รู้จักน้องใหม่ “โทมัส นาร์โม” จากอดีตนักไอซ์ฮอกกีสู่สังเวียนนักสู้
“The Last Viking” โทมัส นาร์โม อดีตนักไอซ์ฮอกกีจากแดนไวกิง พร้อมเขย่าสังเวียนรุ่นยักษ์ในการปรากฏตัวครั้งแรกบนเวที วัน แชมเปียนชิพ กับศึก ONE: BATTLEGROUND II วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคมนี้ในรูปแบบการแข่งขัน โดยต้องเจอด่านหินอย่างนักสู้จอมพลังรุ่นป๋า “The Panther” อเล็น เอ็นกาลานี ที่รับอาสามารับน้องใหม่ให้เวทีสะเทือน
แต่ก่อนที่จะได้ชมฝีมือของนักสู้น้องใหม่ป้ายแดงชาวนอร์เวย์ เราไปทำความรู้จักที่มาที่ไปของเขากันก่อนว่าเส้นทางชีวิตก่อนก้าวขึ้นสู่สังเวียนระดับโลกนั้นต้องผ่านอะไรมาบ้าง
#เติบโตในสแกนดิเนเวีย
โทมัส เกิดและเติบโตในเชตเทน ประเทศนอร์เวย์ เมืองเล็ก ๆ ห่างจากกรุงออสโลไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 20 กิโลเมตร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นย่านชุมชนแออัด โดยเขาอาศัยอยู่กับ “อุนนิ” แม่ของเขาซึ่งมีอาชีพทำความสะอาดและรับจ้างทั่วไป ส่วนพ่อแยกไปมีครอบครัวใหม่และมีพี่น้องต่างแม่อีก 2 คน
ชีวิตในวัยเด็กของ โทมัส ไม่ได้ราบรื่นและเพียบพร้อมทุกอย่าง แต่เขาก็มีความสุขตามอัตภาพในประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามั่งคั่งและมีระบบสวัสดิการสังคมแข็งแรงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ยิ่งไปกว่านั้น ความไม่พร้อมกลับสอนเขาให้แข็งแกร่งเกินวัยเนื่องจากต้องช่วยเหลือตนเองทุกอย่างตั้งแต่อายุ 6 ขวบ
#นักไอซ์ฮ็อกกีทีมชาติ
https://www.instagram.com/p/CFZxwmvJTdz/
โทมัส พบว่าสิ่งที่เขามีความสุขมากที่สุดคือการได้ลงแข่งขันในกีฬาประเภทต่าง ๆ อย่างว่ายน้ำและฟุตบอลกลายเป็นงานอดิเรกที่เขาหลงใหล แต่ต่อมา เขาก็ตกหลุมรักครั้งใหม่กับกีฬาไอซ์ฮ็อกกีที่เขาบอกว่าเป็นกีฬาที่ดึงเอาศักยภาพและพรสวรรค์ที่เขามีออกมาได้ชัดเจนที่สุด
โทมัส เริ่มฝึกไอซ์ฮอกกีเมื่ออายุได้ราว 10-11 ขวบ ซึ่งถือว่าช้ากว่าเด็กคนอื่นที่มักเริ่มกันตั้งแต่ 6 ขวบ แต่ด้วยพรสวรรค์ที่มีบวกกับการทุ่มเทฝึกซ้อมทำให้เขาพัฒนาฝีมืออย่างก้าวกระโดดจนสามารถติดทีมชาตินอร์เวย์ในวัยเพียง 15 ปี ทั้งยังสามารถก้าวขึ้นไปเล่นในระดับอาชีพในประเทศฟินแลนด์ที่ถือว่ามีชื่อเสียงระดับโลกด้านกีฬาไอซ์ฮอกกีด้วย
#ทิ้งความฝันไว้ที่ลานสเกต
โทมัส ต้องเผชิญกับจุดพลิกผันครั้งสำคัญในชีวิตนักกีฬาอาชีพ เมื่อเขาประสบอุบัติเหตุแผ่นหลังไปกระแทกกับน้ำแข็งจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องจบเส้นทางนักไอซ์ฮ็อกกีเมื่ออายุ 20 ปี
