รู้จักดาวรุ่งก้านยาว 192 ซม. “นาบิล อานาน” ผู้พิชิตนักชกแถวหน้า คว้าสัญญา ONE ฉบับที่ 19
“นาบิล อานาน” ดาวรุ่งหมัดยางยืด วัย 20 ปี เชื้อสายไทย – แอลจีเรีย – ฝรั่งเศส สร้างชื่อให้กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกได้อย่างสวยงาม หลังทำผลงานขั้นเทพ ขนอาวุธยาวใหญ่ ไล่ถล่มเอาชนะน็อกรุ่นพี่สายโหด “ซ้ายอุกกาบาต” กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย ยอดมวยหมัดหนัก วัย 25 ปี จากสุรินทร์ ได้อย่างราบคาบ ในศึก ONE ลุมพินี 69 เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยผลงานของ “นาบิล” ในไฟต์นี้แม้จะขยับขึ้นมาชกในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ครั้งแรก แต่เจ้าตัวยังคงพิสูจน์ให้เห็นถึงความเก่งกาจของฝีมือ และการใช้ช่วงชกที่ยาวกว่าให้เป็นประโยชน์ จากการรักษาระยะโจมตีด้วยหมัด และใช้เข่าดักเล่นงาน “กุหลาบดำ” ที่พยายามจะเข้ามาโจมตีในระยะประชิดอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะปิดเกมชนะน็อกไปได้ในยกที่ 2 เก็บสถิติคว้าชัย 3 ไฟต์รวด พร้อมคว้าโบนัส 3.5 แสนบาท ได้เป็นครั้งที่ 2
หลังพิสูจน์ตัวเองด้วยการคว่ำบรรดานักชกรุ่นพี่ตัวตึง 3 ไฟต์ติดต่อกัน ทำให้ บิ๊กบอส “ชาตรี” ไม่รอช้า มอบสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.6 ล้านบาท) ให้เป็นของรางวัลสุดพิเศษแก่ “นาบิล” ทันที ซึ่งเจ้าตัวได้กล่าวเปิดใจถึงความรู้สึกที่ได้ชื่อว่าเป็นนักกีฬาอาชีพระดับโลกอย่างเป็นทางการ รวมถึงเป้าหมายหลังจากนี้ว่า
“ตอนที่พิธีกรประกาศว่าผมได้รับสัญญาเข้า วัน แชมเปียนชิพ ผมรู้สึกดีใจมาก ๆ ในที่สุดก็ถึงเวลาของตัวเองสักที หลังจากต้องชกกับตัวเต็งมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นไฟต์แรกที่เปิดมาก็เจอ ซุปเปอร์เล็ก (เกียรติหมู่ 9) ไม่รู้ว่าใครเป็นแบบผมหรือเปล่า เพิ่งเข้ารายการมาก็เจอแชมป์โลกเลยครับ”
“ไฟต์สองเจอ พี่นักรบ (แฟร์เท็กซ์) ไม่ได้ต่างกันเลย เขาฟอร์มสดมาตลอด ชนะมาทุกคน ยกเว้นพ่ายแพ้ผมไป ส่วนไฟต์ที่สามพบกับ พี่เมืองไทย (พีเค.แสนชัย) หลาย ๆ คนก็รู้จักอยู่แล้ว เป็นแนวหน้าของประเทศไทย ชกมวย 5 ยก มาสุดยอดจริง ๆ สุดท้ายเป็น พี่กุหลาบดำ แต่ละคนถือเป็นแนวหน้าทั้งนั้นครับ”
“เป้าหมายต่อจากนี้อยู่ที่ทางทีมงาน ONE ว่าจะประกบให้ผมเจอกับใคร ผมพร้อมทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเหมือนเดิม ตอนนี้ชกเสร็จแล้วจะกลับมาถ่ายวิดีโอสนุก ๆ ให้ทุกคนดูเหมือนเดิม ขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งที่เป็นกำลังใจให้ผม รักทุกคนมาก ๆ ครับ”
สำหรับ “นาบิล” เกิดและเติบโตที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี รู้จักศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ โดยเริ่มจากฝึกเทควันโดและคาราเต้ ถึงขั้นได้สายดำทั้งสองประเภท กระทั่งอายุได้ 11 ปี คุณพ่อเกิดอยากให้ลองฝึกมวยไทย กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้ “นาบิล” เริ่มฝึกซ้อม และเมื่อได้สัมผัสก็ยิ่งตกหลุมรัก ก่อนจะตัดสินใจหันมาทุ่มเทซ้อมมวยไทยอย่างเต็มตัว ที่ค่ายมวยเพชรรุ่งเรือง
หลังจากฝึกซ้อมมาได้ประมาณ 3 เดือน “นาบิล” ได้โอกาสขึ้นชกไฟต์แรก ที่เวทีมวยเทพประสิทธิ์ พัทยา ซึ่งแม้จะพบกับคู่ชกที่เก๋าประสบการณ์กว่า แต่สุดท้ายก็กัดฟันฮึดสู้เอาชนะมาได้ ก่อนจะค่อย ๆ ฉายแววเด่นชัดขึ้น จนได้โอกาสเข้ามาโชว์ฝีมือในเมืองกรุง ซึ่ง “นาบิล” ยังคงสามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ไล่ปราบเหล่าดาวรุ่งด้วยกันอย่างต่อเนื่องจนมีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ
ขณะที่ในด้านของความสำเร็จ “นาบิล” ผงาดคว้าแชมป์มาครองได้อย่างมากมาย เช่นการคว้าแชมป์โลก WBC มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (126 ป.) และรุ่นไลต์เวต (135 ป.) และการคว้าเหรียญทองมวยสมัครเล่น IFMA รุ่น 38 กก. เป็นต้น
หลังจากไล่ถล่มคู่ต่อสู้จนแทบไร้คู่ต่อกร “นาบิล” ได้รับโอกาสให้เข้ามาพิสูจน์ตัวเองในศึก ONE ลุมพินี 22 พบกับ “ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9” ซึ่งแม้จะถูกรุ่นพี่ดีกรีแชมป์โลก ไล่ต้อนสอนมวยจนพ่ายน็อกแบบหมดสภาพในยกแรก แต่ “นาบิล” ไม่ท้อกลับไปถอดบทเรียน มุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาฝีมือ ก่อนจะกลับมาคว้าชัยได้ 2 ไฟต์ติดต่อกันเหนือ “นักรบ แฟร์เท็กซ์” และ “เมืองไทย พีเค.แสนชัย”
ล่าสุดเมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา “นาบิล” ระเบิดฟอร์มอัดน็อก “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” ยกสอง ทะยานคว้าชัยเหนือนักชกรุ่นพี่ที่ได้ชื่อว่าเป็นมวยระดับแถวหน้าได้ 3 ไฟต์รวด จนสามารถคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครองได้สำเร็จ และกลายเป็นอีกหนึ่งนักชกตัวอันตรายในกติกามวยไทยรุ่นแบนตัมเวต ที่หลังจากนี้ทุกคนต่างจับตาว่า “นาบิล” จะพาตัวเองไปได้ไกลถึงขนาดไหน
แฟนกีฬาสามารถติดตามข่าวสารอัปเดตได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh
