นักสู้แฟมิลีแมน “มาวโร เซริลลี” เจ้าของโลกสองใบที่แตกต่าง
นักสู้แฟมิลีแมน “The Hammer” มาวโร เซริลลี บนเวทีกับที่บ้านคือโลกสองใบที่แตกต่างราวกับหน้ามือ-หลังมือ ภาพติดตาที่แฟน ๆ เห็นเขาต่อสู้กับคู่แข่งบนสังเวียนอย่างเกรี้ยวกราดและเป็นจอมน็อกเอาต์บ้าพลัง แต่เมื่อกลับถึงบ้านคุณพ่อร่างใหญ่วัย 37 ปีชาวอิตาลี กลายเป็นแฟมิลีแมนผู้อ่อนโยนของภรรยาและลูก ๆ ทั้งสามคน
ก่อนที่จะถึงศึกสำคัญซึ่ง มาวโร ก้าวขึ้นเป็นคู่เอกกับ “Dagestan Machine” อับดุลบาเซียร์ วากาบอฟ ในศึก ONE: UNBREAKABLE II ซึ่งจะออกอากาศบันทึกการแข่งขันในวันศุกร์ที่ 29 มกราคมนี้ เรามาทำความรู้จักเจ้าของฉายา “The Hammer” กันให้มากขึ้น แล้วจะรู้ว่าชีวิตของเขาน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
โลกส่วนตัว
มาวโร เกิดและเติบโตในเมืองแตร์ราชินา เมืองชายฝั่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงโรม เมืองหลวงของอิตาลี เขาอาศัยอยู่กับพ่อแม่และน้องสาว
เจ้าตัวยอมรับว่าเขาเป็นเด็กเจ้าปัญหาคนหนึ่ง พ่อจึงส่งให้เขาไปเรียนยูโดเพื่อดัดนิสัยดื้อรั้นและซนเป็นลิง ไม่ไปมั่วสุมในทางที่ไม่ดี เพราะมีตัวอย่างให้เห็นจากเพื่อน ๆ ของเขาหลายคน
ช่วงแรก ๆ มาวโร สนุกกับการฝึกยูโดมาก แต่หลังจากเขาเริ่มโตเป็นวัยรุ่นตอนปลาย เขาได้สร้างพันธะให้ตัวเองตั้งแต่ยังหนุ่ม โดยตัดสินใจมีครอบครัวและลูกสาวที่เขาต้องทุ่มเทเวลาให้ ชีวิตในช่วงนั้นมีหลายอย่างที่น่าสนใจจนทำให้เขาไม่ได้ฝึกยูโดอีก
แต่หลังจากที่เขาหย่าร้างกับภรรยาคนแรก เขาก็หันกลับมาเล่นกีฬาเพื่อลดน้ำหนัก ซึ่งนั่นเป็นการจุดประกายเป้าหมายอื่น ๆ ตามมาในเส้นทางนักสู้
“ศิลปะการต่อสู้เปลี่ยนชีวิตผม ทำให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้นได้ หลังเลิกกับภรรยา ผมอยู่กับลูกสาวแค่สองคน การเลี้ยงดูลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของผม”
“ตอนนี้ผมแต่งงานใหม่ เป็นคุณพ่อลูกสาม เป็นหัวหน้าครอบครัว ลูก ๆ ของผมคือความภาคภูมิใจและความสุขในชีวิต”
โลกบนสังเวียน
คุณพ่อนักสู้ชาวอิตาลี เริ่มเข้าสู่วงการกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) เมื่อเดือนเมษายน 2555 ตอนที่เขาอายุ 29 ปี โดยฉายา “The Hammer” นั้นได้มาจากพื้นเพเดิมที่เขาเป็นช่างตีเหล็กมาก่อน
มาวโร กำชัยชนะต่อเนื่องไร้พ่ายถึง 7 ไฟต์ โดย 4 ครั้งจบแบบไม่ครบยก และกลายเป็นหนึ่งในนักสู้ดาวรุ่งเลือดร้อนที่สุดของรุ่นเฮฟวีเวตในยุโรป
หลังจากตัดสินใจย้ายลงมาในรุ่นไลต์เฮฟวีเวตโดยพยายามลดน้ำหนักเหลือ 93 กิโลกรัม เขาก็พบกับความพ่ายแพ้สองครั้งติดต่อกัน มันเลวร้ายถึงขั้นทำให้เขาคิดแขวนนวม
“โชคดีที่ผมไม่ได้ตัดสินใจทำตามอารมณ์ชั่ววูบ ครอบครัวของผม ภรรยา และเพื่อน ๆ ที่ผมร่วมฝึกมาด้วยกัน ต่างก็ให้กำลังใจ ทำให้ผมมีแรงลุกขึ้นสู้ต่อ และกลับมาชกในรุ่นน้ำหนักธรรมชาติของผม”
เมื่อยักษ์ใหญ่คืนชีพสู่น้ำหนักที่เขาถนัด ตลอดระยะเวลา 2 ปีหลังจากนั้นเขาก็กวาดชัยชนะ 5 ไฟต์ติดต่อกัน โดย 4 ครั้งเป็นการชนะน็อก ผลงานการปิดเกมด้วยเวลาเพียง 15 วินาทีในการป้องกันแชมป์ Cage Warriors รุ่นเฮฟวีเวตครั้งแรก ส่งให้เขาก้าวเข้าสู่เวทีระดับโลก
แบรนดอน vs มาวโร
เหมือนฝันที่เป็นจริงกับการได้ก้าวขึ้นชิงแชมป์โลก ONE รุ่นเฮฟวีเวตทันทีที่มาเปิดตัวใน วัน แชมเปียนชิพ โดยเผชิญหน้ากับเจ้าบัลลังก์ผู้ยิ่งใหญ่ “The Truth” แบรนดอน เวรา ซึ่งแม้บทสรุปจะลงเอยด้วยความผิดหวัง แต่เขากลับค้นพบว่าตัวเองอยู่ในเวอร์ชันที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน ซึ่งหลังจากนั้นอีก 3 เดือนต่อมา มาวโร ก็โชว์ผลงานน็อกเจ้าตำนานไอคอนชาวแคเมอรูน-ฮ่องกง “อเล็น เอ็นกาลานี” ได้ในครึ่งยกแรก
“ผมอยากพิสูจน์ว่า ผมคือผู้ท้าชิงตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวตตัวจริง มาวโร เซริลลี เวอร์ชัน 2.0 พร้อมแล้วทั้งร่างกายและจิตใจ”
มาวโร vs อเล็น (8 มี.ค.62)
เหนือสิ่งอื่นใด “The Hammer” ไม่ลืมที่จะทิ้งท้ายถึงผู้อยู่เบื้องหลังกำลังใจนั่นคือ ครอบครัว เขาพยายามเป็นซูเปอร์ฮีโร่ในชีวิตจริงเพื่อพวกเขา และเป็นแบบอย่างของนักกีฬาที่มีความซื่อสัตย์ มีน้ำใจ ถ่อมตน และให้เกียรติคู่แข่งขันทุกครั้งที่อยู่บนสังเวียน
“ผมอยากแสดงให้ลูก ๆ เห็นว่าการเผชิญหน้ากับความกลัวและแสดงความกล้าหาญออกมาเป็นสิ่งสำคัญ มันเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต คติประจำใจของผมคือ เผชิญหน้ากับความกลัวและปัญหา สู้เพื่อเอาชนะมัน นั่นคือสิ่งที่ผมปฏิบัติทุกวัน”
อ่านเพิ่มเติม: