“ซานซาร์” คนแรกในสาย MMA ผู้คว้าสัญญาบนเวที ONE ลุมพินี
“ซานซาร์ ซาคิรอฟ” ดาวรุ่ง วัย 20 ปี จากอุซเบกิสถาน สร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักแบบเปรี้ยงปร้าง ด้วยการเป็นนักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) คนแรกจากเวทีลุมพินีที่คว้าสัญญา ONE ก้าวขึ้นสู่นักกีฬาระดับโลกอย่างเต็มตัว หลังโชว์ฟอร์มเด็ดเอาชนะรุ่นใหญ่วัย 32 ปีจากแดนซามูไร “เรียวสุเกะ ฮอนดะ” ในกติกา MMA รุ่นสตรอว์เวต (115-125 ป.) ในศึก ONE ลุมพินี 54 เมื่อวันศุกร์ที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา
เปิดฉากมายกแรกเป็น “ซานซาร์” ที่รุกหนัก เสิร์ฟอาวุธครบเครื่องทั้งเกมปล้ำ และเกมยืนเข้าโจมตี “เรียวสุเกะ” อย่างไม่ลดละ โดยมีจังหวะเรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมทั้งสนาม ด้วยการโชว์พลังแบก “เรียวสุเกะ” ไว้บนบ่านานกว่า 5 วินาที ก่อนจะทุ่มลงไปอย่างสวยงาม
ในยกต่อมา “ซานซาร์” ยังคงเดินหน้าเต็มกำลังไล่อัด “เรียวสุเกะ” จนอ่วมอรทัย และทำได้เพียงถอยหนีเพียงอย่างเดียว เป็นเหตุให้กรรมการต้องสั่งยุติการแข่งขันในนาที 3:35 ส่ง “ซานซาร์” คว้าชัยไฟต์ที่ 3 ติดต่อกันได้อย่างสวยงาม
ด้วยผลงานระดับ 5 ดาวในไฟต์นี้ ประกอบกับผลงานอันยอดเยี่ยมตลอด 2 ไฟต์ที่ผ่านมา ทำให้ บิ๊กบอส “ชาตรี” ไม่รอช้า ขอมอบของรางวัลสุดล้ำค่าเป็นสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) ให้เป็นของรางวัลสุดพิเศษแก่ “ซานซาร์” ทันที เพื่อส่งเขาก้าวขึ้นไปยืนบนเวทีการแข่งขันยิ่งใหญ่ระดับโลก ONE อย่างเป็นทางการ
โดยความสำเร็จของ “ซานซาร์” ในครั้งนี้ทำให้เขาได้รับการบันทึกว่าเป็นนักกีฬาสาย MMA คนแรกของรายการที่ใช้เวทีนี้เป็นบันไดสานฝันสู่ระดับโลกและเป็นรายที่ 12 ของ ONE ลุมพินีที่สามารถคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครอง
สำหรับจุดเริ่มต้นบนเส้นทางนักสู้ของ “ซานซาร์” เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จากการฝึกเทควันโด จนกระทั่งอายุ 10 ขวบ “ซานซาร์” เปลี่ยนสายย้ายไปร่ำเรียนในศาสตร์มวยปล้ำ และยูโด อีก 3 ปีต่อมา ยิมที่ “ซานซาร์” ใช้ในการฝึกยูโด ถูกปรับเปลี่ยนเป็นยิม MMA ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาก้าวเข้าสู่การฝึกซ้อมเพื่อเป็นนักสู้ MMA อาชีพอย่างจริงจัง ภายใต้การดูแลของโค้ช “จาซูร์เบก อานาร์บาเยฟ” (Jasurbek Anarbaev)
“ซานซาร์” เทิร์นโปรเข้าสู่การแข่งขัน MMA ครั้งแรก ในการแข่งขันที่ประเทศรัสเซีย เมื่อ 29 ส.ค.64 ก่อนที่ 5 เดือนต่อมา “ซานซาร์” จะได้รับข่าวดี เมื่อการแข่งขัน MMA ระดับอาชีพ ได้รับอนุญาตให้จัดขึ้นอย่างถูกกฎหมายในประเทศอุซเบกิสถาน กลายเป็นช่องทางให้เขาได้โอกาสกลับมาแสดงฝีมือขั้นเทพในบ้านเกิดอย่างต่อเนื่อง กระทั่งสามารถสร้างชื่อขึ้นมาในฐานะนักสู้ดาวรุ่งตัวอันตรายผู้ไร้พ่าย
หลังเดินสายเก็บชัยอย่างต่อเนื่อง “ซานซาร์” จึงได้รับโอกาสให้เข้ามาพิสูจน์ตัวเองในศึก ONE ลุมพินี 28 เมื่อ 11 ส.ค.66 ซึ่งไฟต์แรก ก็ต้องพบกับด่านหินอย่าง “เดฟ บางกุยกุย” นักสู้ฟอร์มแรงจากฟิลิปปินส์ ที่ก่อนหน้านี้เดินหน้าคว้าชัยมา 3 ไฟต์รวด
แม้จะมีประสบการณ์บนสังเวียนน้อยกว่า แต่ “ซานซาร์” ก็สามารถต่อกรกับ “เดฟ” ได้อย่างเหนือชั้น ด้วยการลุยเล่นงาน “เดฟ” แบบจัดหนักจัดเต็มทั้งเกมปล้ำและเกมยืน ก่อนจะปิดเกมด้วยการรัวหมัดชุดทุบไม่มียั้ง เอาชนะทีเคโอไปได้ในยกสุดท้าย
ไฟต์ต่อมา “ซานซาร์” ต้องโคจรมาพบกับ “ไซอุนดิน ซูไลมานอฟ” นักสู้ตัวตึงจากรัสเซีย ในศึก ONE ลุมพินี 42 เมื่อ 24 พ.ย.66 ซึ่งเขาก็ยังคงรักษาฟอร์มอันยอดเยี่ยมเอาไว้ได้ ด้วยการงัดเกมปล้ำมาเล่นงานคู่ต่อสู้จากแดนหมีขาวตลอดทั้ง 3 ยก จนสามารถเข้าวินด้วยคะแนนเอกฉันท์ คว้าชัยต่อเนื่องเป็นไฟต์ที่ 2 ติดต่อกัน
จนกระทั่งในไฟต์ล่าสุดที่ “ซานซาร์” ระเบิดฟอร์มเดือด ปิดเกมชนะทีเคโอ “เรียวสุเกะ” ไปแบบหมดทางสู้ในยกที่ 2 เก็บสถิติชนะรวด 3 ไฟต์ในศึก ONE ลุมพินี และเพิ่มสถิติรวมในการแข่งขันระดับอาชีพเป็น 10 ไฟต์ไร้พ่าย จนทำให้เขาสามารถก้าวเข้าสู่การเป็นนักกีฬาสังกัด ONE ได้สำเร็จ ด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น
ติดตามข่าวสารและความคืบหน้าได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh