เตี้ยมหาภัยจากคิวบา เปิดชีวิตอดีตนักมวยปล้ำโอลิมปิก “กุสตาโว” ก่อนขึ้นชิงแชมป์โลก ONE

Hiroba Minowa Gustavo Balart ONE 165 12

หากเอ่ยถึงนักสู้ที่ตัวเล็กที่สุดใน ONE แน่นอนว่าชื่อแรก ๆ ที่แฟนกีฬาการต่อสู้ทุกคนต้องนึกถึง คงหนีไม่พ้น “กุสตาโว บาลาร์ต” จอมบู๊ใจใหญ่วัย 37 ปี จากคิวบา เจ้าของส่วนสูง 150 ซม. ผู้มีสไตล์การต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์ และมีทักษะการปล้ำอันโดดเด่นชนิดที่เรียกได้ว่าหาตัวจับยากในพิกัดเดียวกัน


JarredGustavo_Promo05


โดย “กุสตาโว” ที่คว้าชัยมาได้ติดต่อกันถึง 4 ไฟต์ ได้รับโอกาสสำคัญที่สุดของชีวิต ด้วยการลงศึกชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE การต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นสตรอว์เวต (115 – 125 ป.) เฉพาะกาล พบกับ “เทพวานร” จาร์เร็ด บรูกส์ อดีตเจ้าบัลลังก์วัย 31 ปี จากสหรัฐอเมริกา ในศึก ONE Fight Night 24: จาร์เร็ด vs กุสตาโว ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 07.00 น. ในวันเสาร์ที่ 3 ส.ค.67

แต่ก่อนที่เกมการชกสุดระทึกในวันนั้นจะมาถึง วันนี้เราขอพามาย้อนดูเส้นทางชีวิตของ “กุสตาโว” ที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบมาตั้งแต่เด็ก เพื่อทำความรู้จักเขาให้มากยิ่งขึ้น


#พ่อแม่แยกทางตั้งแต่เด็ก


“กุสตาโว” เกิดในปี พ.ศ. 2530 ที่เมืองซานติอาโก เดอ คูบา ในประเทศคิวบา โดยต้องเผชิญอุปสรรคตั้งแต่อายุ 5 ขวบ หลังพ่อและแม่ของเขาตัดสินใจแยกทางกัน อย่างไรก็ตาม การเติบโตขึ้นมาพร้อมกับพี่ชายอีกคนในครอบครัวใหม่ของพ่อ กลับทำให้เขารู้สึกโชคดีที่เหมือนได้มีสองครอบครัวคอยช่วยดูแลฟูมฟักเขาขึ้นมา

“ตอนที่พ่อแม่ตัดสินใจแยกทางกัน ตอนนั้นผมอายุ 5 ขวบ แม่ของผมย้ายไปอยู่จังหวัดอื่นในคิวบา ส่วนผมย้ายไปอยู่กับพ่อ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องทำใจลำบาก แต่พ่อและแม่ยังคงอยู่ใกล้ชิดกับผมเสมอ และผมสามารถพูดได้เลยว่าผมมีแม่สองคน เพราะแม่เลี้ยงที่ใช้ชีวิตอยู่กับพ่อของผมมานานกว่า 20 ปี ปฏิบัติต่อผมไม่ต่างจากแม่ผู้ให้กำเนิด พวกท่านทั้งสองมอบความรักและความห่วงใยให้ผมอยู่เสมอ”


#พุ่งชนความสำเร็จในกีฬามวยปล้ำ


“กุสตาโว” เริ่มฝึกวิชามวยปล้ำตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โดยมีคุณพ่อที่มีดีกรีเป็นถึงนักกีฬามวยปล้ำทีมชาติคิวบา เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาให้แบบหมดเปลือก จนทำให้ฝีไม้ลายมือของ “กุสตาโว” พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนสามารถประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มวยปล้ำ แพน อเมริกัน เกรโก-โรมัน มาครองถึง 3 สมัย รวมถึงยังก้าวไปถึงจุดสูงสุดของการเป็นนักมวยปล้ำ ด้วยการเป็นตัวแทนทีมชาติคิวบา เข้าแข่งขันในการกีฬาโอลิมปิก ปี 2555 ที่ประเทศอังกฤษอีกด้วย

“ผมเห็นพ่อเล่นมวยปล้ำมาตลอดในฐานะนักกีฬาทีมชาติคิวบา ผมมักติดสอยห้อยตามพ่อไปดูการแข่งขัน ซึ่งนั่นคือแรงบันดาลใจให้ผมเดินตามรอยของพ่อ ผมอยากทำให้พ่อภูมิใจที่ได้เห็นผมเป็นนักมวยปล้ำ ผมเริ่มฝึกมวยปล้ำตอนอายุ 7 ขวบ ในคลาสมวยปล้ำเกรโก–โรมันสำหรับเยาวชน และพ่อก็ได้เห็นแววในตัวผม เขาจึงตัดสินใจฝึกสอนผมด้วยตัวเอง”



“การได้ลงแข่งในโอลิมปิก เป็นความฝันของนักกีฬาทุกคน หลายคนได้แค่ฝัน แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำได้ มันต้องใช้ความเสียสละ มุมานะ พยายามอย่างมาก ผมผ่านมันมาได้เพราะมีพ่อคอยผลักดันในวันที่ผมท้อแท้ พ่อมาเติมเต็มความเข้มแข็งให้ผม และอยู่เคียงข้างผมมาตลอดเส้นทางอาชีพ”


#ยอมห่างครอบครัวเพื่อเอาดีในสาย MMA


แม้ กุสตาโว จะประสบความสำเร็จในฐานะนักมวยปล้ำสมัครเล่น แต่เนื่องจากรายได้ที่ยังไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูครอบครัว เขาจึงตัดสินใจใช้ประโยชน์จากทักษะมวยปล้ำที่แข็งแกร่งของตนเอง เปลี่ยนเส้นทางสู่การเป็นนักกีฬา MMA เต็มตัว

แม้การเลือกเดินสายนี้ จะทำให้เขาต้องจากลูกและภรรยาที่คิวบา เพื่อเดินทางมาแสวงหาโอกาสความก้าวหน้าที่สหรัฐอเมริกา แต่เขาก็ต้องกลั้นใจที่จะเดินทางไกลออกมา เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของครอบครัวที่อยู่ข้างหลัง



“ผมรู้แก่ใจว่า MMA เป็นทางสว่างในชีวิตผม ทั้งในแง่ของผลตอบแทน ชื่อเสียง และโอกาสที่จะได้ออกจากคิวบา แน่นอนว่ามันเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ หลายคนไม่เชื่อมั่นในตัวผม พวกเขาสงสัยว่านักสู้อย่างผมจะสามารถประสบความสำเร็จใน MMA ได้จริงหรือ แต่คนที่เชื่อในตัวผมเสมอ จะภูมิใจในตัวผมมาก เหมือนกับพ่อของผม ที่ย้ายมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาด้วยกันกับผม”

“ตอนที่ผมออกจากคิวบา ผมต้องทิ้งลูกสาววัย 5 ขวบ และ 3 ขวบ รวมถึงภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ได้สามเดือน มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากมาก แต่ผมจำเป็นต้องไปจริง ๆ เพราะที่สหรัฐอเมริกา ผมมีโอกาสทำสิ่งที่ผมไม่เคยทำให้พวกเขาได้ตอนอยู่คิวบา แต่แน่นอนว่าการจากมามีราคาที่ต้องจ่าย เพราะแม้วันนี้ผมจะสามารถให้อะไรกับลูกทั้ง 3 มากมาย แต่ผมกลับไม่สามารถมอบความรักทั้งหมดที่มีและเลี้ยงดูสั่งสอนพวกเขาด้วยตัวเองได้เลย”


#หวังพาครอบครัวกลับมาอยู่พร้อมหน้า


ที่สหรัฐอเมริกา “กุสตาโว” ได้เข้าไปเก็บตัวฝึกซ้อมในยิมชื่อดังอย่างอเมริกัน ท็อป ทีม ในรัฐฟลอริดา และเริ่มต้นเส้นทางการเป็นนักกีฬา MMA อาชีพ ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการลงแข่งขัน 9 ครั้ง ชนะ 8 (น็อก 2) แพ้ 1 จนทำให้เขาได้รับข้อเสนอสัญญาให้เข้ามาเป็นนักกีฬาในสังกัด ONE โดยเปิดตัวด้วยการเป็น 1 ใน 8 นักสู้ยอดฝีมือของทัวร์นาเมนต์ ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต

แม้ “กุสตาโว” จะเปิดตัวด้วยความพ่ายแพ้ ร่วงตกรอบแรกของทัวร์นาเมนต์ รวมถึงแพ้ในอีก 2 ไฟต์ต่อมา แต่ด้วยความสูงเพียง 150 ซม. บวกกับสไตล์การต่อสู้ที่บู๊ดุดัน เดินหน้าบุก สู้ไม่ถอย จึงทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักสู้ที่เหล่ากองเชียร์ต่างพร้อมใจกันเอาใจช่วยอยู่ตลอดทุกครั้งที่ลงแข่งขัน



ในที่สุดไฟต์ที่ 4 “กุสตาโว” จึงสามารถปลดล็อกเก็บแต้มชัยแรกได้สำเร็จ ก่อนจะสานต่อฟอร์มฮอตคว้าชัยได้อีก 3 ไฟต์ติดต่อกัน และได้รับโอกาสครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต ขึ้นชิงบัลลังก์เฉพาะกาลกับ “จาร์เร็ด บรูกส์” อดีตราชันของรุ่นนี้ ในศึก ONE Fight Night 24: จาร์เร็ด vs กุสตาโว ซึ่งเจ้าตัวพร้อมทุ่มหมดหน้าตักเพื่อคว้าเข็มขัดมาครองให้ได้ เพราะความสำเร็จนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เขาสามารถพาภรรยาและลูก ๆ ทั้ง 3 คนย้ายมาอยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้าอีกครั้ง

“เป้าหมายหลักของผมคือการนำครอบครัวมาอยู่ด้วยที่อเมริกาให้เร็วที่สุด สิ่งเดียวที่ผมปรารถนาคือการได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกสาว ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นและพร้อมทุ่มเทเต็มที่ในการแข่งขัน ผมต้องชนะ และพาภรรยาและลูก ๆ มาอยู่ด้วยกันให้ได้”

ติดตาม “กุสตาโว vs จาร์เร็ด” ศึก ONE Fight Night 24: จาร์เร็ด vs กุสตาโว ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันเสาร์ที่ 3 ส.ค.67 จองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 07.00 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

ดูเพิ่มเติมในหมวด บทความ

OL58 Seksan vs Yutaro Asahi (62)
Jonathan Haggerty vs Felipe Lobo OFN19 (52)
Shadow Mom
Suablack Tor Pran49 vs Craig Coakley OL46 (17)
Saemapetch VS Felipe Lobo60
Dimitri kovtun
Jompadej Nupranburi vs Kaichon Sor Yingcharoenkarnchang OL55 (1)
Cover_OFN24_Amy01
Hiroba Minowa Gustavo Balart ONE 165 12
Danielle Kelly Jessa Khan ONE Fight Night 14 8 scaled
Kulabdam Sor Jor Piek Uthai VS Nabil Anane (12)
Pongsiri PK Saenchai VS Soe Lin Oo (19)