เด็ดสมชื่อ “เด็ดดวงเล็ก” ฝ่ามรสุมคำสบประมาทสู่ดาวดวงใหม่ของ ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต
ทำความรู้จัก “เด็ดดวงเล็ก ส.สมหมาย” จอมฝีมือวัย 19 ปี ผู้คว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครองได้สำเร็จ หลังซิวตำแหน่งแชมป์ Road To ONE ตีตั๋วเข้าไปวาดลวดลายในรุ่นฟลายเวต
ชัยชนะเหนือ “ซ่อนรัก ศิษย์ ปจว.” คู่ชกจอมแกร่งชาวเมียนมา ในรอบชิงชนะเลิศ Road To ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ทำให้ฝันของ “เด็ดดวงเล็ก ส.สมหมาย” กลายเป็นจริงขึ้นมาทันตา
ย้อนกลับไปเพียงไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ “เด็ดดวงเล็ก” ยังเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง ผู้เปี่ยมไปด้วยไฟฝันที่อยากจะพัฒนาตัวเองให้ก้าวไปสู่ระดับโลก เหมือนกับที่ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” ทำได้ในสังเวียน ONE
แม้มีบางคนตั้งข้อสงสัยและมองว่า สไตล์การชกของเขาดูไม่น่าเข้ากับตลาดอินเตอร์สักเท่าไหร่ แต่สุดท้าย “เด็ดดวงเล็ก” ก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ไฟต์ จนซิวสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 100,000 ดอลลาร์ (ราว 3.8 ล้านบาท ในปัจจุบัน)
#จากบ้านฝางสู่นครบาล
ในหมู่ผู้ชมที่ติดตามมวยไทย 5 ยก ต่างรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของ “เด็ดดวงเล็ก ส.สมหมาย” เป็นอย่างดี เพราะกำปั้นหนุ่มจาก อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ได้รับการจับตามองและถูกคาดหมายว่าจะเป็นมวยดังมาตั้งแต่ยังเป็นนักชกตัวจิ๋ว
“เด็ดดวงเล็ก” มีเส้นทางที่ไม่ได้แตกต่างกับนักมวยไทยทั่วไป ที่เริ่มต้นฝึกหัดชกตั้งแต่อายุยังน้อย ค่อย ๆ ไต่เต้าสร้างชื่อมาตั้งแต่เวทีมวยภูธร จนได้โอกาสเข้ามาต่อยในสนามมวยมาตรฐานในกรุงเทพ ตั้งแต่น้ำหนักยังไม่ถึง 100 ปอนด์
แต่สิ่งหนึ่งที่เขาโดดเด่นและแตกต่างออกไปก็คือ ไอคิวและสมองมวย “เด็ดดวงเล็ก” เป็นนักชกที่ฉลาดแพรวพราว ออกแข้งขวาได้รวดเร็ว แม่นยำ และมีลูกถีบที่ทำได้ดี จนกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาในเวลาต่อมา
ไม่เพียงเท่านั้น “เด็ดดวงเล็ก” ยังเป็นมวยที่แพ้ยาก เพราะเขาตั้งรับจับทางป้องกันตัวดี ตระเวนชกกับมวยดาวรุ่งเกรดเอในรุ่นราวคราวเดียวกันมาทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว จนแทบหาคู่ต่อกรไม่ได้
ด้วยความสามารถที่มีมากกว่าเด็ก ๆ หลายคนในรุ่นอายุเดียวกัน จึงทำให้ “เด็ดดวงเล็ก” ถูกแมวมองดึงตัวเข้ามาอยู่ค่ายยักษ์ใหญ่ในเมืองกรุง ตั้งแต่ยังเรียนอยู่ระดับมัธยมศึกษาต้น
#โอกาสทำตามฝัน
ในช่วงที่ “เด็ดดวงเล็ก” กำลังเติบโตมาเป็นดาวรุ่งที่มีแววเด่นในเมืองไทย ก็เป็นห้วงเวลาเดียวกับที่โลกได้รู้จักกับ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” ซูเปอร์สตาร์มวยไทยผู้มาเจิดจรัส และโด่งดังผ่านการต่อสู้บนเวที ONE
การได้เห็นก้าวย่างที่ยิ่งใหญ่ของ “รถถัง” ผ่านทางหน้าจอถ่ายทอดสด สร้างแรงบันดาลใจให้ “เด็ดดวงเล็ก” อยากไปยืนอยู่ในจุดเดียวกับจอมบู๊รุ่นพี่ชาวไทยให้ได้
เขาจึงฝึกฝนเพื่อพัฒนาศักยภาพตัวเองมาโดยตลอด เพื่อหวังว่าวันหนึ่งหากประตูแห่งโอกาสเปิดขึ้น เขาพร้อมที่ไล่ล่ามันให้อยู่มือ
“ผมดูพี่รถถัง (จิตรเมืองนนท์) ชกใน ONE มาตั้งแต่ผมยังตัวเล็ก ๆ มันเป็นเหมือนสิ่งที่จุดประกายความฝันให้ผมอยากมีโอกาสไปชกในต่างประเทศแบบพี่เขาบ้าง”
“ถึงตอนนี้อายุผมยังน้อย ประสบการณ์น้อยกว่าพี่เขา แต่ในวันข้างหน้าหากผมโตเป็นผู้ใหญ่ ผมอาจพัฒนาตัวเองจนมีดีไปสู้แบบพี่เขาได้”
และแล้วโอกาสที่ “เด็ดดวงเล็ก” เฝ้ารอก็มาถึง เมื่อ ONE จับมือกับ แฟร์เท็กซ์ ไฟต์ โปรโมชั่น ผนึกกำลังสานฝันดาวรุ่งผ่านรายการ Road To ONE ซึ่งเป็นรายการเดียวในประเทศไทย ที่ผู้ชนะเลิศจะได้มีโอกาสเฉิดฉายบนเวทียิ่งใหญ่ระดับโลก
จอมฝีมือวัย 19 ปีถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในแปดผู้เข้าแข่งขันมวยไทย รุ่นฟลายเวต (135 ป.) ซึ่งเต็มไปนักสู้สายพันธุ์บู๊ ขณะที่ “เด็ดดวงเล็ก” กลับเป็นเพียงแค่ไม่กี่คนที่ถนัดในสไตล์ตั้งรับจับทางแบบมวยบ็อกเซอร์ นั่นจึงทำให้ถูกตั้งคำถามและเจอคำวิจารณ์มากมายว่าคงไปไม่รอด
“นับตั้งแต่รู้ตัวว่าได้แข่งรายการนี้ ผมต้องปรับเปลี่ยนตัวเองพอสมควร เพราะไม่เคยใส่นวมเล็ก (4 ออนซ์) มาก่อน รวมถึงสไตล์การชกที่ต้องฝึกการออกอาวุธให้หลากหลายขึ้น เสริมหมัดและศอกเข้ามาด้วย ผมพยายามปรับวิธีการชกให้เป็นมวยที่เดินได้ ถอยเป็น ไม่ใช่รอจังหวะสองอย่างเดียว”
“ผมอ่านเจอคอมเมนต์วิจารณ์ตั้งแต่ยังไม่ทันชกเลยว่า ผมไม่เหมาะกับ ONE บางคนก็บอกว่าผมถอยมากเกินไป แต่ผมคงห้ามความคิดใครไม่ได้”
“สิ่งที่ทำได้คือการเตรียมตัวฝึกซ้อม พยายาม ปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบมวยไทยของ ONE แน่นอนว่ามันไม่ง่าย ต้องใช้เวลา ไม่ใช่อะไรที่ฝึกกันแล้ววันเดียวทำได้ แต่ผมอยากมีความฝันเข้าไปอยู่ใน ONE ดังนั้นผมก็ต้องพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิม จะชกเหมือนเดิมก็คงไม่ได้”
#ฝ่าพายุหมัดศอกสู่แชมป์
ในรอบแรก “เด็ดดวงเล็ก” ประเดิมคว้าชัยเหนือ “ตะเภาทอง สิงห์มาวิน” มวยเข่าจอมเก๋าที่ร้างสังเวียนไปนาน ก่อนผ่านเข้ามาสู่รอบตัดเชือก เจอตัวเต็งอย่าง “ไท สจ.เปี๊ยกอุทัย” น้องชายแท้ ๆ ของ “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” อีกหนึ่งนักมวยไทยของ ONE