หลังจากนั้น โทมัส ผันตัวเองมาเป็นโค้ชและประสบความสำเร็จในการฝึกสอนทีมเยาวชนท้องถิ่น ทำให้เขาได้รับโอกาสเป็นโค้ชให้กับทีมนักกีฬารุ่นใหญ่ในเวลาต่อมา แต่ดูเหมือนว่าหัวใจของเขาจะค้นพบสิ่งใหม่ที่ชอบมากกว่าเขาจึงตัดสินใจปฏิเสธโอกาสนั้น และเลือกเดินบนเส้นทางใหม่ที่จะเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล
#หลงรักมวยไทยโดยบังเอิญ
ระหว่างการพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บที่หลัง โทมัส ต้องฟื้นฟูร่างกายด้วยการยกน้ำหนัก แต่เขาเริ่มเบื่อและมองหาแรงจูงใจใหม่ ๆ ให้ตัวเองได้ฟื้นฟูทั้งสภาพร่างกายและจิตใจไปพร้อมกัน โดยเขาได้รับคำแนะนำจากหมอว่าให้ลองเล่นมวยปล้ำดู เขาจึงหาที่ฝึกแถวบ้าน
โทมัส ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามวยปล้ำคืออะไร สุดท้าย เขาไปสมัครเรียนในคลาสมวยไทยด้วยความเข้าใจผิดว่าเป็นกีฬามวยปล้ำ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะหลงรักมวยไทยอย่างเต็มเปา โดยหลังจากฝึกอยู่สองสัปดาห์ เขาลงสังเวียนจริงเป็นครั้งแรก แต่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้เพราะไม่มีประสบการณ์และไม่แข็งแรงพอ
อย่างไรก็ตาม การก้าวสู่สังเวียนการต่อสู้ครั้งแรกก็ทำให้ โทมัส รู้ชัดว่าสิ่งที่ทำให้ชีวิตที่เหลือของเขามีความหมาย คือศิลปะการต่อสู้
#เบนเข็มสู่ MMA
https://www.instagram.com/p/CILkcE8JkA0/
โทมัส มุ่งมั่นที่จะเป็นนักสู้มืออาชีพ โดยแสวงหาโอกาสทุกวิถีทางเพื่อพัฒนาฝีมือกับเหล่านักสู้มืออาชีพเพื่อสั่งสมประสบการณ์ แต่ด้วยกฎหมายของนอร์เวย์ที่ห้ามการแข่งขันระดับอาชีพในประเทศ เขาจึงต้องออกเดินทางไปแข่งขันในเวทีต่างประเทศ
เขาลงแข่งในระดับสมัครเล่นก่อนที่จะเทิร์นโปรในปี 2562 โดยสั่งสมสถิติแบบไร้มลทินชนะ 4 ครั้งรวด และเป็นการเอาชนะแบบไม่ครบยกทุกครั้ง
ผลงานอันยอดเยี่ยมของ โทมัส เตะตา ONE เข้าอย่างจัง เขาจึงได้มีโอกาสได้ปรากฏตัวบนเวทียิ่งใหญ่ระดับโลก แม้เขาจะยังค่อนข้างใหม่ในกีฬานี้ แต่ความสามารถและทัศนคติแบบมืออาชีพของเขาก็เพียงพอที่จะสร้างจุดเริ่มต้นที่ดีบนถนนสายนักสู้
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสให้ลงแข่งในวัน แชมเปียนชิพ ผมตื่นเต้นมากเพราะฝันอยากลงแข่งในเอเชียมาตลอด เป้าหมายของผมคือการได้ขึ้นชกใน ONE และตอนนี้ฝันของผมก็ใกล้เป็นจริงแล้ว ผมพร้อมสุด ๆ สำหรับการแข่งครั้งนี้ เวลาของผมมาถึงแล้ว”
อ่านเพิ่มเติม: