของนักสู้ชาวฟิลิปปินส์ที่ชื่อ “ลิโต” คนนี้ ว่ามีดีอะไรถึงหาญกล้าท้าทายอำนาจเบอร์หนึ่งรุ่นฟลายเวตอย่าง รถถัง
#1 เริ่มต้นจากมวยสากล
ลิโต เติบโตมาในเมืองบาเกียวที่โด่งดังในเรื่องการผลิตนักสู้ชั้นยอดของประเทศฟิลิปปินส์ เขาหลงใหลในกีฬาการต่อสู้โดยเฉพาะวูซูตั้งแต่วัยประถม แต่การจะได้ฝึกอย่างจริงจังจำเป็นต้องเสียค่าเรียน ซึ่งตอนนั้นฐานะทางบ้านของเขาไม่เอื้ออำนวยที่จะสนับสนุนได้
แต่โชคดีที่ภายหลังเขาได้รู้จักกับโค้ชมวยจากสมาคมมวยสากลแห่งประเทศฟิลิปปินส์ (The Association of Boxing Alliances in the Philippines: ABAP) ซึ่งเป็นผู้ชักนำให้ ลิโต เข้าไปเรียนมวยสากล ถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับศิลปะการต่อสู้อย่างจริงจัง แม้จะไม่ใช่กีฬาในฝันแต่เขาก็ตั้งใจทำมันอย่างเต็มที่
#2 อดีตนักกีฬาวูซูเอเชียนเกมส์
ลิโต ยังคงเก็บความฝันในการเป็นนักกีฬาวูซูไว้ในใจตลอดมา และด้วยพรสวรรค์ที่ยิ่งฉายชัดขึ้นเรื่อย ๆ จากการฝึกมวยสากล ในที่สุด เขาก็มีโอกาสได้เรียนวิชาวูซูสมดังใจ ท้ายที่สุด เขาได้รับคัดเลือกเป็นนักกีฬาวูซูทีมชาติฟิลิปปินส์และได้ลงแข่งขันในกีฬาเอเชียนเกมส์ เมื่อปี 2552 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการไต่เต้าสู่การเป็นนักกีฬาการต่อสู้มืออาชีพในเวลาต่อมา
#3 ศิษย์เก่าค่ายดังในภูเก็ต
หลังจากเทิร์นโปร ลิโต กลับไม่มีโอกาสได้ลงสังเวียนบ่อยนักเพราะไม่ค่อยรายการในฟิลิปปินส์ เขาตัดสินใจโบยบินสู่มาเลเซียเพื่อผันตัวเองเป็นครูฝึกโดยหวังว่าจะได้ลงแข่งในฐานะนักกีฬาอาชีพในเวทีต่างประเทศ แต่เขาก็ต้องผิดหวังเพราะเขาต้องติดอยู่กับหน้าที่ครูฝึกสอนเพียงอย่างเดียวถึง 3 ปี
ด้วยความมุ่งมั่นและความฝันอันแรงกล้าที่จะเป็นนักสู้มืออาชีพ เขาตัดสินใจเดินทางสู่ประเทศไทยเพื่อขอเรียนวิชาศิลปะการต่อสู้กับค่าย AKA Thailand ค่ายมาตรฐานในภูเก็ต โดยเขาสามารถพัฒนาฝีมือขึ้นอย่างมากและประสบความสำเร็จจากการแข่งขันหลายครั้ง
#4 สร้างชื่อจาก วัน วอริเออร์ ซีรีส์
หลังจาก ลิโต พัฒนาฝีมือและสั่งสมประการณ์เต็มเปี่ยม เขาเดินทางกลับมาตุภูมิเพื่อสานฝันการเป็นนักสู้มืออาชีพ โดยในครั้งนี้ แม้แต่ ทีมลาไคย์ ค่ายชั้นนำระดับประเทศก็ไม่ปฏิเสธความสามารถของเขา
ภายใต้สังกัดค่ายกางเกงแดง ลิโต มีโอกาสลงแข่งขันในรายการ Rich Franklin’s ONE Warrior Series (OWS) ซึ่งเป็นเวทีค้นหานักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ดาวรุ่งของ วัน แชมเปียนชิพ โดย ลิโต สามารถคว้าชัยชนะเหนือคู่ต่อสู้ 3 นัดติดต่อกัน และ 2 ใน 3 ครั้งเป็นการชนะน็อก ส่งให้เขาเป็นผู้ชนะเลิศการแข่งขันและคว้ารางวัลสัญญามูลค่า 6 หลัก พร้อมได้โอกาสเข้าสังกัดเป็นนักกีฬา ONE โดยทันที
#5 โชว์โหดปราบนักสู้ไทย
ลิโต อาดิวัง ถือเป็นหนึ่งในนักสู้แถวหน้าในรุ่นสตรอว์เวต (52.3 – 56.7 กก.) ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง เก่งรอบด้านทั้งเกมยืนสู้และเกมนอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสไตล์การต่อสู้ที่บู๊ ดุดัน และเด็ดขาด อันเป็นที่ถูกใจแฟน ๆ
เขาเริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนชาวไทยเมื่อเขาโชว์ความโหดใส่นักสู้หนุ่มดอย “เปี๊ยก” พงษ์ศิริ มิตรสาธิต ที่ข้ามสายจากมวยไทยไปเอาดีในกีฬาการต่อสู้แบบผสมสาน ในไฟต์นั้น ลิโต จัดการ พงษ์ศิริ ด้วยการล็อกแขนในท่ายากอย่างน่าหวาดเสียว ซึ่งหนุ่มดอยเคยออกปากว่า ลิโต เป็นนักสู้ที่แข็งแกร่ง แรงเยอะ ยากที่จะปะทะด้วยหากหลงกลไปสู้ในเกมนอนที่เขาถนัด
ปัจจุบัน นักสู้จอมโหดจากค่ายกางเกงแดงในวัย 28 ปี ครองสถิติชนะ 6 จาก 7 ไฟต์ใน วัน แชมเปียนชิพ โดยชัยชนะ 5 ครั้งเป็นการปิดเกมแบบไม่พึ่งคะแนนกรรมการ ในขณะที่ รถถัง ชนะ 10 ไฟต์ไร้พ่ายและเป็นการชนะทีเคโอ 2 ครั้ง ลองพิจารณากันดูว่าจากฝีมือและประสบการณ์ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ลิโต จะเป็นคู่ต่อสู้ที่คู่ควรของ รถถัง ในอนาคตหรือไม่
อ่านเพิ่มเติม: