ไม่แพ้ใคร 19 ไฟต์รวด รู้จัก “เอมี เพอร์นี” สาวแกร่งแดนสกอต คู่ต่อกรรายต่อไปของ “หยู เหยา ปุย”

Cover_OFN24_Amy01

ทำเนียบนักสู้หญิงรุ่นเล็กขอต้อนรับการมาถึงของ “เอมี เพอร์นี” กำปั้นสาวดีกรีโหด วัย 31 ปี จากสกอตแลนด์ ที่จะมาเปิดตัวเป็นครั้งแรก พบกับ “หยู เหยา ปุย” จอมบู๊ถอยไม่เป็น เจ้าของสถิติไร้พ่าย 6 ไฟต์ จากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง โดยพร้อมสู้กันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) ใน ศึก ONE Fight Night 24: จาร์เร็ด vs กุสตาโว ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 07.00 น. ในวันเสาร์ที่ 3 ส.ค.67



สำหรับ “เอมี” ถูกจับตามองว่าเป็นหนึ่งในนักสู้หญิงรุ่นเล็กฝีมืออันตรายของทวีปยุโรป โดยฝากผลงานยอดเยี่ยมด้วยสถิติชนะ 23 จาก 27 ครั้งที่ขึ้นสังเวียน และยังไม่เคยแพ้ใครมาตั้งแต่ปี 2556 นอกจากนั้นยังมีแชมป์การันตีความเก่งกาจจากเวทีชั้นนำในระดับนานาชาติ ได้แก่ แชมป์มวยไทย WBC อินเตอร์คอนติเนนทัล , แชมป์โลกมวยไทย ISKA, แชมป์ Enfusion และ แชมป์ Lion Fight เป็นต้น

เมื่อโอกาสในการสร้างให้ตัวเองก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักกีฬาหญิงที่เก่งที่สุดในโลกมาถึง “เอมี” ไม่พลาดตอบรับความท้าทายครั้งนี้ทันที มาดูกันว่าชีวิตที่ผ่านมาของเธอเป็นอย่างไร กว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นนักมวยไทยหญิงแถวหน้าของสกอตแลนด์


#เติบโตในย่านผู้ไม่มีอันจะกิน


“เอมี” เติบโตในย่านดาลมาร์น็อก ในเขตอีสต์เอนด์ เมืองกลาสโกว์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นพื้นที่ของผู้คนที่ไม่ค่อยจะมีกินมากนัก โดยอาศัยอยู่กับพ่อที่เป็นช่างไฟ และแม่ที่ทำงานในโรงงานและร้านรับพนัน รวมถึงน้องสาวอีกสองคน แม้จะไม่มีทรัพย์สมบัติมากมายแต่ก็อยู่กันอย่างมีความสุขดี

“ฉันมีวัยเด็กที่ค่อนข้างปกติ แต่ตอนที่ฉันอยู่ชั้นประถม ชีวิตข่วงนั้นไม่ง่ายเลย ฉันโดนรังแก ส่วนตอนที่ฉันเรียนมัธยมปลาย ก็พยายามทำตัวกลมกลืนกับคนอื่นมากกว่าโดดเด่น ฉันโฟกัสไปที่การฝึกซ้อม สอบให้ผ่าน และใช้เวลาอยู่กับครอบครัว”



“ครอบครัวของฉันรักกันดี คนภายนอกจะเห็นว่าบ้านเรารักกันมาก และนั่นไม่ใช่เพียงระหว่างพ่อแม่ของฉันกับพี่สาวเท่านั้น เพราะยังมีปู่ย่าตายาย ป้าและอา รวมถึงลูกพี่ลูกน้องของฉันด้วย ทุกคนต่างสนิทสนมกัน เราทุกคนผูกพันแน่นแฟ้นเป็นพิเศษ”


#เริ่มต้นที่เทควันโดจบที่มวยไทย


ในวัยเด็ก “เอมี” เล่าว่าตัวเองมีนิสัยซุกซนและชอบเล่นกีฬามาโดยตลอด เริ่มจากฟุตบอล และเทควันโด ก่อนที่อายุ 12 ปี จะได้เริ่มรู้จักมวยไทย ซึ่งเธอใช้เวลาฝึกฝนไม่นานก่อนลงแข่งขันเป็นครั้งแรก และได้รับชัยชนะ ทำให้เธอกระหายที่จะไปต่อในกีฬานี้ในระดับที่สูงขึ้น

“ฉันเล่นเทควันโดแบบดุดันเกินไป ฉันเบื่อเร็วมาก และบังเอิญได้ไปฝึกมวยมวยไทยกับลูกพี่ลูกน้องและลุงของฉันที่ได้งานใหม่พอดี แล้วก็ได้พบกับโค้ชแรบ (อิซาต) เขาพาลูกพี่ลูกน้องของฉันไปที่คลาสฝึกสอนของเขา ฉันก็ตามไปดูด้วย ก่อนจะลองฝึกดู จากนั้นฉันก็ติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้น”



“ตอนที่ฉันเริ่มต้น ฉันอยากเป็นที่หนึ่งในชั้นเรียน ฉันทุ่มสุดตัวเพราะชอบมวยไทยมากจริง ๆ และในอีก 6 สัปดาห์ต่อมา โค้ชถามฉันว่าอยากจะลงแข่งไหม จริง ๆ ฉันอาจไม่ใช่คนที่เก่งที่สุด แต่ฉันชอบมันมากจึงอยากพิสูจน์ว่าตัวเองทำได้ ฉันคิดว่าเพราะฉันทุ่มเทเต็มที่และมีจิตใจกล้าหาญ โค้ชจึงเลือกให้ฉันลงแข่งไฟต์แรก แล้วในระหว่างการชก คู่ชกก็ไม่ยอมออกจากมุมหลังจากยกแรก ฉันรู้สึกดีใจมาก ความรู้สึกนั้นมันเหลือเชื่อมาก”


#ครอบครัวต้องมาก่อน


หลังจากนั้นไม่นาน “เอมี” ที่กำลังสนุกอยู่กับมวยไทยที่ตัวเองรัก ต้องเจอกับปัญหาทางบ้านที่ยากจะรับมือไหว เมื่อแม่ของเธอมีอาการป่วย ทำให้เธอไม่สามารถทุ่มสมาธิให้กับการแข่งขันได้อย่างเต็มที่

“ตอนที่ฉันโตขึ้น แม่ของฉันป้วยด้วยโรคทางจิต สุดท้ายแม่ก็ติดเหล้าและยาเสพติด นั่นเป็นเวลาประมาณสามปีที่ค่อนข้างลำบาก ตอนนั้นฉันกำลังจะเข้าสู่วัยรุ่น ถือเป็นอุปสรรคครั้งใหญ่ คุณจะห่วงหน้าพะวงหลัง ไม่ได้โฟกัสไปที่เรื่องตรงหน้าหรือได้เกรดดี ๆ ฉันต้องดูแลแม่เป็นหลัก ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ต้องแบกรับไม่น้อยสำหรับเด็ก”   



ชีวิตในวัยเด็กและแม้กระทั่งมวยไทย ดูไม่สำคัญเมื่อเทียบกับการช่วยเหลือครอบครัวของเธอ แต่เมื่อพวกเขาผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดไปแล้ว ทำให้ เอมี มองเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า เธอควรออกแบบชีวิตที่ต้องการอย่างไร

“มีหลายอย่างที่ฉันได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ แต่หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดคือ ครอบครัวของคุณคือทุกอย่างสำหรับคุณ หากมีใครล้มลง คนที่เหลือก็ต้องคอยหนุนหลัง การกระทำนี้แสดงให้เห็นว่าครอบครัวคือทุกสิ่งทุกอย่าง”

“ฉันไม่อยากเดินตามรอยแม่หรืออยู่ในสถานการณ์ที่แม่ต้องเผชิญ ฉันคิดว่านั่นทำให้ฉันเดินไปบนเส้นทางที่ฉันต้องการทำสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน แม่ยังแสดงให้ฉันเห็นว่าไม่ว่าคุณจะตกต่ำแค่ไหนหรือชีวิตจะยากลำบากเพียงใด คุณสามารถเข้มแข็งและต่อสู้ในทุกสถานการณ์เพื่อไปสู่จุดที่คุณต้องการได้”


#เผชิญหน้าจุดวัดใจในอาชีพ


ด้วยความแข็งแกร่งที่ถูกหล่อหลอมจากการต่อสู้ดิ้นรนของครอบครัว ทำให้ เอมี ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดง่าย ๆ บนสังเวียน หลังจากคว้าตำแหน่งระดับประเทศหลายรายการ เธอก้าวขึ้นมายึดตำแหน่งเบอร์ 1 ของสหราชอาณาจักรในรุ่นน้ำหนักของเธอ ก่อนจะไต่ขึ้นสู่ระดับนานาชาติ อย่างไรก็ตาม วิกฤต โควิด อาการบาดเจ็บ และปัญหาสุขภาพจิตบางประการเกือบทำให้อาชีพของเธอต้องปิดฉากลง

“นานแล้วที่ฉันมีอาการบาดเจ็บเรื้อรังและฉันก็ประสบปัญหาสุขภาพจิตด้วยเช่นกัน เมื่อฉันอายุมากขึ้นและได้รับบาดเจ็บมากขึ้น รวมถึงช่วงโควิดที่ผ่านมา ทำให้ฉันลำบากใจมากในการพยายามหาทางกลับมาขึ้นชก ยิ่งฉันฝึกมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งได้รับบาดเจ็บมากขึ้นเท่านั้น เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจและความรู้สึกที่ฉันจะกลับไปชกอีกครั้ง” 



“มีจุดหนึ่งที่ฉันคิดว่า ‘ฉันจบเห่แล้ว ฉันจะแขวนนวมแล้ว ฉันทำเต็มที่แล้ว’ ฉันรู้สึกว่ากำลังจะเลิกชก แต่ฉันไม่อยากเลิกโดยยังไม่ได้ชกทิ้งทวน รู้สึกเหมือนว่าอาชีพของฉันยังไม่เสร็จสิ้น ฉันยังไม่ไปถึงจุดสูงสุด แค่หยุดชะงักชั่วคราว และไม่ใช่การหยุดที่ฉันเลือกเอง”

หลังเวลาผ่านไปกว่า 3 ปี “เอมี” ที่มีผลงานชนะรวด 19 ไฟต์ติดต่อกันตั้งแต่ปี 2556 ได้รับสายตรงจาก วัน แชมเปียนชิพ ติดต่อให้เธอกลับมาสวมนวมแล้วสานต่อสิ่งที่ตัวเองเริ่มต้นให้สำเร็จ โดยตอนนี้เธอมีความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงมีความกระหายอยากแสดงฝีมือใน ONE เต็มที่แล้ว



“แม้ฉันจะไม่แน่ใจว่าจะกลับไปชกมวยอีกหรือไม่ แต่ความกระหายที่จะประสบความสำเร็จและอยู่ในจุดสูงสุดนั้นไม่เคยหายไป หากคุณเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูง ความกระหายนั้นจะกลับมาอย่างรวดเร็วเสมอ ฉันไม่คิดว่ามันจะหายไปจริง ๆ เมื่อคุณมีบางอย่างที่ต้องทำให้สำเร็จลุล่วง ความกระหายนั้นก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น”

“และสิ่งหนึ่งคือฉันไม่เคยสู้โดยไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน เห็นได้ชัดว่าฉันไม่ได้ลงแข่งนานถึงสี่ปี แต่การเก็บตัวครั้งนี้ทำให้ฉันกลับมาเข้าฟอร์มและพร้อมลุยแล้ว”


240803 OFN24 MU YuVSPirnie 1200x1200px TH


โดยไฟต์นี้ “เอมี” หมายมั่นปั้นมือมากว่าต้องการชัยชนะสวย ๆ เพื่อแจ้งเกิดในระดับโลกอย่างเป็นทางการ พร้อมกับหยุดความร้อนแรงของ “เหยา ปุย” ที่ฝันอยากเก็บชัยชนะติดต่อกันเป็นไฟต์ที่ 7 ให้ได้ และเมื่อสองสาวสายลุยมาประจันหน้า ก็ทำนายได้เลยว่าเดือดแน่นอน

ติดตาม “เอมี vs เหยา ปุย” ศึก ONE Fight Night 24: จาร์เร็ด vs กุสตาโว ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันเสาร์ที่ 3 ส.ค.67 จองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 07.00 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

ดูเพิ่มเติมในหมวด บทความ

OL58 Seksan vs Yutaro Asahi (62)
Jonathan Haggerty vs Felipe Lobo OFN19 (52)
Shadow Mom
Suablack Tor Pran49 vs Craig Coakley OL46 (17)
Saemapetch VS Felipe Lobo60
Dimitri kovtun
Jompadej Nupranburi vs Kaichon Sor Yingcharoenkarnchang OL55 (1)
Cover_OFN24_Amy01
Hiroba Minowa Gustavo Balart ONE 165 12
Danielle Kelly Jessa Khan ONE Fight Night 14 8 scaled
Kulabdam Sor Jor Piek Uthai VS Nabil Anane (12)
Pongsiri PK Saenchai VS Soe Lin Oo (19)