รู้จักสตรีที่เข้าไปนั่งอยู่ในหัวใจ “อควาแมนแดนสยาม” สินสมุทร กลิ่นมี
ถ้าจะพูดถึงนักมวยที่มีฟอร์มอันร้อนแรง และกำลังน่าจับตาในนาทีนี้ คงหนีไม่พ้นผู้ชายที่ชื่อ “สินสมุทร กลิ่นมี” หรือที่หลายคนรู้จักในฉายา “อควาแมนแดนสยาม” ผลผลิตคนล่าสุดจากตระกูลมวยดังแห่งเมืองพัทยา
นักมวยวัย 26 ปีรายนี้ ถึงแม้จะเริ่มต้นนับหนึ่งบนเวที ONE ในฐานะมวยแทน แต่กลับทำผลงานได้ดีเกินคาด เมื่อเป็นฝ่ายไล่เช็กบิล “นิกี โฮลสเกน” เจ้าตำรับดัตช์คิกบ็อกซิ่งไปในยกที่ 2 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แถมในไฟต์ล่าสุดก็น็อกเอาต์ “เลียม โนแลน” จากอังกฤษไปในยกที่ 2 เช่นกัน ในศึก ONE 159: ไรเนียร์ vs วิตาลี เมื่อวันศุกร์ที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา
ทำให้ สินสมุทร กลายเป็นนักกีฬาคนแรกใน ONE ที่สามารถชนะน็อกและคว้าโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 1.8 ล้านบาท) ไปนอนกอดได้ถึง 2 ไฟต์ติดต่อกัน
แต่การที่นักสู้จะประสบความสำเร็จบนสังเวียนได้ อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องมีก็คือ บุคคลเบื้องหลังผู้เปรียบเสมือนลมใต้ปีก ที่คอยช่วยพยุง สนับสนุน และเป็นกำลังใจในการฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ นานา
สำหรับแรงใจสำคัญของ อควาแมนแดนสยาม ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากสาวสวยตาน้ำขาวที่อยู่ข้าง ๆ กาย “ลอเรน มูติเมียร์” (Lauren Mutimear) แฟนสาวชาวอังกฤษ ที่คบหาดูใจกันมา 7 ปีแล้ว และเพิ่งจะเลื่อนขั้นกลายเป็นคู่หมั้นเมื่อไม่นานมานี้
ลอเรน ปัจจุบันอายุ 30 ปี เกิดที่เมืองเซาแธมป์ตัน ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ปัจจุบันทำงานเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา ซึ่งทั้งคู่เริ่มต้นจากการเป็นคนรู้จักกันก่อน กระทั่งพัฒนาความสัมพันธ์กลายมาเป็นคู่รักในเวลาต่อมา
ในตอนแรกถึงแม้จะมีกำแพงในเรื่องของภาษามาเป็นอุปสรรค แต่ด้วยอานุภาพของความรักที่ก่อตัวขึ้น ก็ไม่อาจขวางทาง สินสมุทร ในการเปิดฉากความสัมพันธ์ ด้วยการพิสูจน์ตัวเองนานหลายเดือน กว่าที่ฝ่ายหญิงจะยอมเปิดใจในที่สุด
“เมื่อก่อนเขาเป็นเพื่อนกับแฟนเก่าของพี่ชายผม ตอนนั้นเขาทำงานเป็นครูอยู่ที่โรงเรียนในพัทยา ก็เลยทำให้เราได้มีโอกาสรู้จักกัน ผมจำไม่ได้ว่าตอนนั้นคิดอะไรอยู่ แต่ผมรู้แค่ว่าผมชอบเขาและอยากรู้จักให้มากขึ้นครับ”
“ตอนแรกมันก็อาจจะมีอุปสรรคบ้างครับ เพราะผมยังพูดอังกฤษไม่ได้ ส่วนแฟนผมเขาพูดภาษาอังกฤษเป็นหลักครับ ผมก็ส่งแค่รูปหัวใจไปแทนคำพูดในข้อความ แต่พอนาน ๆ เราก็เริ่มจูนกันได้และคุยกันรู้เรื่องมากขึ้น ผมก็งงเหมือนกันว่าเป็นไปได้ยังไง มันเหมือนเราจะเข้าใจกันไปเอง ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่มองตาผมก็รู้ก่อนแล้วว่าเขาจะพูดอะไร”
ถึงแม้จะฝ่ายชายจะเป็นคนขี้อาย และใช้เวลาอยู่กับกระสอบทรายมากกว่าสาว ๆ แต่เมื่อหัวใจเรียกร้อง ก็ทำให้ สินสมุทร ต้องก้าวข้ามคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง เพื่อหาวิธีพิชิตใจครูสาวชาวอังกฤษให้ได้
โดยหนึ่งในไม้ตายของเจ้า “คล้าว” ก็คือการแอบส่งผลไม้และขนมเป็นสื่อรักแทนคำพูด เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจ กระทั่งสามารถแง้มประตูหัวใจของฝ่ายหญิงได้สำเร็จภายในระยะเวลาไม่กี่เดือน
“ผมจำความรู้สึกนั้นไม่ค่อยได้เท่าไหร่ครับ แต่ก็อย่างที่บอกว่าผมชอบและอยากจีบเขา ก็มีแอบซื้อผลไม้ไปวางไว้ที่คอนโดฯ เขาบ้าง ซื้อขนมไปให้บ้าง เพราะตอนนั้นผมยังพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ แต่สิ่งที่ผมทำได้ตอนนั้นคืออยากจะเทคแคร์เขาให้ได้มากที่สุดครับ”
หลังจากที่ทั้งคู่เปิดตัวคบหากันอย่างเป็นทางการ ดีกรีความหวานของทั้งคู่ก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะการเทคแคร์ของฝ่ายหญิง ที่ทำให้ สินสมุทร รู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการคอยเป็นกองหนุนที่ดี และกำลังใจสำคัญทั้งในตอนซ้อมและตอนขึ้นสังเวียนแข่งขัน
“เขาเป็นคนที่ดูแลและให้กำลังผมตลอดเลยครับ อย่างเวลาก่อนขึ้นชก ผมมักจะพูดว่าคู่ชกของผมน่ากลัวและเก่งมาก แต่เขาจะตอบกลับทันทีว่า ไม่ใช่หรอก ผมต่างหากที่เก่งกว่า แล้วอีกอย่างคือเขาเป็นคนที่เอาใจใส่ผมมากเลยครับ เวลาที่ผมซ้อมมวยเสร็จเขาก็จะหาน้ำมาเสิร์ฟให้ตลอด”
“ผมคิดว่าถ้าไม่มีเขา ผมก็คงจะมาอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เวลาผมท้อเขาก็จะคอยผลักดันอยู่ตลอด คอยให้กำลังใจว่าผมต้องทำได้ ผมคิดว่าการที่นักมวยสักคนจะมาถึงจุดนี้ได้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ ต้องมีหลายปัจจัยที่คอยช่วยส่งเสริม ทำให้ผมคิดว่าถ้าไม่มีเขาอยู่ข้าง ๆ ผมก็คงจะเป็นแบบทุกวันนี้ไม่ได้แน่”
และเมื่อความรักสุกงอม ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเป็นเวลา 7 ปี ในที่สุด สินสมุทร ก็ตัดสินใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ด้วยการทำเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน ภายใต้บรรยากาศสุดโรแมนติกริมทะเล โดยมีสักขีพยานคนสำคัญอย่างพ่อและแม่ของฝ่ายหญิง ที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลมายังเมืองไทย เพื่ออยู่ในโมเมนต์สำคัญของลูกสาว
“ผมตั้งใจที่จะขอแฟนแต่งงานมานานแล้ว แต่ติดที่ยังไม่ค่อยมีเงินเท่าไหร่ อีกทั้งมีปัญหาของโควิดด้วย ก็เลยเลื่อนมาจนถึงตอนนี้ ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้วครับ ที่สำคัญผมอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าผมยังรักเขาอยู่ตลอด เพราะเขาอยู่กับผมมาตั้งแต่ตอนที่ไม่มีอะไร จนตอนนี้ผมมีชื่อเสียงแล้ว ผมก็รักเขาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงครับ”
“อีกอย่างตอนที่ขอแฟนแต่งงาน พ่อแม่เขามาเที่ยวเมืองไทยพอดี ผมก็เลยอยากให้ครอบครัวของเขาอยู่ในโมเมนต์ที่สำคัญ ๆ แบบนี้ครับ เพราะผมเคยไปที่บ้านเขา 2-3 ครั้งก่อนหน้านี้ ครอบครัวเขาอบอุ่นมากเลยครับ และต้อนรับผมดีทุกอย่าง”
และเมื่อถามถึงเคล็ดลับว่า ทำอย่างไรถึงสามารถประคองความรักให้ยาวนานแบบนี้ “อควาแมนแดนสยาม” ก็เผยแบบไม่มีกั๊กว่า เป็นเพราะทั้งคู่บอกรักกันทุกวันมาตลอด 7 ปี ซึ่งถือเป็นการเติมความหวานแบบง่าย ๆ แต่ลงตัวที่สุดแล้ว
“ทุกวันเขาจะบอกรักผมตลอด ทั้งตอนก่อนนอนและหลังจากตื่นนอน ผมเองก็จะบอกรักเขาเหมือนกันครับ ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่บอกรักกัน และมันจะเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เราคบกันมา”
สุดท้าย สินสมุทร เผยว่า วางแผนที่จะจูงมือแฟนสาวเข้าประตูวิวาห์ภายในปีหน้า ส่วนอนาคตหลังแต่งงานยังไม่มีการวางแผนแต่อย่างใด เพราะตอนนี้ต้องการโฟกัสไปที่การสร้างฟอร์ม และทำผลงานกับ ONE ให้ดีที่สุดเท่านั้น
“หลังจากแต่งงานผมก็ยังไม่รู้เหมือนกันครับ ยังไม่ได้วางแผนอะไรไว้ตอนนี้ แค่อาจจะทำผลงานให้ดีที่สุดก่อนกับการชกใน ONE แล้วหลังจากผมเลิกชกค่อยว่ากันอีกที ว่าจะเปิดค่ายมวยอยู่ที่เมืองไทยต่อไป หรือจะย้ายไปที่ต่างประเทศครับ”
อ่านเพิ่มเติม: