ย้อนสังเวียนชีวิต “โจเซฟ ลาซิรี” จากม้านอกสายตา สู่การโค่นบัลลังก์ “พระจันทร์ฉาย”
ทำความรู้จัก “โจเซฟ ลาซิรี” กำปั้นนอกสายตา ผู้ประกาศศักดาโค่นบัลลังก์ “พระจันทร์ฉาย” ขึ้นแท่นแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวตคนใหม่แบบหักปากกาเซียน
หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ กราฟชีวิตของ “The Hurricane” โจเซฟ ลาซิรี ไม่สวยงามอย่างที่หลายคนคิด เพราะเขาเปิดตัวกับ ONE ใน 4 ไฟต์แรกได้อย่างน่าผิดหวัง พ่ายเรียบให้กับทั้ง “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว”, “สิงห์ทองน้อย ป.เตละกุล”, “จอช ทอนนา” และ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” จนกลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยในศักยภาพด้านมวยไทย
อย่างไรก็ตาม เมื่อนักสู้วัย 30 ปีรายนี้ค้นพบเข็มทิศชีวิต เปลี่ยนรุ่นมาอยู่ในพิกัดสตรอว์เวตที่ถนัด ทำให้ฟอร์มของเขาดีขึ้นผิดหูผิดตา ทะยานขึ้นมายึดตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 1 ของแรงกิง ก่อนจะใช้ความอึดเผด็จศึก “พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ครองบัลลังก์แชมป์โลกได้แบบสุดเซอร์ไพรส์ ในศึก ONE 157: เพชรมรกต vs จิมมี เมื่อวันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา
แต่กว่าที่ โจเซฟ จะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เราจึงจะพาไปย้อนเส้นทางของนักมวยจากแดนมักกะโรนีรายนี้ว่าที่ผ่านมาเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง
#เติบโตที่มิลาน
โจเซฟ เป็นลูกคนที่ 3 จากทั้งหมด 4 คน ของครอบครัวชาวโมร็อกโกที่ย้ายมาปักหลักอยู่ในอิตาลี เขาเติบโตมาในย่านมอนซา ทางตอนเหนือของเมืองมิลาน โดยที่พ่อแม่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเลี้ยงดูลูก ๆ เนื่องจากฐานะทางการเงินไม่ดีนัก
แม้ในวันเด็ก โจเซฟ จะไม่ค่อยชอบการเรียนเท่าไหร่ แต่เขาก็หาทางออกให้กับตัวเองด้วยการเล่นกีฬา โดยไม่หลงผิดไปกับสิ่งยั่วยุรอบตัว
#ฝึกวิชาการต่อสู้จากความแค้น
ในวันเยาว์ โจเซฟ ก็เหมือนเด็กคนอื่น ๆ ที่หลงรักและชื่นชอบฟุตบอล ซึ่งเป็นกีฬายอดฮิตของอิตาลี ทำให้เขาได้มีทางระบายพลังงานแล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสยกระดับคุณภาพชีวิตของตัวเองและครอบครัวในอนาคตอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ความหวังก็ทลายลงไปกับตา เมื่อเขาถูกเขี่ยออกจากทีมเพียงเพราะว่าตัวเล็กเกินไป ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกแค้นใจมาก และเปลี่ยนการดูแคลนนี้เป็นแรงผลักดันในการฝึกฝนวิชามวยไทย เพื่อลบคำสบประมาททั้งหมด
แม้จะหันมาเอาจริงเอาจังด้านมวยไทย แต่ก็ไม่วายโดนตั้งข้อสงสัยจากพ่อของเขาเอง ที่อดเป็นห่วงลูกชายไม่ได้ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน เพราะด้วยความที่ตัวเล็กและผอมเกินไปอาจโดนถูกปฏิเสธอีกครั้ง แต่ โจเซฟ ก็มุ่งมั่นฝึกซ้อมเพื่อพิสูจน์ตัวเอง
#ครอบครัวมาก่อน
จากวิกฤติเศรษฐกิจในอิตาลีก่อนหน้านี้ ทำให้เขาต้องถอดนวมชั่วคราวเพื่อช่วยครอบครัวหาเงิน ด้วยการย้ายไปทำงานในร้านอาหารที่กรุงลอนดอน ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับหนุ่มอิตาเลียนที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่อย่างน้อยความลำบากก็สอนให้เขารู้จักการเอาตัวรอด รวมถึงนำเอาความมุ่งมั่นและระเบียบวินัยมาปรับใช้กับการเล่นกีฬา
“สิ่งที่ผมเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้คือ คุณสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบากได้ตลอดเวลา ความลำบากสอนคุณเสมอว่า เมื่อผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ หลังจากนั้นอะไรก็จะง่ายขึ้นเสมอ และมันช่วยผมได้มากในการเล่นกีฬา เพราะทำให้ผมมีระเบียบวินัยและความมุ่งมั่น และนั่นหมายความว่าผมจะสู้เพื่อเป้าหมายของตัวเอง”
#ก้าวสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่
ถึงแม้จะต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำในร้านอาหาร แต่ โจเซฟ ก็ยังเจียดเวลาฝึกซ้อมมวยอยู่ไม่เคยขาดเพื่อพัฒนาฝีมือ ทำให้ในเวลาต่อมา โจเซฟ สามารถคว้าแชมป์ต่าง ๆ ได้มากมายทั้งในอิตาลีและยุโรป รวมถึงแชมป์โลกมวยไทยของ WBC ในเดือนกุมภาพันธ์ 2560
กระทั่งเมื่อปี 2561 ก็ได้รับการทาบทามให้เข้ามาอยู่ในสังกัดของ ONE และในที่สุด เขาก็สามารถโชว์ฝีมือฝ่ากระแสคำสบประมาทต่าง ๆ นานา จนประสบความสำเร็จในฐานะราชันมวยไทย รุ่นสตรอว์เวต คนล่าสุด
อ่านเพิ่มเติม:
- “รถถัง – ซุปเปอร์เล็ก” ขึ้นสังเวียน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ มีลุ้นชนนวมรอบชิง!
- สรุปผลและประมวลภาพศึก ONE 157 เพชรมรกต vs จิมมี
- เปิดโผ 3 ผู้กล้าท้าชนแชมป์โลกป้ายแดง “โจเซฟ ลาซิรี”