ซูเปอร์สตาร์ซามูไร “มาซาอากิ” คู่ชก “สิทธิชัย” รู้จักเขาให้มากขึ้นใน 5 เรื่อง
ทำความรู้จัก “มาซาอากิ โนอิริ” นักชกคิกบ็อกซิ่งซูเปอร์สตาร์จากญี่ปุ่น ในวัย 31 ปี ที่ต้องมาดวลฝีมือกับ “Killer Kid” สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง นักชกไทยจอมเก๋าวัย 32 ปี โดยทั้งคู่จะต้องชกกันภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ในศึก ONE 167 : แสตมป์ vs เดนิส ที่จะถ่ายทอดสดจากอิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.นี้
“มาซาอากิ” เพิ่งเซ็นสัญญาเข้ามาสู่ ONE ได้ไม่นาน และเตรียมที่จะประเดิมไฟต์แรกที่นี่ ซึ่งชีวิตตั้งแต่วัยเด็กจนมาถึงทุกวันนี้ของนักชกรายนี้ ผ่านมาแล้วมากมายหลายอย่าง วันนี้เราขอพาไปทำความรู้จักกับนักสู้ซุปตาร์คิกบ็อกซิ่งรายนี้ให้มากขึ้น
#ชีวิตในรั้วโรงเรียนไม่น่าพิสมัย
เส้นทางชีวิตของ “มาซาอากิ” เริ่มต้นในเมืองนาโกยา โดยเป็นน้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องสามคน ซึ่งแม้จะมีความชุลมุนและวุ่นวายระหว่างพี่น้องอยู่บ้าง แต่ชีวิตครอบครัวของเขาเป็นไปอย่างสวยงาม
แต่เมื่อเข้าสู่รั้วโรงเรียนของ “มาซาอากิ” นั้นไม่น่าพิสมัยนัก เขามีช่วงเวลาที่ยากลำบากในช่วงแรก ๆ จากการถูกรังแกและหนักถึงขั้นถูกทำร้ายร่างกาย โดยเจ้าตัวได้เล่าย้อนถึงช่วงเวลานั้นไว้ว่า
“ตอนเด็ก ๆ ผมเคยถูกรังแกบ่อย ๆ ตอนอยู่ ป.2 ผมเป็นเด็กที่เตี้ยที่สุดเป็นอันดับรองโหล่ของชั้นเรียน เด็กคนที่เตี้ยที่สุดจะชอบแหย่ผม พวกเขาจะลากผมไปที่โถงทางเดินในอาคารเรียนแล้วทุบตีผม ทั้งที่ผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลย”
เส้นทางนักสู้เข้าแล้วออกไม่ได้
พอมาถึงอายุราว ๆ 7 ขวบ “มาซาอากิ” ได้รู้จักกับศิลปะการต่อสู้ชนิดแรกนั้นก็คือ “คาราเต้” จากการที่มีเพื่อนของพี่ชายคนกลางเป็นคนนำพาให้รู้จักเส้นทางการต่อสู้ และ นี่คือจุดเปลี่ยนแรกของชีวิตของเขา
“ผมเริ่มเล่นคาราเต้ในเดือนธันวาคม ตอนอยู่ ป.2 ตอนที่ผมโดนรังแก เพื่อนของพี่ชายคนกลางของผมเข้ามาขัดขวาง ซึ่งเพื่อนพี่คนนั้นเล่นคาราเต้ ผมเลยเกิดสนใจขึ้นมา”
โดยหลังจากเริ่มฝึกไปได้เรื่อย ๆ จากเดิมที่แค่ต้องการเรียนรู้เพื่อป้องกันตัว แต่แล้ว “มาซาอากิ” ก็ตกหลุมรักการต่อสู้จนทำให้เขาเอาจริงเอาจังในด้านนี้จนสามารถประสบความสำเร็จครั้งแรกบนเส้นทางนักสู้
“ผมแค่อยากจะเก่งขึ้น ผมเลยเริ่มเล่นคาราเต้ ผมตื่นเต้นมากกับการเรียนครั้งแรก พี่ชายกับพ่อผมก็เริ่มฝึกพร้อมกัน ในอีกราว ๆ สามเดือนต่อมา ผมก็ลงแข่งครั้งแรก แต่พ่อกับพี่ชายคนโตของผมเลิกไปก่อน ตามด้วยพี่คนกลาง คนอื่น ๆ เลิกกันหมด ผมยังคงเล่นต่อเพราะผมสนุก และถ้าเลิกผมก็ไม่รู้จะไปทำอะไร”
“ผมไม่คิดว่าตัวเองมีแววด้านนี้เลย ในแมตช์แรก ๆ ที่ลงแข่งขัน ผมแพ้เด็กผู้หญิงและผมก็ร้องไห้ฟูมฟายแต่ผมนับถือพี่คนหนึ่งที่ผมชื่นชม และผมก็ยังคงเล่นคาราเต้ต่อไปเพราะผมปลื้มเขามาก”
# คิกบ็อกซิ่งพลิกชีวิต
หลังจากที่ลงแข่งคาราเต้ มาเรื่อย ๆ จนสามารถประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับภูมิภาคและระดับประเทศตั้งแต่อยู่ชั้นประถม หลังจากนั้นพาอายุได้ 11 ปี ชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปจากการได้รู้จักกับกีฬา “คิกบ็อกซิ่ง” เป็นครั้งแรก และทำให้เขาเริ่มจริงจังกับสิ่งใหม่ของชีวิต
“ในตอนแรกคิกบ็อกซิ่งเป็นแค่ส่วนเสริมของคาราเต้สำหรับผม ผมเล่นคิกบ็อกซิ่งเต็มรูปแบบตอนอยู่ม. 2 จากนั้นผมก็เริ่มลงแข่งคิกบ็อกซิ่งสมัครเล่น”
“ในตอนแรก ผมไม่ได้จริงจังและไม่ได้สนใจศิลปะการต่อสู้มากนัก แต่พอผมแพ้ในรอบรองชนะเลิศของทัวร์นาเมนต์ มีคนบอกผมว่า ‘ถ้าไม่มีใจ ก็เลิกแข่งซะ!’ คำพูดนั้นทำให้ผมเกิดความมุ่งมั่นที่จะแก้แค้นอย่างจริงจัง”
#ความกล้านำพาสู่ความสำเร็จ
จากจุดเริ่มต้นการเป็นนักสู้ที่ต้องการเรียนรู้เพื่อเอาไว้ป้องกันตัว แต่เมื่อมาถึงจุดหนึ่งของชีวิต “มาซาอากิ” เลือกใช้การต่อสู้เป็นอาชีพหลักเลี้ยงชีพ โดยเขาเริ่มต่อสู้อย่างจริงจังและกวาดความสำเร็จมากมายในบ้านเกิด โดยสั่งสมประสบการณ์สถิติ ชนะ 49 ครั้ง จากทั้งหมด 60 ไฟต์ ที่ลงแข่งขันตลอดอาชีพ พ่วงด้วยตำแหน่งแชมป์โลก K-1 สองรุ่น และแชมป์ K-1 กรังด์ปรีซ์ โดยเขาตั้งใจจะต่อสู้เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนต่อไป
“ตอนที่ผมโดนรังแกในวัยเด็ก ผมไม่ยอมพูดเรื่องนี้กับใครเพราะผมอาย ผมเลยเก็บไว้กับตัวเอง”
“ผมคิดว่ามีเด็ก ๆ ทั่วโลกตกอยู่ที่นั่งเดียวกับผม และผมอยากจะต่อสู้และเป็นแรงบันดาลใจถ่ายทอดความกล้าแก่พวกเขาที่ดูการชกของผมอยู่”
#ด่านทดสอบบนเวทียิ่งใหญ่ระดับโลก
จากความสำเร็จระดับซูเปอร์สตาร์ของญี่ปุ่น “มาซาอากิ ” ต้องการท้าทายฝีมือตัวเองในอีกขั้น โดยตัดสินใจย้ายบ้านสู่ชายคาองค์กรศิลปะการต่อสู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
“มาซาอากิ” จะได้พิสูจน์ตัวในด่านแรกบนสังเวียน ONE โดยจะต้องปะทะกับ “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ตำนานนักชกคิกบ็อกซิ่งชาวไทย ที่มากด้วยประสบการณ์และฝีมือ
โดยที่ “มาซาอากิ” ตั้งใจว่าไฟต์นี้จะประกาศศักดาล้มตำนานนักชกไทย เพื่อแจ้งเกิดในฐานะนักชกคิกบ็อกซิ่งจากแดนซามูไร ตามรอยเพื่อนร่วมทีม “ทาเครุ เซกาวา” สุดยอดนักสู้คิกบ็อกซิ่งรุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ที่เคยเปิดตัวบนเวที ONE มาแล้วแบบประทับใจแฟน ๆ ทั่วโลก
ติดตาม “มาซาอากิ vs สิทธิชัย” ศึก ONE 167: แสตมป์ vs เดนิส ถ่ายทอดสดจากอิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี วันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.67 จองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 07.00 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 10.00 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 07.00 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 07.00 น.
- Watch.ONEFC.com เริ่ม 07.00 น.