เปิดชีวิต “เคร็ก โคกลีย์” แชมป์ Road To ONE UK บททดสอบต่อไป “แรมโบ้เล็ก”

Suablack Tor Pran49 vs Craig Coakley OL46 (17)

ย้อนดูเส้นทางชีวิตที่ต้องสู้สุดใจของ “เคร็ก โคกลีย์” นักสู้มากฝีมือ วัย 31 ปี จากไอร์แลนด์ ก่อนจะกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง พบกับ “แรมโบ้เล็ก ฉ.อจลบุญ” มวยซ้ายหนักคม วัย 21 ปี จากชัยภูมิ ในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ในศึก ONE Fight Night 24: จาร์เร็ด vs กุสตาโว ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 07:00 น. ของวันเสาร์ที่ 3 ส.ค.67


OFN24_Rambolek05 1


โดยก่อนการขึ้นสังเวียนระดับโลกหนที่ 2 ของ “เคร็ก โคกลีย์” จะมาถึง วันนี้เราจะขอพาทุกท่านไปย้อนดูเส้นทางชีวิตของนักสู้ดีกรีแชมป์จากเวทีค้นหาดาวรุ่ง  Road To ONE สหราชอาณาจักร รายนี้ เพื่อสำรวจให้เห็นว่าเขาต้องเผชิญอุปสรรคอะไรมาบ้าง กว่าจะมาถึงวันนี้ที่ได้เป็นนักกีฬาขององค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก


#ได้พี่ชายช่วยไม่ให้หลงผิด


“เคร็ก” เกิดและเติบโตขึ้นมาในย่านนอร์ธไซด์ ซึ่งเป็นพื้นที่ยากจนในกรุงดับลิน เมืองหลวงของประเทศไอร์แลนด์ แม้จะต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความเสื่อมโทรมของสังคม รวมถึงต้องเผชิญกับความยากลำบากตั้งแต่เด็ก เนื่องจากขาดเสาหลักของครอบครัวอย่างคุณพ่อ แต่ “เคร็ก” กลับไม่เคยออกนอกลู่นอกทางโดยมีพี่ชายเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้เขาไม่เผลอหลงผิดไปทำในสิ่งผิดกฎหมาย

“ผมเติบโตมาในแฟลตครับ ถึงจะอยู่ในย่านที่อันตรายมากก็จริง แต่ก็ยังพอมีข้อดีอยู่บ้างครับ ส่วนตัวแล้ว ผมชอบสถานที่ที่ผมเติบโตมา เพราะการต่อสู้ดิ้นรนกับความยากลำบาก ช่วยหล่อหลอมให้ผมกลายเป็นผมในตอนนี้”



“คุณแม่ของผมเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องออกไปทำงานหนักทุกวัน เพื่อเลี้ยงดูผมและน้องชาย ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่วนคุณพ่อของผม ท่านพัวพันอยู่กับอาชญากรรมและยาเสพติด และเข้าออกคุกเป็นประจำตั้งแต่ผมยังเด็ก ๆ ผมจึงจำท่านไม่ได้มากนัก”

“ในพื้นที่ที่ผมโตมา มีแต่สิ่งไม่ดีเต็มไปหมดครับ ทั้งยาเสพติด และความรุนแรง แต่ผมจะไม่พาตัวเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ และพี่ชายของผม (ลี โคกลีย์) เขาเป็นคนคอยดูแลผมและพาผมออกห่าง จากคนไม่ดีเสมอ เขาจะสั่งสอนผมทุกครั้งที่ผมเผลอไปข้องแวะกับคนเหล่านั้นมากเกินไป เขาจะคอยดูแลให้ผมอยู่ในลู่ทาง”


#รักแรกพบคือ MMA


“เคร็ก” เป็นลูกคนกลางของตระกูลโคกลีย์ จากพี่น้อง 3 คน โดย “ลี” เป็นอดีตนักสู้ และ “เซนัน” น้องชายของเขากำลังลงแข่งการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) และด้วยคำแนะนำจาก “ลี” ทำให้ “เคร็ก” ที่ตอนนั้นกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ตัดสินใจเลือกเดินในทางที่ถูกต้องด้วยการหันมาฝึกซ้อม MMA อย่างจริงจังเป็นอย่างแรก

“ตอนผมอายุราว ๆ  15 ปี พี่ชายแนะนำให้ผมรู้จัก MMA พี่บอกว่าผมต้องทำอะไรสักอย่างกับตัวเองได้แล้ว เพราะเขาเห็นผมยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ตอนนั้นผมเห็นคนมีเงินเต็มไปหมด ในขณะที่เรากลับไม่มีอะไรเลย ใคร ๆ ก็รู้ว่าพวกนั้นหาเงินมาจากไหน คุณอยากจะเอากลุ่มคนเหล่านั้นเป็นแบบอย่างก็ได้เพราะเขามีเงินและมีชีวิตที่ดี แต่ผมมีพี่ชายที่ฉลาดกว่าคอยประคับประคอง และดูแลผมอยู่เสมอ”



“MMA เป็นรักแรกของผม ผมฝึกบราซิลเลียนยิวยิตสู (BJJ) มาประมาณปีครึ่ง และผมมักจะปรึกษาโค้ชเรื่องการลงแข่งเสมอ เพราะผมอยากลงแข่งตลอดเวลา แต่โค้ชก็บอกผมว่าผมมีทักษะการจับล็อกที่ดีแล้ว แต่ทักษะการยืนสู้ยังใช้ไม่ได้ ดังนั้นผมจึงต้องเรียนรู้วิธีการยืนสู้ที่ถูกต้อง

“จนวันหนึ่งผมและเพื่อนสนิทเดินผ่านยิมที่ผมฝึกซ้อมอยู่ตอนนี้ และเราก็ได้ยินเสียงนวมกระทบเป้า และได้ยินเสียงตะโกนของนักสู้ที่กำลังชกเป้า เราจึงรีบเข้าไปดู และพบว่ามันเป็นมวยไทย ผมลองซ้อมดูและชอบมันทันที”


#เบนเข็มเป็นนักมวยไทย


เมื่อ “เคร็ก” ค้นพบว่ามวยไทยคือความหลงใหลอันดับหนึ่งของเขา เขาจึงตัดสินใจทุ่มเทให้กับศิลปะการต่อสู้แขนงนี้อย่างเต็มที่ โดยตัดสินใจละทิ้งทั้ง MMA และโอกาสทางการศึกษาในมหาวิทยาลัยที่ได้รับผ่านโครงการเยาวชนท้องถิ่น ทันที ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักมวยไทยอาชีพให้ได้

“3 เดือนหลังจากฝึกซ้อมมวยไทย  ตอนนั้นผมอายุ 18 ปี และมีคนถามว่าอยากลงแข่งขันไหม ผมตอบกลับไปทันทีว่าอยาก และหลังจากฝึกได้ 5 เดือน ผมก็ได้ขึ้นชกเป็นครั้งแรก ซึ่งนั่นทำให้ผมตกหลุมรักมวยไทยเต็ม ๆ และทำให้ผมเลิกสนใจ MMA และหันมาโฟกัสไปที่การเป็นนักมวยไทยแทน”



“ในช่วงปีแรกที่ผมเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เป็นช่วงที่ผมเริ่มจริงจังกับการต่อสู้ ผมลาออกจากมหาวิทยาลัยในช่วงกลางปีแรก เพราะเห็นโอกาสที่ผมจะไปได้ไกลในการเป็นนักมวยไทยอาชีพ ผมได้โอกาสขึ้นชกชิงแชมป์ครั้งแรกตอนอายุ 18 ปี ที่อังกฤษ และนั่นคือช่วงเวลาที่ผมตัดสินใจทันทีว่านี่แหละคือสิ่งที่ผมอยากทำในชีวิตนี้”


#พร้อมพิสูจน์ตัวเองบนเวที ONE


อย่างไรก็ตามเส้นทางสู่การเป็นนักมวยไทยอาชีพไม่ได้ราบรื่นอย่างที่ “เคร็ก” วาดฝันเอาไว้ เนื่องจากวงการมวยไทยในไอร์แลนด์ ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่ากับในประเทศอืน แต่ไมว่าจะเจออุปสรรคขนาดไหน “เคร็ก” ยังคงแน่วแน่ต่อเป้าหมายและทุ่มเททำงานหนักอย่างต่อเนื่อง กระทั่งพุ่งชนความสำเร็จครั้งใหญ่ จากการเป็นผู้ชนะรายการ Road To ONE สหราชอาณาจักร ในเดือนเม.ย.66

ความสำเร็จในครั้งนั้นทำให้ “เคร็ก” ได้โอกาสบินข้ามทวีปมาเปิดตัวในศึกใหญ่ส่งท้ายปี 2566 อย่างศึก ONE ลุมพินี 46: ตะวันฉาย vs ซุปเปอร์บอน ซึ่งแม้ว่าจะเริ่มต้นเส้นทางแห่งความฝันด้วยการแพ้น็อก “เสือแบล็ค ท.พราน49” ตั้งแต่ยกแรก แต่เขายังคงมั่นใจในความสามารถของตัวเองว่ามีดีไม่แพ้ใครในรุ่นแบนตัมเวต และพร้อมที่จะพิสูจน์ฝีมือให้ทุกคนเห็น ด้วยการเอาชนะ “แรมโบ้เล็ก” ในวันเสาร์ที่ 3 ส.ค.นี้



“ผมคิดจริง ๆ ว่าผมคือหนึ่งในนักชกที่เก่งที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก เพียงแต่ไฟต์ล่าสุดผมยังไม่มีโอกาสได้แสดงทักษะออกมาอย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุดเท่านั้น มันเป็นอะไรที่รู้สึกเจ็บปวดที่สุดสำหรับผม ผมคงจะทำใจได้ง่ายกว่านี้ ถ้าหากแพ้ไปโดยที่ได้แสดงทักษะบางอย่างออกมาแล้ว ดังนั้นไฟต์นี้จึงเป็นไฟต์ที่ผมจะกอบกู้ศรัทธาของทุกคนคืนมาให้ได้”

“แฟนของผมลาออกจากงานมา 2-3 แล้ว เพื่อมาช่วยจัดการสิ่งต่าง ๆ ในเส้นทางอาชีพของผมให้ราบรื่นขึ้น และช่วยให้ผมได้โฟกัสกับการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบโดยไม่ต้องพะวงอะไรอีก สิ่งนี้ถือเป็นแรงผลักดันที่ดีมากสำหรับผม ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผมแล้ว คนส่วนใหญ่จะยอมแพ้ภายใต้แรงกดดันแบบนี้ แต่สำหรับผมมันยิ่งเป็นแรงผลักดัน ผมต้องชนะเพื่อตัวผมและเพื่อพวกเขา”

ติดตาม “เคร็ก vs แรมโบ้เล็ก” ศึก ONE Fight Night 24: จาร์เร็ด vs กุสตาโว ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันเสาร์ที่ 3 ส.ค.67 จองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 07.00 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

ดูเพิ่มเติมในหมวด บทความ

OL58 Seksan vs Yutaro Asahi (62)
Jonathan Haggerty vs Felipe Lobo OFN19 (52)
Shadow Mom
Suablack Tor Pran49 vs Craig Coakley OL46 (17)
Saemapetch VS Felipe Lobo60
Dimitri kovtun
Jompadej Nupranburi vs Kaichon Sor Yingcharoenkarnchang OL55 (1)
Cover_OFN24_Amy01
Hiroba Minowa Gustavo Balart ONE 165 12
Danielle Kelly Jessa Khan ONE Fight Night 14 8 scaled
Kulabdam Sor Jor Piek Uthai VS Nabil Anane (12)
Pongsiri PK Saenchai VS Soe Lin Oo (19)