“ไฟต์ที่เจอกับ ไท ตัวผมมั่นใจว่าผมสามารถเอาชนะเขาได้ แต่กระแสก่อนชกกับ ไท มีแต่คนคอนเมนต์ว่า ‘นอนยกไหน ?’ แถมคู่ชกยังบอกอีกว่า เขาจะน็อกผมให้ได้ ไม่ต้องพึ่งใบคะแนน มันเป็นแรงผลักดันให้ผมอยากเอาชนะและพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่าผมก็มีดี”
เกมการชก “ไท” เป็นฝ่ายเดินบุกใส่ “เด็ดดวงเล็ก” แจกทั้งหมัดและศอก แต่เขาก็แสดงให้เห็นถึงความนิ่งเกินวัย หาจังหวะสวนคืนและทำแต้มได้ตลอด รวมถึงในบางจังหวะของเกม “เด็ดดวงเล็ก” ก็ฝ่ายเดินทำชิงออกอาวุธก่อนด้วย
จนสุดท้ายเขาชนะคะแนน ไท ผ่านเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ Road To ONE กับ “ซ่อนรัก ศิษย์ ปจว.” นักชกพันธุ์ดุชาวเมียนมา ที่เพิ่งน็อกตัวเต็งอย่าง “สตาร์บอย เพชรเกียรติเพชร” มา
“นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้โอกาสชิงแชมป์ เลยรู้สึกกดดันมาก พี่ซ่อนรักเขาเตรียมตัวดีมาก มีหมัดและศอกที่น่ากลัวจริง ๆ แต่ก็ภูมิใจที่เอาชนะในนัดชิง และได้โอกาสไปต่อยอดใน ONE”
“พอรู้ว่าชนะ ผมรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในฝันเลย (ได้เซ็นสัญญากับ ONE) ผมอยากขอบคุณทุกคนที่มีส่วนผลักดันให้ผมมายืนอยู่จุดนี้ ขอบคุณครอบครัวที่เป็นกำลังใจ ถึงผมจะมีเส้นทางชีวิตที่ไม่เหมือนกับเด็กคนอื่น แต่ผมอยากให้ที่บ้านภาคภูมิใจกับความสำเร็จที่ผมทำได้ ในทางที่ผมเลือกเดิน”
“เด็ดดวงเล็ก” เปลี่ยนแปลงตัวเอง จากมวยที่ตั้งรับอย่างเดียวในเมืองไทย ปรับทรงมาถึงจุดที่เขากล้ายืนแลกบวกอาวุธกับมวยจอมน็อกเอาต์อย่าง “ไท” และ “ซ่อนรัก” ได้อย่างสนุกตื่นเต้น ไม่ได้ถอยหลังเพียงอย่างเดียว แม้ต้องใส่นวมเล็ก 4 ออนซ์ ที่หากพลาดพลั้งอาจถูกเช็คบิลได้ทุกเมื่อ
แต่ “เด็ดดวงเล็ก” ก็ใจถึงพอที่จะฝ่าหมัดของคู่ชก จนซิวแชมป์ Road To ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (135 ป.) ซึ่งเป็นเข็มขัดเส้นแรกในชีวิตของเขา และเป็นใบเบิกทางสู่การไปชกใน ONE ทั้งรูปแบบมวยไทยที่เขาถนัด หรือคิกบอกซิ่งที่ก็ดูเข้ากับสไตล์ของ “เด็ดดวงเล็ก” ไม่น้อยในอนาคต
“ONE คือ เวทีระดับโลกที่ผมอยากไปชก ผมดีใจที่ฝันของผมเป็นจริง หลังจากนี้ต่อไป ผมจะเต็มที่กับการฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาตัวเองไปให้มากกว่านี้”
“ผมอยากไปขึ้นชกโชว์ให้คนดู และบอส (ชาตรี ศิษย์ยอดธง) ได้เห็นว่าผมก็มีดีเหมือนกัน ไม่ใช่แค่ถอยอย่างเดียว แต่ผมเดินทำได้ ถอยตั้งรับเป็น และจะไม่หยุดพัฒนาเองตัวเองครับ”
อ่านเพิ่มเติม: