รู้จัก “ล่ามแฟรงค์” ชายผู้ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้สึกนักกีฬา ผ่านลีลาการแปลเฉพาะตัว
ทำความรู้จัก “แฟรงค์” ล่ามประจำศึก ONE ลุมพินี ผู้ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้สึกของนักกีฬา ผ่านลีลาการแปลและสำเนียงอันโดดเด่น จนกลายเป็นขวัญใจของผู้ชมทั่วโลก
ตลอดระยะเวลาเกือบสิบเดือนที่ผ่านมาของศึก ONE ลุมพินี แฟนรายการทุกคนคงคุ้นหน้าคุ้นตาของ “แฟรงค์” กันเป็นอย่างดี ในฐานะล่ามคู่ใจของ “มิทช์ ชิลสัน” พิธีกรเจ้าเสน่ห์ประจำรายการ ที่สามารถทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้สึกของนักกีฬาบนเวที สู่สายตาผู้ชมมากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก ได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยทักษะการแปลภาษาที่ทั้งรวดเร็ว และยังสามารถสื่ออารมณ์ได้อย่างลึกซึ้งถึงใจ จนทำให้ได้รับคำชมจากแฟนทั่วโลกอย่างไม่ขาดสาย และกลายเป็นอีกหนึ่งสีสันของรายการที่แฟน ๆ เฝ้ารอรับชมทุกสัปดาห์
แต่กว่าที่เราจะได้เห็น “แฟรงค์” ทำหน้าที่ล่ามได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกวันนี้ เขามีเคล็ดลับการฝึกฝนยังไง และทำไมจึงหลงใหลในศาสตร์ภาษาอังกฤษ รวมไปถึงจุดเริ่มต้นในการเข้ามาร่วมงานกับ ONE วันนี้เราจะขออาสาพาทุกท่านไปเจาะลึกทำความรู้จักชายคนนี้ ผู้เป็นเจ้าของวลีเด็ด “คุณได้รับเงินโบนัสจากคุณชาตรี สามแสนห้าหมื่นบาทคร้าบ” ให้มากยิ่งขึ้นในทุกมิติ
“แฟรงค์” มีชื่อจริงว่า นายกิตติพงศ์ ชัยวิทิตวาณิชย์ ปัจจุบันอายุ 28 ปี โดย “แฟรงค์” เกิดและเติบโตมาในครอบครัวเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่ในย่านเยาวราช ก่อนจะเจอจุดเปลี่ยนให้หันมาสนใจในภาษาอังกฤษ สมัยเรียนในระดับชั้นประถม หลังได้รับคำชมเรื่องลายมือภาษาอังกฤษที่ดูสวยงามจากคุณครู จนทำให้ “แฟรงค์” เริ่มหลงใหลในภาษาอังกฤษ และมุ่งมั่นฝึกฝนทักษะจากการฟังเพลงสากล การดูภาพยนตร์ต่างชาติ โดยเฉพาะการเล่นเกมที่ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ให้ “แฟรงค์” ได้มากที่สุด
“การเล่นเกมถือว่าช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ของผมได้เยอะเลยครับ เพราะระหว่างเล่น ผมจะพยายามพูดเลียนแบบตัวละครในเกม ซึ่งเกมที่เล่นหลัก ๆ ที่ผมเล่นก็จะมีวัฒนธรรมอเมริกันค่อนข้างเยอะ ยกตัวอย่างเช่นเกม GTA : San Andreas เป็นเกมที่ผมเล่นตลอด จนทำให้ผมซึมซับในเรื่องของสำเนียงจากในเกมเข้าไปโดยไม่รู้ตัว จนทำให้ผมมีสำเนียงการพูดภาษาอังกฤษออกมาประมาณนี้”
“แฟรงค์” เริ่มใช้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนได้ใช้ทักษะนี้ในการทำงานครั้งแรกสมัยเป็นนักศึกษาในรั้ว มศว.ประสานมิตร ในฐานะไกด์นำชมพิพิธภัณฑ์ รวมถึงยังเคยทำงานเป็นโฆษกให้กับรายการแข่งขันฟุตซอลระดับนานาชาติ โดยหลังทำงานด้านเสียงมาสักระยะ “แฟรงค์” จึงเริ่มฝากเสียงไว้กับสตูดิโอต่าง ๆ ก่อนจะเริ่มมีงานรับจ้างพากย์เสียง โดยปัจจุบันมีโฆษณาหลายชิ้นที่ “แฟรงค์” เป็นผู้ลงเสียง ถูกเผยแพร่ออกไปทั้งในประเทศไทย และในระดับอินเตอร์ฯ
ด้วยความสามารถด้านภาษาอังกฤษและน้ำเสียงที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่น ทำให้ “แฟรงค์” ได้รับโอกาสครั้งสำคัญ ในการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน ONE ในฐานะล่ามประจำรายการ ของศึก ONE ลุมพินี
“มีโปรดิวเซอร์ท่านหนึ่ง เขาเป็นคนแนะนำผมให้มาลองงานกับทาง ONE ครับ ซึ่งในตอนแรกผมเข้าใจว่าจะเป็นการแปลภาษาสำหรับจากทางห้องส่ง แต่พอมาถึงหน้างานจริง ๆ คือผมต้องขึ้นไปแปลบนเวทีครับ นั่นแหละครับจุดเริ่มต้นของผมในการทำงานเป็นล่ามให้กับ ONE ตั้งแต่เดือนม.ค. มาจนถึงตอนนี้”
“งานนี้ค่อนข้างกดดันเลยครับ เพราะด้วยความที่ผมไม่ได้ดูมวยแบบลึกมาก ทำให้ต้องศึกษาค่อนข้างเยอะในเรื่องของคำศัพท์ต่าง ๆ ต้องเตรียมตัวเยอะมากเพื่อที่จะใช้ในการสัมภาษณ์บนเวที ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่สอง ผมเกือบจะถอดใจไม่มาทำงานแล้ว เพราะผมรู้สึกว่างานตรงนี้มันไม่ใช่ ก่อนหน้านี้ตัวผมเองไม่เคยทำงานออกหน้ากล้องมากนัก แต่ผมก็ฮึดสู้ แล้วก็สู้มาจนถึงทุกวันนี้ครับ”
จากจุดเริ่มต้นในการทำงานกับ ONE ลุมพินี นัดปฐมฤกษ์ ในเดือน ม.ค. มาจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลาเกือบ 10 เดือนเต็ม ที่ “แฟรงค์” สามารถเอาชนะใจตัวเองในการก้าวข้ามคอมฟอร์ตโซน ทดลองทำในสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าการได้ร่วมงานกับองค์กรระดับโลกอย่าง ONE กลายเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของชีวิต ที่นอกจากจะทำให้ตนมีชื่อเสียงมากขึ้นแล้ว ยังทำให้กลายเป็นคนที่ตื่นตัวและพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองตลอดเวลา
“การทำงานกับ ONE เปลี่ยนชีวิตไปมากพอสมควรเลยครับ มีหลาย ๆ ท่านที่คอยติดตามผลงานการแปลของผมอยู่ หลาย ๆ ท่านก็คอยให้กำลังใจ ตัวผมเองก็ได้เริ่มในสิ่งใหม่ ๆ ความท้าทายใหม่ ๆ ฝึกการปรับตัว แล้วด้วยความที่การทำงานกับ ONE ทุกอย่างมันต้องออกมาดีที่สุดเท่านั้น ห้ามมีข้อผิดพลาด มันทำให้เราเป็นคนตื่นตัวตลอดเวลา และพยายามทำหน้าที่และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เพื่อรายการและผู้ชมทางบ้านครับ”
นอกจากการทำหน้าที่เป็นล่ามให้กับรายการ ONE ลุมพินี ในทุกคืนวันศุกร์ “แฟรงค์” ยังคงรับงานพากย์เสียงให้กับผู้ว่าจ้างทั้งไทยและต่างชาติ รวมไปถึงการทำงานในบริษัทเพลย์เอทีฟ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตของเล่นเพื่อการศึกษา ร่วมกับทางสวทช. ที่ตัวเองเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง
ปิดท้าย “แฟรงค์” อยากขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่คอยให้กำลังใจกันมาตลอด และให้คำมั่นสัญญาจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อมอบความสุขให้กับแฟนรายการทุกคนเหมือนตลอด 10 เดือนที่ผ่านมา
“นอกจากการทำงานเป็นล่ามให้กับ ONE แล้ว ผมยังมีงานในเรื่องของการพากย์เสียง ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ให้กับทางโฆษณาทีวี วิทยุ เสียงตามสาย พากย์ให้กับองค์กรต่าง ๆ ด้วย แล้วก็งานที่บริษัทเพลย์เอทีฟ ซึ่งตัวผมเองเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งครับ โดยผมตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาเพื่อผลิตของเล่นเพื่อการศึกษา และอยากจะให้น้อง ๆ ได้มีสิทธิ์ในการเข้าถึงการศึกษาที่เข้าใจง่าย เล่นได้สนุกครับ”
“อยากจะขอบคุณแฟนคลับทุกท่าน แฟนคลับรายการ ONE ลุมพินี หรือแฟนคลับที่คอยติดตามตัวผมด้วย ผมจะพยายามทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุด และพยายามจะรักษามาตรฐานของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อความสุขของทุก ๆ ท่านและเพื่อความสมบูรณ์แบบของรายการครับ”
ติดตามข่าวสารและความคืบหน้าได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh